สัปดาห์ก่อน ประชาชนคนไทยได้ไปยื่นหนังสือที่สถานทูตสหรัฐ เพราะกังวลในพฤติกรรมท่าทีคุกคาม ชี้นำ บงการ แทรกแซงประเทศไทย
1. เพจ U.S. Embassy Bangkok ยืนยันว่า
“ผมได้พบกับกลุ่มคนที่มารวมตัวกันหน้าสถานทูตสหรัฐฯ รับจดหมายเรียกร้อง และรับฟังความเห็นของพวกเขา ผมยังได้ขอบคุณที่พวกเขามา อีกทั้งได้ย้ำว่าสหรัฐฯ เคารพสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย รวมทั้งการที่ประชาชนไทยยกย่องเทิดทูนพระบรมวงศานุวงศ์อย่างสูง ผมยังเน้นด้วยว่าสหรัฐฯ ไม่ได้หวังให้ผลการเลือกตั้งเป็นแบบหนึ่งแบบใด และไม่ได้สนับสนุนพรรคหรือผู้สมัครใด เราตั้งตารอที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลที่มาจากกระบวนการประชาธิปไตยของไทย ประชาชนชาวไทยเท่านั้นควรเป็นผู้เลือกว่าใครจะเป็นผู้บริหารประเทศ” - บ๊อบ โกเดค
2. จากนั้น บ่ายวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 ประชาชนคนไทยกลุ่มหนึ่งได้เดินขบวนไปยังสถานกงสุลสหรัฐอเมริกา ประจำจังหวัดเชียงใหม่
รศ.ธีระ วิสิทธิ์พานิช อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้ประสานงานเครือข่ายคนเชียงใหม่รักในหลวง แสดงจุดยืนของการมาชุมนุม พร้อมอ่านจดหมายเปิดผนึก
จดหมายเปิดผนึก ถึงกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่ ไปถึง Mr.Robert F.Godec เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และส่งต่อไปยังรัฐสภาอเมริกา ระบุว่า
เพื่อเป็นการสื่อสารถึงวุฒิสมาชิก รัฐบาลอเมริกาและคนอเมริกันทุกคน ในการหยุดแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทย และสถาบันพระมหากษัตริย์ เนื่องด้วย
ประเทศไทยมีเอกราชมาอย่างยาวนาน เป็นราชอาณาจักร ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีรัฐธรรมนูญเป็นของตนเองมาตั้งแต่ ปีพุทธศักราช 2475
แต่ ณ ปัจจุบันนี้กิจการภายในของประเทศไทยกำลังถูกแทรกแซงจากสภาของสหรัฐอเมริกา อาทิ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร Ms.Susan Wild ได้เสนอร่างมติสภาผู้แทนราษฎร 369 (H.Res. 369) เข้าไปที่สภาผู้แทนราษฎร ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งร่างมติดังกล่าวได้ถูกส่งต่อไปยังคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ และได้ผ่านการพิจารณาจากสภาของสหรัฐเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งรายละเอียด ข้อ 5 ของร่างมตินี้ที่เรียกร้องให้รัฐบาลไทยปล่อยและยุติการดำเนินคดีกับนักกิจกรรมทางการเมือง โดยเฉพาะเด็ก และนักเรียน เว้นจากการข่มขู่ คุกคาม หรือฟ้องดำเนินคดีผู้ที่เข้าร่วมการชุมนุมโดยสงบและกิจกรรมทางพลเมืองโดยทั่วไป
และในข้อที่ 8 มีการเรียกร้องให้รัฐบาลไทยแก้ไขกฎหมายที่จำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การเลือกตั้ง ยกตัวอย่างเช่น มาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และ กฎหมายเกี่ยวกับยุยงปลุกปั่น
มติที่นำเสนอโดย Ms.Susan Wild ดังกล่าวยังระบุอย่างชัดแจ้งว่า หากมีการแทรกแซงโดยกองทัพหรือกษัตริย์ก่อน ระหว่าง หรือหลังการเลือกตั้งทั่วไป ไม่ว่า
ทางตรงหรือทางอ้อม จะกระทบต่อความเป็นทวิภาคีระหว่างสหรัฐฯ และประเทศไทย รวมถึงการให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแก่ประเทศไทย นี่ยังไม่รวมถึงการแทรกแซงถึงเรื่องยุยงปลุกปั่นให้ไทยกับเมียนมามีปัญหาระหว่างประเทศ
จากสิ่งที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดข้างตัน เครือข่ายคนเชียงใหม่รักในหลวงมีความรู้สึกไม่สบายใจ ที่มิตรประเทศของเรากำลังเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทยในลักษณะก้าวก่าย,ครอบงำ และกดดันให้ประเทศไทยทำตามที่สหรัฐอเมริกาต้องการให้เป็นซึ่งระเบียบและกฎเกณฑ์กติกาสากล มีการระบุไว้ชัดเจนว่าแต่ละประเทศมีอำนาจอธิปไตยเป็นของตนเอง ดังนั้นทางเครือข่ายคนเชียงใหม่รักในหลวง จึงขอเป็นตัวแทนของประชาชนชาวเชียงใหม่ที่รักและหวงแหนใน 3 สถาบันหลักของชาติ เพื่อให้ประเทศสหรัฐอเมริกาทบทวนบทบาทที่กำลังทำอยู่ในขณะนี้
ปรากฏว่า Mr.Raymond Morton กงสุลสหรัฐประจำจังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกมารับหนังสือ พร้อมยืนยันว่า จะไม่มีการแทรกแซงระบอบการปกครองและการเลือกตั้งในประเทศไทย และจะนำจดหมายเปิดผนึกส่งไปยังเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ต่อไป
3. จะเห็นว่า คนไทยกลุ่มนี้ ไม่ได้ขาดสติ หรือขาดข้อมูลความรู้ ตรงกันข้ามกลับเข้าถึงข้อมูลข่าวสารสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์โลกเป็นอย่างดี
เพราะพฤติการณ์ของสหรัฐ ก็ปรากฏจริงตามที่แถลง
แถมยังปรากฏเอกสารของทางการสหรัฐเอง ที่มียุทธฺศาสตร์อินโด-แปซิฟิก มุ่งจะเข้ามามีบทบาทในประเทศไทยไม่น้อยกว่าสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ฯลฯ
4. รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร ให้ข้อมูลประกอบความเห็นที่น่าสนใจว่า
.... ระยะนี้ จึงมีคนถามกันมากว่า การแทรกแซงประเทศไทยโดยชาติมหาอำนาจด้วยการให้การสนับสนุนพรรคการเมืองบางพรรค ซึ่งก็หมายถึงพรรคก้าวไกลให้ชนะการเลือกตั้งเพื่อได้เป็นรัฐบาล เป็นความจริงหรือไม่ มีหลักฐานหรือไม่
คำตอบคือ ไม่มีใครที่เป็นคนนอกบอกได้ 100% หลักฐานมีหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าหลักฐานแบบจับให้มั่นคั้นให้ตายคงไม่มี แต่มีเหตุการณ์ และข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกิดขึ้นจนทำให้มีความน่าเชื่อมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่นี้จึงจะลองรวบรวมเหตุการณ์และข้อเท็จจริงต่างๆเท่าที่ทำได้ โดยจะเลือกเฉพาะที่เป็นจริงเท่านั้นมาให้ลองพิจารณากัน
1. คุณธนาธรได้ว่าจ้าง APCO Worldwide ซึ่งเป็นบริษัทล็อบบี้ยิสต์ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ถึง 31 ธ.ค. 2562 เป็นเงินประมาณ 1.8 ล้านบาท ...ให้ดำเนินกิจกรรมทางการเมือง และให้บริการด้านการสื่อสารในฐานะตัวแทนของผู้ว่าจ้าง ประสานงานกับสื่อมวลชนและองค์กรในสหรัฐฯเพื่อสร้างความตระหนักมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองและสังคมในประเทศไทย
คุณธนาธร เมื่อไปสหรัฐอเมริกา ได้ให้สัมภาษณ์นักข่าวที่สำนักข่าว NBC ยกย่องสหรัฐอเมริกาและแสดงความต้องการให้สหรัฐอเมริกาช่วยสร้างสังคมไทยให้ดีขึ้น และเมื่อก่อนการเลือกตั้ง 2562 คุณธนาธรเสนอความคิดเรื่องการใช้ hyperloop แทนรถไฟความเร็วสูงซึ่งขณะนั้นรัฐบาลกำลังเจรจากับจีน คุณธนาธรให้ข่าวว่าจะออกเงินเองเพื่อศึกษาความเป็นไปได้(Feasibility Study)ของ hyperloop แต่ไม่มีใครเคยได้เห็นรายงานการศึกษาความเป็นไปได้ฉบับนั้นแต่อย่างใด เมื่อมีการจัดแถลงข่าวเรื่อง hyperloop คุณธนาธรตอบคำถามนักข่าวต่างชาติว่า รัฐบาลไทยเอนเอียงไปทางจีนมากเกินไป จึงต้องการให้มีการปรับความสัมพันธ์กับต่างประเทศใหม่ ใช้คำว่า “realign”โดยให้หันไปทางประเทศอื่น เช่น สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ให้มากขึ้น
2. เมื่อคุณธนาธรต้องไปรับทราบข้อกล่าวหากรณียุยงปลุกปั่นตามมาตรา 116 ที่สน.ปทุมวัน มีเจ้าหน้าที่สถานทูตจากประเทศตะวันตกหลายประเทศ ต่างไปร่วมสังเกตการณ์กันอย่างเนืองแน่น ซึ่งปรากฏการณ์เช่นนี้ไม่เคยมีมาก่อนในอดีต
3. นาย Robert F. Godec ก่อนเดินทางมารับตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการต่างประเทศ วุฒิสภาสหรัฐฯก่อนเดินทางมารับตำแหน่งว่า จะช่วยให้ประเทศไทยปรับปรุงในเรื่องสิทธิมนุษยชนภายในประเทศ และจะให้ไทยร่วมกดดันเมียนมาด้วย เมื่อมีวุฒิสมาชิกตั้งกระทู้ถามเรื่องมาตรา 112 ที่ส่งผลถึงเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และมีผู้ถูกจับกุมคุมขังมากมาย นาย Godec กล่าวว่า “สหรัฐให้ความเคารพต่อราชวงศ์ไทย และเข้าใจในความจงรักภักดีของคนไทยต่อราชวงศ์ แต่เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นมีความสำคัญอย่างยิ่ง และเขาเคยเน้นย้ำต่อสาธารณะและโดยส่วนตัวว่า ที่ประชาชนจะแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรีโดยไม่ต้องกลัวการถูกจับกุม และจะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น” และยังกล่าวต่อไปว่า “ ผมขอย้ำว่า คนที่ถูกจับกุมจะต้องได้รับการปฏิบัติโดยเคารพสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างเต็มที่ในระหว่างการดำเนินคดี”
นอกจากนี้นาย Godec ยังกล่าวว่า จะกดดันให้ไทยลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติและน้ำม้นจากพม่า และจะพยายามให้ไทยเพิ่มแรงกดดันต่อพม่า เพื่อหยุดการกระทำ
อันเหี้ยมโหดของรัฐบาลเมียนมา อีกด้วย
4. คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีช่วงท้ายที่ว่า นายกรัฐมนตรีทำลายศักยภาพของประเทศไทยในต่างประเทศเพราะไม่เข้าไปกดดันรัฐบาลเมียนมา และทำลายศักยภาพของประชาชน เนื่องจากใช้มาตรา 112 ดำเนินการจับกุมคุมขังผู้ที่แสดงออกทางความคิด อันเป็นการปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นโดยเสรีของประชาชนเหล่านั้น เนื้อหาในการอภิปราย 2 ข้อนี้ตรงกับที่ว่าที่เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยแสดงความคิดเห็นก่อนเดินทางมารับตำแหน่งอย่างไม่ผิดเพี้ยน
