แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...nn ข้าพเจ้าอยากให้ทุกคนนึกถึงกฎแห่งเหตุผลว่าผลเกิดขึ้นเพราะเหตุ คือ การกระทำ และผลนั้นจะเป็นผลดีหรือผลเสีย ก็เพราะกระทำให้ดีหรือให้เสีย ดังนั้น การที่จะทำงานใดให้บรรลุผลที่พึงประสงค์ จะต้องพิจารณาถึงวิธีการที่เหมาะสมก่อนเป็นเบื้องต้น แล้วลงมือกระทำตามหลักแห่งเหตุผล ด้วยความตั้งใจจริงและด้วยความสุจริต งานของแต่ละคนจึงจะเป็นผลดี และเชื่อได้ว่า ผลงานของแต่ละคนจะประมวลกันเป็นความเจริญมั่นคงของบ้านเมืองได้ดั่งปรารถนา... (ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 9 กรกฎาคม 2513)...
nn นักการเมืองไทยจำนวนไม่น้อย นอกจากจะถูกมองว่ามีความน่าเชื่อถือต่ำ มีแนวโน้มทุจริตสูง มีความฉ้อฉลสูงมาก และมีพฤติกรรมโป้ปดมดเท็จสูงมากๆ พฤติกรรมน่ารังเกียจสารพัดชนิดของเหล่านักการเมือง สามารถดูได้จากการโกหกพกลมเวลาหาเสียง โดยเฉพาะสังเกตได้ชัดเจนจากป้ายหาเสียง รวมถึงการโกหกอย่างชัดเจนบนเวทีหาเสียง ยิ่งปล่อยให้คนจำพวกนี้พล่ามไปเรื่อยๆ โดยไม่มีใครขัดคอ ก็จะยิ่งพบคำโกหกหลุดออกมาจากปากของนักการเมืองจนจำไม่หวาดไม่ไหว...
nn คำโกหกจากนักการเมืองถูกพูดให้สวยหรูว่าเป็นนโยบายของพรรคการเมือง แต่น่าสมเพชที่นโยบายต่างๆ เหล่านั้นคือนโยบายประชานิยม มีหลายเรื่องที่นักการเมืองโกหกอย่างชนิดที่เรียกได้ว่า หากไม่บ้า ก็ต้องหน้าหนาสุดขีด เพราะเป็นเรื่องที่ไม่มีวันทำได้จริงเป็นอันขาด เพราะนอกจากจะไม่มีเงินงบประมาณสนับสนุนแล้ว ยังไม่มีบุคลากรด้านสาธารณสุขรองรับอีกด้วย...
nn เอาง่ายๆ นะคุณ คุณลองถามนักการเมืองที่ลอยหน้าโกหกประชาชนดูสิว่า ในยามที่คนจอมโกหกมดเท็จเหล่านี้เจ็บป่วย เขาไปหามดหาหมอที่ไหน ไปใช้บริการบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค หรือใช้ประกันสังคม ถามเขาไปเลยว่าเคยไปดูสภาพแท้จริงในโรงพยาบาลรัฐ โดยเฉพาะโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีคณะแพทยศาสตร์ บ้างหรือไม่ การเพ้อไปโดยไม่มีข้อเท็จจริง นอกจากจะแสดงให้เห็นว่าโกหกมดเท็จแล้ว ยังแสดงให้เห็นด้วยว่า พูดโดยไร้ความรับผิดชอบ พูดเสมือนผายลมทางปาก คนแบบนี้ไม่มีความน่าเชื่อถือแม้แต่น้อย...
nn ฝากถามนักการเมืองว่าเวลาพ่อแม่และลูกเมียหรือผัวนักการเมืองป่วย เขาเหล่านั้นไปรับการรักษาที่ไหน ใช้บัตรทอง หรือประกันสังคมหรือไม่ หรือใช้อภิสิทธิ์ลัดคิวแซงคิวชาวบ้านไปแย่งใช้บริการโรงพยาบาลของรัฐทุกครั้งไป หรือพาญาติโกโหติกาของตนบินไปรักษาโรคในต่างประเทศ เรื่องแบบนี้ต่อให้พยายามโกหกสักเพียงใด ก็ไม่สามารถทำให้ความเรื่องเท็จกลายเป็นจริง แล้วก็ไม่สามารถตบตาผู้มีสติปัญญาได้...
nn ทำไมนักการเมืองกล้าโกหกประชาชน เขาเห็นว่าประชาชนโง่ หรือเป็นเพราะว่านักการเมืองไม่เคยพูดความจริงแม้แต่เพียงครั้งเดียว หรือเป็นเพราะว่าเขาได้ใจที่โกหกกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ยังมีคนหลงลมปาก และโกหกมาตั้งนานตั้งนมก็ไม่เคยโดนลงโทษ เพราะฉะนั้นจึงกลายเป็นนิสัยส่วนลึก (สันดาน) ไปโดยปริยาย..
nn การขายนโยบายแจกเงินหัวละ 1 หมื่นบาท ผ่านระบบดิจิทัล โดยแจกให้กับคนที่อายุ 16 ปีขึ้นไป ถูกวิจารณ์อย่างหนัก เพราะเห็นว่าเป็นการขายนโยบายที่น่าจะทำให้เกิดปัญหาด้านการเงินการคลังของประเทศในอนาคต ประเด็นที่ถูกถามว่าที่สุดคือ คนขายนโยบายนี้จะมีปัญญาหาเงินจากไหนมาแจกตามคำโฆษณาชวนเชื่อ ต้องกู้เงินจนกลายเป็นปัญหาหนี้สินของรัฐบาลไปอีกกี่แสนล้านหรือกี่ล้านล้านบาท เรื่องนี้ยังไม่มีใครมองว่าผิดกฎหมาย แต่มองว่าน่าจะมีปัญหาด้านวินัยการเงินการคลังของประเทศ เพราะฉะนั้น พรรคที่ขายนโยบายนี้ไม่ต้องบอกว่าเรื่องนี้ไม่ผิดกฎหมาย เพราะยังไม่มีใครกล่าวหาว่าผิดกฎหมาย แต่ก็ไม่แน่นะ หากมีผู้ชี้ชัดว่าเรื่องนี้ผิดกฎหมาย ก็มีหวังพรรคที่เสนอแจกเงินหัวละ 1 หมื่นบาท ก็ต้องเจอปัญหาหนักอีก...
nn ส่วนคำถามที่ว่าใครคิดนโยบายนี้ ก็ต้องย้อนกลับไปถามกลุ่มของ โอฬาร ไชยประวัติ และคณะทำงานภายใต้การดูแลของโอฬาร ถามว่าทำไมโอฬารคิดนโยบายนี้ให้พรรคการเมือง ก็ต้องบอกว่า ให้ย้อนกลับไปดูว่าโอฬารมีความสนิทแนบแน่นกับทักษิณ ชินวัตร มากน้อยเพียงใดแล้วโอฬารเคยรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในสมัยยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นหัวหน้ารัฐบาล แม้หลายคนจะบอกว่าโอฬารเคยเป็นผู้บริหารสูงสุดของธนาคารไทยพาณิชย์ ไม่น่าที่จะเข้าไปสนิทสนมกับทักษิณได้ ก็มีเสียงโต้กลับว่าทำไมหรือ ทำงานให้ไทยพาณิชย์แล้วจะสนิทสนมกับทักษิณไม่ได้หรือ มีข้อห้ามอะไรหรือ เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ความสนิท และผลประโยชน์ต่างตอบแทน ส่วนเรื่องสำนักเก่าที่เคยใช้เป็นที่ทำงานเลี้ยงกระเพาะอาหารนั้น มันคนละประเด็นกัน เรื่องเก่าก็คือเรื่องเก่าเรื่องใหม่ก็คือเรื่องใหม่ เรื่องผลประโยชน์ก็คือเรื่องของผลประโยชน์ หากผลประโยชน์ลงตัว ก็ไม่จำเป็นต้องคำนึงว่าเคยทำงานกับไทยพาณิชย์ แล้วก็ไม่ต้องประหลาดใจที่คนเก่าของไทยพาณิชย์จะไปทำงานให้กับพรรคเพื่อไทย เพราะทุกอย่างอยู่ที่ผลประโยชน์ที่ทำให้พึงพอใจ...
nn ปีนี้ประเทศไทยจะเจอปัญหาภัยแล้งหนักหน่วงสักเพียงใด คำถามนี้ถูกถามกันหนักมาก เพราะเมื่อดูจากสภาพความร้อนและความแล้งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ก็ทำให้เกิดความวิตกกันค่อนข้างมาก ล่าสุด สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ระบุว่าตั้งแต่ต้นปีนี้มาจนถึงปัจจุบัน พื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศของไทยมีฝนตกลงมาน้อยกว่าค่าปกติประมาณร้อยละ24 ยกเว้นเพียงภาคใต้ฝั่งตะวันออกที่มีฝนตกลงมามากกว่าค่าเฉลี่ยปกติ และคาดว่าจะประสบปัญหาฝนน้อยกว่าค่าเฉลี่ยปกติไปจนถึงเดือนกรกฎาคมปีนี้ อย่างไรก็ตาม ยังนับว่าโชคดีที่ปริมาณน้ำในเขื่อนต่างๆ ทั่วประเทศยังมีปริมาณที่มากกว่าปีที่แล้วอยู่ประมาณ 1 พันล้านลูกบาศก์เมตร...
nn คาดว่าปีนี้ประเทศไทยอาจเผชิญปัญหาเอลนิโญ หรือปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก โดยปัญหานี้จะเกิดในห้วงระยะเวลาทุกๆ สองปี...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี