การชุมนุมใหญ่อีกครั้งในประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2568 ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ผ่านไปแล้ว แม้จะไม่ใหญ่บึ้มเท่ากับการชุมนุมช่วงต้นปี 2557
ความสำเร็จไม่ได้หมายถึงจำนวนผู้เข้าร่วมชุมนุมที่ประเมินกันว่า น่าจะอยู่ที่ 8 หมื่นกว่าคน แต่เป็นความสำเร็จที่มาจากการร่วมใจกันของคนไทยทุกเพศ ทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ และเหมือนแม่น้ำหลายสายมารวมกัน รวมถึงคนที่ไม่สนใจเรื่องการเมือง โดยมีเจตนาเพื่อแสดงความรักชาติ หลังจากที่มีปัญหาความขัดแย้งกับกัมพูชา แถมนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยก็ถูกเปิดโปงบทสนทนาที่น่าเกลียดชังอย่างยิ่ง
อย่าว่าแต่เป็นผู้นำพูด เป็นแค่คนไทยคนหนึ่งที่มีสามัญสำนึกปกติ ก็คงไม่มีใครพูดว่า แม่ทัพนายกองของเราเป็นฝ่ายตรงข้าม และผู้นำเขมรเป็นพวกเดียวกัน
ผมเองไม่ได้ชื่นชมผู้ปราศรัยทุกคนบนเวที บางคนก็ไม่ได้เกลียดหรอก แต่ไม่ชอบ ใครจะมีวาระซ่อนเร้นหรือ hidden agenda อะไรผมไม่รู้ และไม่สนใจ แต่รับได้เพราะเป็นการชุมนุมที่มีน้ำหนักเพื่อประเทศชาติโดยรวมมากกว่าเพื่อใครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง อย่างน้อยที่สุด บรรดาแกนนำทางความคิดในการชุมนุมคราวนี้ก็เปิดเผย ออกมายืนข้างหน้ากันหมด ไม่ได้ซุกปีกซุกหางอยู่หลังมวลชน
เรื่องที่ชวนขำลำดับแรกเลยคือ ข่าวการประเมินผู้เข้าร่วมชุมนุมเบื้องต้นของตำรวจที่บอกว่า จะมีราว 3,000 คน และอาจจะเพิ่มมากขึ้นในวันชุมนุมจริง ถึงจะบอกว่ากว่า 3,000 คนเป็นเบื้องต้น ก็ยังเป็นการประเมินที่ห่างไกลความเป็นจริงมาก
การข่าวน่าจะใกล้เคียงกว่านี้ เพราะตลอดเวลา 1 สัปดาห์ก่อนการชุมนุม นอกจากมีแถลงการณ์จากกลุ่มทางสังคมต่างๆ ทั้งศิษย์เก่ามหาวิทยาลัย กลุ่มอาชีพ ยังมีการประกาศของประชาชนบางส่วนจากเกือบทุกจังหวัดทั่วประเทศ ว่าจะเดินทางเข้ามาร่วมการชุมนุมในกรุงเทพฯ ขณะที่แนวร่วมผู้จัดชุมนุมเองก็มีการรณรงค์ทุกช่องทางของสื่อออนไลน์ และทางสื่อหลักก็เสนอข่าวต่อเนื่อง
เหมือนหมอจะปรุงยาบรรเทาโรค แต่ดันใส่สารตั้งต้นผิดประเภท ยังดีที่การชุมนุมครั้งนี้ไม่ได้รวมพวกบ้าพลังอยากสำแดงแสนยานุภาพเรียกหาโล่กระบองและแก๊สน้ำตา
ถ้าผมเป็นผู้บังคับบัญชาที่ต้องออกหน้ามานั่งแถลงข่าว ผมจะเรียกฝ่ายการข่าวมาตำหนิ และดีดมะกอกเรียงตัว โทษฐานทำให้หัวหน้าเสียสุนัขโดยใช่เหตุ