5. เป็นที่น่าสังเกตว่า สื่อในประเทศไทยที่อยู่ข้างม็อบ 3 นิ้ว ส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรจากต่างประเทศโดยเปิดเผย เช่น จาก NED หรือ National Endowment for Democracy, Open Society Foundation, USAID, Freedom House เป็นต้น องค์กรต่างๆ เหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นองค์กรที่เกี่ยวข้องกับประเทศสหรัฐอเมริกาทั้งสิ้น Open Society foundation มี George Soros เป็นผู้ก่อตั้ง NED เป็นองค์กรที่ขึ้นตรงต่อรัฐบาลสหรัฐอเมริกา แต่เดิมการให้การสนับสนุนทั้งเงิน และการสนับสนุนแบบอื่นๆ ให้แก่กลุ่มต่างๆ ในต่างประเทศเพื่อผลประโยชน์แห่งชาติ หรือ National Interest ของสหรัฐอเมริกา จะกระทำอย่างลับๆ โดย Central Intelligent Agency หรือ CIA แต่ในสมัยประธานาธิบดี Lyndon B Johnson ต้องการให้เป็นการสนับสนุนอย่างเปิดเผย จึงให้จัดตั้ง NED ขึ้นให้เป็นองค์กรเอกชนเพื่อให้การสนับสนุนเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและการเติบโตของสถาบันทางประชาธิปไตยทั่วโลก....
นอกจากนี้ ดร.หริรักษ์ยังได้ร้อยเรียงข้อมูลข่าวเหตุการณ์ต่างๆ ที่สะท้อนชัดว่า ฝ่ายพรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า เคลื่อนไหวสอดประสานกับสหรัฐอเมริกามาโดยตลอด
และยังระบุด้วยว่า “...ข้อเท็จจริงที่ไม่มีใครปฏิเสธได้คือ สหรัฐอเมริกาทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับประเทศจีนอย่างเปิดเผย และในทางภูมิรัฐศาสตร์ ประเทศไทยตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญอย่างยิ่ง ทำให้สหรัฐอยากได้ไทยเป็นพวก ความจริงข้อนี้สามารถไปหาอ่านได้ในเอกสาร Indo-pacific Strategy ได้
การสร้างสถานกงสุลแห่งใหม่ที่ใช้เงินเกือบหมื่นล้านบาท มีชั้นที่อยู่ใต้ดินอีก 10 ชั้นต้องมีวัตถุประสงค์บางอย่างที่เกี่ยวกับเมียนมาและจีนที่เปิดเผยไม่ได้อย่างแน่นอน
ที่เมียนมา มีข่าวและรูปถ่ายเล็ดลอดออกมาว่า สหรัฐส่งอาวุธและคนไปฝึกอาวุธให้ชนกลุ่มน้อยและฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเมียนมาอย่างลับๆ เพื่อรบกับฝ่ายรัฐบาล
เมื่อมีข่าวนี้ออกมา สหรัฐชี้แจงว่าผู้ที่ไปฝึกอาวุธเป็นอดีตนาวิกโยธิน จึงไม่เกี่ยวกับรัฐบาลสหรัฐแต่อย่างใด แต่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เราก็คงคาดเดาได้ ดังนั้น จึงเชื่อได้อย่างยิ่ง ที่สหรัฐจะมีความต้องการที่จะเข้ามาตั้งฐานทัพในไทยเช่นเดียวกับที่ประเทศ ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์
คำถามคือ หากคุณพิธาได้เป็นนายกรัฐมนตรีในอีก 2 เดือนข้างหน้า คุณพิธาจะทำตัวเป็นลูกรักของสหรัฐอเมริกาหรือไม่ และจะยินยอมให้สหรัฐอเมริกามาตั้งฐานทัพในประเทศไทยหรือไม่
เราต้องติดตามดูต่อไป”
สุดท้าย ขอเตือนว่า มหามิตร มหาอำนาจ อย่าทำตัวเป็นมหาโจร ?
และคนในชาติไทยเอง อย่าทำตัวเป็นคนขายชาติ!
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี