แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...nn อันการคิดโดยเป็นอิสระนั้น ทุกวันนี้คนบางส่วนมักเข้าใจว่าคือการคิดให้ผิดแปลกแตกต่างจากคนอื่นๆ ความเข้าใจเช่นนั้นยังไม่ถูกแท้ จุดประสงค์สำคัญโดยตรงของการคิด คือคิดให้ออก คิดให้เห็นชัดแจ้งว่าอะไรเป็นอะไร สมมติว่าจะคิดหาทางปฏิบัติสำหรับการหนึ่งการใด ก็ต้องคิดให้แยบคายอย่างละเอียดรอบคอบ ประกอบด้วยเหตุผล จนเห็นแจ้งถึงจุดมุ่งหมายอันถูกต้องเที่ยงตรงของการที่จะทำนั้น รวมทั้งวิถีทางปฏิบัติครบทุกขั้นทุกตอนด้วย เป็นความจริงที่การคิดดังนี้ อาจเป็นการซ้ำกับของผู้อื่นบ้าง แต่เชื่อว่าจะช่วยให้บรรลุประโยชน์อันพึงหวังได้แน่นอน ส่วนวิธีคิด ที่มีจุดมุ่งหมายจะให้แปลกแตกต่างจากผู้อื่นเป็นที่ตั้งแต่อย่างเดียวนั้นก็ทำได้เหมือนกัน แต่เกรงว่าจะไม่ทำให้เกิดประโยชน์อื่นใดขึ้นมานอกจากความแปลกประหลาดที่มุ่งหมายไว้แต่ต้นนั้นประการเดียว...(ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 11 กรกฎาคม 2517)...

nn วันเลือกตั้ง สส. ทั่วประเทศผ่านไปแล้วครึ่งเดือน แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องพรรครัฐบาลผสมชุดใหม่ที่จะมาทำหน้าที่บริหารประเทศสืบต่อจากรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อยังไม่มีรัฐบาลชุดใหม่ที่ชัดเจน ก็หมายความว่ารัฐบาลประยุทธ์ก็ทำหน้าที่รักษาการไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่เสร็จเรียบร้อย ส่วนรัฐบาลใหม่จะมีนายกรัฐมนตรีชื่ออะไรก็เป็นเรื่องที่ต้องรอดูจนกว่าจะมีการเสนอชื่อบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรก่อน หากยังไม่รู้ชื่อประธานสภา ก็ไม่ต้องหวังว่าจะรู้ชื่อผู้ถูกเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี...

nn หลายคนถามว่าทำไมจึงมีชื่อวันมูหะมัดนอร์ มะทาจากพรรคประชาชาติ พรรคที่ได้ สส.เพียง 9 เสียง ถูกเปิดในลักษณะโยนหินถามทางว่า จะให้วันนอร์ไปกินตำแหน่งประธานสภา เรื่องนี้มีคนในวงการการเมืองไทยบอกว่า ไม่คิดว่าวันนอร์จะคว้าตำแหน่งประธานสภาไปครองได้สำเร็จ เพราะไม่เคยปรากฏในวงการการเมืองไทยว่าพรรคที่ได้ สส. เพียงไม่กี่เสียงจะได้กินตำแหน่งประธานฝ่ายนิติบัญญัติ แล้วที่สำคัญคือพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยไม่มีวันยอมให้พรรคเล็กคว้าตำแหน่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติไปกินแน่นอน ยกเว้นว่าวันนอร์จะยอมย้ายพรรคไปอยู่กับก้าวไกลหรือเพื่อไทย...

nn เรื่องการ vote ให้บุคคลที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีที่ต้องผ่านกระบวนการนี้โดยสมาชิกวุฒิสภา ยังเป็นเรื่องที่ต่างคนต่างพูด เพราะฝั่งของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลที่มุ่งหวังว่าจะต้องได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ล่าสุด ก็บอกว่าไปหารือกับ สว. แล้ว ผลปรากฏว่าได้ผลการเจรจาที่น่าพอใจมาก แต่เมื่อ ธรรมกร พูดคุยตรงๆ และโทรศัพท์สอบถาม สว. หลายคนโดยเฉพาะสายทหาร และสายนักธุรกิจ ก็ได้รับ
คำตอบว่า พี่ไม่เคยคุยกับพิธาหรือว่าใครก็ตามที่พิธาอ้างว่าส่งไปคุยกับ สว. แต่พี่ก็ไม่สามารถตอบแทน สว. คนอื่นๆ ได้ เพราะมี สว. กว่า 200 คน เขาไปคุยกับใครพี่ไม่ทราบ แต่ยืนยันได้ว่าเขาไม่เคยมาคุยกับพี่ แล้วถ้าหากเขาติดต่อขอมาเจรจา พี่ก็ต้องถามตรงประเด็นคือ จะเอาอย่างไรกับ มาตรา 112 จะยกเลิกใช่ไหม หรือจะแก้ไขตรงไหนบ้าง ต้องบอกประเด็นเหล่านี้ให้ชัดเจน เพราะมิฉะนั้น ก็ไม่คุยเรื่องมาตรา 112 เด็ดขาด เพราะกลุ่มของพี่ยืนยันว่าต้องรักษามาตรา 112 ไว้ การจะแก้ไขมาตรา 112 ต้องชัดว่า แก้ไขอะไร ประเด็นไหน ไม่สามารถพูดลอยๆ ได้ แล้วเรื่องยกเลิกองคมนตรีนั้น ในฐานะสว. พี่เห็นว่าไม่ใช่เรื่องของคนทั่วไป เพราะเรื่องนี้เป็นพระราชอำนาจโดยแท้ และเป็นเรื่องที่สุดแต่พระบรมราชวินิจฉัย เพราะเป็นเรื่องพระราชภารกิจในพระองค์ คนอื่นๆ ไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้...

nn กลับไปที่เรื่องการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีให้รัฐสภาพิจารณาลงความเห็นชอบ เรื่องนี้ยิ่งปล่อยไปนานวัน ก็ยิ่งทำให้เข้าใจและเห็นได้ชัดมากขึ้นว่า โอกาสที่พิธา จากก้าวไกลจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีก็ยิ่งเลือนราง และจางหายไปเรื่อยๆ แต่ความกระจ่างชัดจะไปตกอยู่กับฝั่งของเพื่อไทยมากขึ้นเป็นลำดับ ส่วนคำพูดของหัวหน้าพรรคเพื่อไทยชลน่าน ศรีแก้ว ที่เอ่ยคำหวานให้ฟังรื่นหูของพิธาว่า เพื่อไทยสนับสนุนพิธาให้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ก็เป็นแค่เพียงลมปากนักการเมืองเท่านั้น คนที่รู้เช่นเห็นชาตินักการเมือง ไม่มีวันหลงเชื่อลมปากของนักการเมืองอย่างแน่นอน อย่าลืมว่านักการเมืองไทยนั้น พูดอะไรก็ได้ทั้งหมด แต่พูดแล้วทำได้จริงนั้นหาได้ยากเย็นยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร...

nn ตั้งแต่ผลเลือกตั้งปรากฏออกมาตั้งแต่วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม 2566 จนบัดนี้ ก็ยังคงเห็นว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยร่วงลงมากกว่าเพิ่มขึ้น แล้วก็ยังคงร่วง ร่วง และร่วงอยู่เรื่อยๆ ถามว่าหุ้นร่วงเพราะอะไรตอบว่าเพราะนักลงทุนรายใหญ่เห็นว่าพรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้ง ถามต่อไปว่า ก้าวไกลชนะแล้วทำไมหุ้นร่วง ตอบว่า เพราะนักลงทุนรายใหญ่ไม่มั่นใจในพรรคก้าวไกล หรือพูดชัดๆ ก็คือไม่ศรัทธาในพรรคก้าวไกล...

nn ส่วนเรื่องตลกที่คนของก้าวไกลที่อยากนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีคลังบอกมาเล่นตลกโดยบอกว่า หุ้นตกเพราะนักลงทุนกลัวว่าก้าวไกลจะไม่ได้เป็นรัฐบาล และกลัวว่าพิธาจะไม่ได้กินตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เรื่องนี้ก็ต้องบอกชัดๆ ว่า เป็นเรื่องตลกที่ฟังแล้วชวนร้องไห้ผสมอาเจียนไปพร้อมๆ กัน ดีนะที่คนตะกายอยากจะเป็นรัฐมนตรีคลังจากพรรคก้าวไกลไม่บ้าจี้ตอบว่า หุ้นตกเพราะตลาดหุ้นกลัวว่ารัฐมนตรีคลังคนใหม่จะไม่ใช่ศิริกัญญา ตันสกุล หากกล้าตอบเช่นนี้ ก็มีหวังว่าจะมีผู้คนจำนวนมิใช่น้อยนำกะโหลกไปมอบให้ แล้วบอกว่าไปตักน้ำใส่กะโหลกแล้วชะโงกดูเงาตัวเองเสียก่อน...

nn ว่าแล้วก็มีคำถามว่า ระยะสองสามวันมานี้น้องนางที่อยากเป็นรัฐมนตรีคลังหายหน้าหายตาไปไหน ไม่ออกมาฉอเลาะ
จำนรรจาเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีคลังเหมือนหลังปิดหีบเลือกตั้งใหม่ๆ คำตอบคือ ถูกวิจารณ์แบบกระหน่ำ
สหบาทาว่า พูดจาไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ทั้งแนวทางปฏิบัติ และไม่มีแม้กระทั่งหลักการบริหารองค์กร เมื่อพูดแล้วถูกวิจารณ์จนยับเยิน ก็จึงจำต้องหุบปากเลิกพูดไปโดยปริยาย ส่วนตัดสินใจเลิกพูดเอง หรือไม่มีใครเชิญไปพูดอีกต่อไป หรือว่าถูกเจ้าของพรรคสั่งห้ามว่าเลิกออกไปจ้อได้แล้ว เพราะยิ่งจ้อยิ่งแสดงความไม่เข้าท่า ขายขี้หน้ามากขึ้นเรื่องนี้ยังเป็นที่กังขาในหมู่ fandom ของพรรคสีส้ม...

nn นอกจากดัชนีหุ้นไทยจะร่วงรูดมหาราชแล้ว การส่งออกของไทยก็ยังร่วงอย่างน่าเป็นห่วงอีก ตัวเลขส่งออกเดือนเมษายน ร่วงไป 7.6 เปอร์เซ็นต์ ชะลอตัวต่อเนื่องติดต่อกัน 7 เดือน ตลาดส่งออกของไทยทุกแห่งติดลบทั้งหมด ยกเว้นแค่เพียงตลาดจีนเพียงแห่งเดียวเท่านั้น สาเหตุที่การส่งออกของไทยทรุด เพราะว่าเศรษฐกิจโลกยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวอย่างชัดเจน...nn

ธรรมกร