เรื่องขำถัดมาคือ มีบรรดาผู้มีบรรพบุรุษเป็นเจ้าของโรงงานผลิตเสียม เริ่มแซะกันตั้งแต่เช้าๆของวันนั้น เต็มไปหมดทางสื่อโซเชียล เช่น ม็อบคนแก่บ้าง,จ้างกันมาหัวละพันสองพันบ้าง, จุดไม่ติดบ้าง ฯลฯ สายๆก็เริ่มเอารูปถ่ายที่อนุสาวรีย์ ซึ่งยังมีคนไม่มากมาลง เหน็บแนมกันเป็นที่บันเทิง
พอเลยเที่ยงไปแล้ว คนหลั่งไหลเข้าสู่บริเวณชุมนุมไม่ขาดสาย ฝนตกหนักอย่างไรก็ไม่ถอยตกเย็นยิ่งเดินทางเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ พวกที่รู้สึกละอายแก่ใจก็เงียบๆ ไป แต่ยังมีพวกที่ไม่ยอมรับว่าตัวเองคิดผิดไปแล้วก็เปลี่ยนเป็นแซะเป็นด่ากราด ราวกลับผู้คนที่เข้ามาร่วมชุมนุมไปเรียงคิวข่มขืนคนในครอบครัวของตน ทั้งๆ ที่เป็นวิถีประชาธิปไตยปกติที่เคยร่ำร้องหาวันละ 3 เวลาหลังอาหาร
เรื่องชวนขำอีกเรื่องคือ ผมคาดไว้เล่นๆ ว่า ไม่เพียงเจ้าหน้าที่ด้านการข่าวของตำรวจ หรือฝ่ายความมั่นคง จะต้องจับตาดูการชุมนุมครั้งนี้ตามหน้าที่ พรรคฝ่ายค้านใหญ่ก็คงจะนั่งมอนิเตอร์เหตุการณ์กันทั้งวัน เช่นเดียวกับพรรครัฐบาลที่ต้องปกป้องนายกรัฐมนตรีเต็มเหยียดเพื่อรักษาสถานะของตน คอยหาจุดผิดพลาดใดก็ตามที่อาจจะเกิดขึ้นในการชุมนุม เอามาใช้ในการโจมตี และประเมินทางการเมืองต่อไป
และต่อมา ผมก็ได้ข่าวจากเพื่อนคนหนึ่งว่ามีเรื่องราวทำนองนั้นเกิดขึ้นจริงๆ ตามคาด ส่วนจะได้มาจากใครและลึกแค่ไหนอย่าไปรู้เลย
ผมเคยเขียนด้วยความเชื่อส่วนตัวมาไม่น้อยกว่า 3 ครั้งว่า พรรคแกนนำรัฐบาลและพรรคใหญ่ฝ่ายค้านเป็นพวกเดียวกัน แต่เล่นกันคนละเกม โดยดูจากลักษณะของพรรคการเมืองแบบมีนายทุนเป็นเจ้าของ, ดูจากความสัมพันธ์โยงใยของชนชั้นนำระหว่างพรรคทั้งสอง และดูได้จากการที่แทบจะไม่แตะต้องนายกรัฐมนตรีคนนี้ให้ระคายผิว ไม่ว่าจะทำเรื่องสาหัสสากรรจ์ต่อประเทศนี้เพียงใด
เมื่อการชุมนุมคราวนี้มีความสำเร็จระดับหนึ่งก็ต้องมีอีกด้านที่ไม่สำเร็จ นั่นคือ จะอย่างไรคงไม่สามารถขับไสไล่ส่งนายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่งได้ เว้นแต่ว่าจะถูกวินิจฉัยในทางกฎหมาย เพราะจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของนักการเมืองประเทศนี้ เมื่อมีความบกพร่องหรือทำอะไรสักอย่างผิดพลาด นับคนได้ไม่เกินนิ้วในหนึ่งมือที่จะลาออกเอง ถ้าไม่จวนตัวแบบประตูคุกเปิดรอไว้แล้ว
มารยาทหรือสปิริตทางการเมือง ไม่เคยมีอยู่ในพจนานุกรมของคนเหล่านี้
ทิวา สาระจูฑะ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี