เมื่อเดือนกรกฎาคม 2556 ก่อนการรัฐประหารของ “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)” สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้จัดพิมพ์หนังสือเล่มหนึ่งออกเผยแพร่ โดยตั้งเป้าหมายว่า เพื่อเผยแพร่ความรู้ให้แก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ให้ได้รับความรู้ความเข้าใจในเรื่อง “สิทธิเสรีภาพ และหน้าที่ของพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย” ตลอดจนสิทธิเสรีภาพ และหน้าที่ของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การให้ความรู้ในเรื่องดังกล่าวจะเกิดประโยชน์แก่ผู้อ่าน และจุดประกายให้คนในสังคมเริ่มตระหนักและเห็นความสำคัญของความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ทว่า ผลลัพธ์ที่แท้จริงเกิดอะไรขึ้นบ้างในสังคมไทย การเมืองไทยในยุคดิจิทัล 5จี ที่ทำสงครามการเมืองโฆษณาชวนเชื่อด้วยปฏิบัติการไอโอ
เกิดเยาวชนหญิงวัย 15 ปี ที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคการเมืองบางพรรคที่อ้างความคิดหัวก้าวหน้า ภราดรภาพ สิทธิ เสรีภาพทางความคิด
และการแสดงออกแหกกฎระเบียบกติกาของการอยู่ร่วมกันในสังคมโรงเรียน สังคมที่ต้องยึดระบบ safety ระบบความปลอดภัยของนักเรียนมากที่สุด เกิดภาพนักเรียนหญิงรายหนึ่งในโรงเรียนย่านหนองจอกมีพฤติกรรมน่ารังเกียจ วางท่าจะต่อยและชูนิ้วกลางใส่ครูผู้สอนภาษาอังกฤษที่เป็นชาวต่างชาติ เกิดเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่ประกาศไม่รับรองนับถือกรณีบุพการีเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนเป็นบุญคุณที่ต้องแสดงกตเวทิตา แต่กลายเป็นหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติเพราะทำให้พวกมันเกิดขึ้นมา
เกิดปฏิกิริยาอุบาทว์อัปรีย์อัปยศกับเยาวชนล่วงละเมิดจาบจ้วงพาดพิงใส่ร้ายพระมหากษัตริย์,พระบรมวงศานุวงศ์ อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยมีนักการเมืองเข้าข่ายผู้นำจิตวิญญาณโน้มน้าวให้ท้ายดึงดันที่จะให้มีการแก้ไข/ยกเลิก ประมวลกฎหมายอาญา ม. 112 ซึ่งเป็นกฎหมายคุ้มครองปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ศูนย์รวมศรัทธาและจิตใจคนไทยมาช้านาน ทั้งยังประกาศ “เพื่อพัฒนา รักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างพระมหากษัตริย์กับประชาชนท่ามกลางยุคสมัยที่เปลี่ยนไป จัดวางพระราชอำนาจและพระราชสถานะให้เหมาะสมสอดคล้องกับสังคมประชาธิปไตยสมัยใหม่ ทำแบบนี้สถาบันที่เรารัก จึงจะดำรงอยู่ได้อย่างสง่างามในสังคมไทย”
การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีตามบทบัญญัติ ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ซึ่งเป็นหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา ทั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ สมาชิกวุฒิสภา ซึ่งต้องร่วมกันพิจารณาตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญจึงเป็นการทำหน้าที่ตามกฎหมายสูงสุด เป็นหน้าที่ที่ต้องกระทำภายใต้วิจารณญาณ, ตามคำถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนการทำหน้าที่เบื้องหน้าพระมหากษัตริย์ ปราศจากอคติและพวกพ้อง
ไม่ใช่การทำหน้าที่ตามสิทธิ ที่หมายถึงอำนาจที่จะกระทำการใดๆ ได้อย่างอิสระโดยได้รับการรับรองจากกฎหมาย
จึงเป็นเรื่องไม่สมควรที่แกนนำพรรคก้าวไกล จะแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับพฤติกรรมกร่างถ่อยสถุลของแฟนคลับที่เรียกกันว่า “ด้อมส้ม” ที่ระรานครอบครัวและคนรอบข้างสมาชิกวุฒิสภา เพื่อกดดันให้โน้มเอียงปฏิบัติหน้าที่ตามที่กลุ่มตนเองต้องการ
เราเชื่อมั่นว่า สมาชิกวุฒิสภามีขวัญกำลังใจแน่วแน่ที่จะทำหน้าที่อันมีเกียรตินี้อย่างตรงไปตรงมา
คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติประชาชน ภายใต้คำถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด
เพราะประเทศนี้ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่ใช่ระบอบอนาธิปไตยแต่อย่างใด
อนาธิปไตย ... ลัทธิแห่งความวุ่นวายที่ไม่มีสังคมไหนยอมรับ ดำรงอยู่ในสภาวะไร้รัฐไร้ระเบียบ กฎเกณฑ์ หรือกฎหมายใดถือเป็นศัตรูสำคัญของระบอบประชาธิปไตย ที่อุบาทว์อัปรีย์ยิ่งกว่าระบอบเผด็จการเสียอีก
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี