แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...
nn เมื่อบัดนี้ ทุกคนมีอุดมคติและความตั้งใจดีพร้อมแล้ว ต้องรักษาไว้ให้หนักแน่นและมั่นคงต่อไป อย่ายอมให้กาลเวลา ความเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว หรือสถานการณ์ใดๆ มาทำลายเสียได้... (ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 11 กรกฎาคม 2511)...
nn บัดนี้ ประเทศไทยมีคณะรัฐมนตรีใหม่ล่าสุดแล้ว ในนามของรัฐบาลเศรษฐา 1หรือนิด 1 สาธารณชนได้เห็นรายชื่อของรัฐมนตรีแล้วก็บอกว่า ยังไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ใดๆ เพราะเกรงจะติเรือทั้งโกลน แต่ก็พอจะเข้าใจในฝีไม้ลายมือการทำงานของคนบางคนที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีได้ดี เพราะเห็นๆ กันมาก่อนแล้วว่า มีความสามารถมากน้อยเพียงใด มีความซื่อสัตย์ สุจริตหรือไม่ แต่โดยมารยาทแล้ว ก็ต้องให้กำลังใจกันก่อน เพราะต้นอาจจะร้าย แต่ปลายอาจจะดีก็เป็นได้ ก็ได้แต่หวังไว้เช่นนั้นจริงๆ ว่าปลายอาจจะดี...
nn คุณๆ สังเกตหรือไม่ว่า คณะรัฐมนตรีชุดล่าสุดมีเพียง 34 คนเท่านั้น มีคำถามว่าเหตุใดจึงไม่ตั้งให้เต็มคณะ 36 คน มีคำตอบว่าน่าจะเปิดปลายพวยกาไว้ เพื่อรอดูสถานการณ์บางอย่างในอนาคต เมื่อจำเป็นต้องให้รางวัลกับใคร ก็เติมลงไปจนครบ 36 คน หรือไม่ก็รอดูว่าใครจะเป็นเจ้าบุญทุ่ม หากทุ่มมาก ก็เอาตำแหน่งรัฐมนตรีที่ว่างไปเป็นเครื่องตอบแทน ก็เป็นได้ หรืออาจจะรอคนที่มีความรู้ความสามารถจริงๆ และมีใจซื่อมือสะอาดแบบสุดๆ เข้าไปร่วมเป็นคณะรัฐมนตรีก็ได้ เรื่องนี้ยังต้องตามดูกันต่อไป...
nn ส่วนคำถามที่ว่า สุทิน คลังแสง จะทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ด้วยตัวเองหรือ เรื่องนี้หลายคนฟังคำถามแล้วอมยิ้ม แต่ไม่ต้องกังวลไปหรอก เพราะเบื้องหลังสุทินยังมีมือที่มองไม่เห็นทำงานอยู่ อย่าลืมว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เคยกินตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมาแล้ว...
nn มีคำถามว่า คนที่เคยอยู่แดนไกล เมื่อวันนี้กลับเข้ามาอยู่ใกล้แล้ว ยังมีอิทธิพลเหนือการจัดตั้งรัฐบาลนิด 1 หรือไม่ ตอบแบบไม่ต้องลังเลว่า มียิ่งกว่ามี แล้วก็มีเครื่องยืนยันว่านายหญิงแห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า ก็ยังคงมีอิทธิฤทธิ์ตามเดิม โดยดูได้จากรายชื่อรัฐมนตรีต่อไปนี้ ภูมิธรรม เวชยชัย ปานปรีย์ พหิทธานุกร พิชิต ชื่นบาน (ทนายเงินสองล้านในถุงขนม แม้จะถอนตัว แต่ก็ทำให้เห็นความสัมพันธ์แน่นแฟ้นระหว่างจันทร์ส่องหล้าได้อย่างดี) และจักรพงษ์ แสงมณี ที่หลายคนสงสัยว่าเป็นใคร แต่คนในรู้ดีว่าเป็นคนสำคัญที่นายหญิงไม่เคยมองข้าม...
nn เรื่องการสรรหาเลขาธิการ กสทช. (คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) ยังคงอยู่ในวังวนของอำนาจของใครบางคนใน กสทช. ในเมื่อคนบางคนจะดันคนของตัวเอง หรือคนที่ให้ผลประโยชน์กับตัวเอง ก็จึงต้องใช้อำนาจไม่สุจริตสารพัดสารพันรูปแบบผลักดันคนของตัวเองให้ได้ แล้วก็พยายามกีดขวางไม่ให้คนอื่นที่เขาต่อสู้ด้วยความสุจริต เมื่อเกิดเรื่องไม่น่าจะปกติขึ้น ก็ทำให้มีข้อร้องเรียนต่างๆ เพื่อบอกสาธารณชนให้เห็นว่า ใน กสทช. น่าจะเกิดเหตุที่ไม่น่าจะปกติขึ้น แต่แล้วเรื่องนี้ก็ได้รับการชี้แจงจาก ประธาน กสทช. สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ว่า ปัจจุบัน กสทช. ต้องการความเป็นปึกแผ่น ความเป็นเอกภาพ ต้องฟื้นฟูสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารกับพนักงาน จึงต้องเลือกผู้นำองค์กรที่รู้และเข้าใจบริบทและปัญหาภายในองค์กร ต้องกล้าตัดสินใจด้วยความรวดเร็ว ละเอียดรอบคอบ และต้องได้รับการยอมรับจากคนในองค์กร...
nn เมื่อ ประธาน กสทช. บอกมาแบบนี้ คนในองค์กรก็จึงถามกลับว่า แล้วความแตกแยก ไม่ลงรอยให้องค์กรมันเกิดจากใครกันหรือท่านประธาน ท่านประธานไม่ได้เป็นตัวเร่งให้เกิดความแตกแยกในองค์กร ใช่หรือไม่ แต่ดูๆ แล้ว ท่านประธานไม่น่าจะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาดอกนะ เพราะท่านประธานไม่ค่อยอยู่ในเมืองไทย เพราะไปเมืองนอกบ่อยมาก เข้าใจว่าท่านประธานคงมีภารกิจสำคัญเพื่อความเจริญก้าวหน้าของ กสทช. อยู่ในต่างประเทศ จึงต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยมากๆ แม้กระทั่งการประชุมใดๆ ที่ส่วนใหญ่ลงความเห็นไปแล้วว่าต้องประชุมในวันเวลาใด แต่ท่านประธานก็ยังสามารถบอกว่าต้องเลื่อนประชุม เพราะท่านประธานจะไปงานต่างประเทศ จนมีคำถามว่า ตกลงแล้ว กสทช. มีสำนักงานสาขาอยู่ในต่างประเทศด้วยกระนั้นหรือท่านประธาน อ้อ! เสียงบอกด้วยว่า งบฯ สำหรับประชุมและดูงานของ กสทช. ในปัจจุบันไม่เหลือให้สำหรับคนอื่นๆ ใน กสทช. แล้ว ไม่ทราบว่างบฯ ที่ว่านั้นมลายหายสูญไปไหนหมด...
nn มีเรื่องชวนหัวให้หัวเราะได้เสมอในวิทยุจุฬาฯ เรื่องตลกล้วนมาจากการบริหารงานผิดฝาผิดตัว กลับหัวกลับหาง เพราะคนบริหารงานไม่เข้าใจหลักการทำงาน ทั้งๆ ที่วิทยุจุฬาฯ มีอายุมากกว่าหลายคณะในจุฬาฯ ด้วยซ้ำไป แต่เมื่อมีผู้บริหารไม่เข้าใจเนื้องาน ไม่เข้าใจคนทำงาน แล้วยังมีผู้บริหารระดับสูงของจุฬาฯ ดันเอางานสำคัญไปให้คนไม่มีความรู้ความเข้าใจดูแล โดยอ้างแบบปัดสวะว่า (ชื่อ.....) เขาเอาอยู่ เขาจัดการได้ สุดท้าย วิทยุจุฬาฯ จึงเละเป็นแป้งเปียก ส่งผลให้วิทยุแห่งนี้ซึ่งเคยดำเนินการได้ดีพอประมาณ หลังประสบวิกฤตมาระยะหนึ่งแต่เมื่อวิทยุเริ่มฟื้นตัว ก็กลับเปลี่ยนตัวผู้บริหารคนที่ทำงานได้ออกไป แล้วส่งคนที่ไม่สามารถบริหารได้เข้าไปแทน นับจากนั้น วิทยุจุฬาฯ ก็เสื่อมและทรุดลงเป็นลำดับ...
nn มีผู้เปรียบเทียบไว้น่าสนใจว่า การส่งคนไม่มีความสามารถไปดูแลหน่วยงาน ก็คือการทำลายหน่วยงาน มิหนำซ้ำ ผู้บริหารยังคิดแต่จะปิดหน่วยงาน เพราะตนเองไม่สามารถบริหารจัดการได้ ทั้งๆ ที่วิทยุคือสื่อฯ ที่มีผู้รับฟังเป็นจำนวนมาก เพราะเข้าถึงได้ง่ายที่สุดเมื่อเทียบกับสื่อฯ อื่นๆ...
nn ผู้บริหารบางรายเพ้อว่าต้องเป็น digital หมดยุค analog แล้ว ซึ่งก็ไม่ผิด เพราะปัจจุบัน digital เป็น main stream แต่ต่อให้เปลี่ยนไปเป็น digital แต่ ไม่มี content ก็ไปไม่รอด ขอย้ำว่าการไม่สามารถรักษาสิ่งที่มีคุณค่าไว้ได้คือการทำลายคุณค่าขององค์กร โดยน้ำมือของคนไร้ความสามารถ แล้วที่ตลกยิ่งกว่าคือ ผู้บริหารสถานีวิทยุจุฬาฯ อ้างว่าต้องแจ้ง กสทช. ว่าภายในหน่วยงานมีการปรับบุคลากร ก็ขอบอกว่า กสทช. ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลบุคลากรของหน่วยงานใดๆ แต่เขาดูเฉพาะ content ของรายการ ย้ำว่า หากผู้บริหารวิทยุจุฬาฯ ยังไม่เข้าใจเรื่องราวที่ถูกต้อง ก็จะยังคงนำเสนอความอับอายขายหน้าให้สาธารณชนได้รับรู้เรื่องตลกไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงวันอวสาน...
nn พูดถึงวิทยุจุฬาฯ แล้ว ก็มีเรื่องตลกๆ ให้เห็นเป็นระยะๆ ขึ้นกับสไตล์และสติปัญญาของผู้บริหารแต่ละยุค มีอยู่ยุคหนึ่งที่มีความพยายามตั้งสถานีโทรทัศน์ขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า มอ. ทีวี ซึ่งยุคนั้นก็อยู่ใต้การดูแลภาพใหญ่โดยอธิการบดีรายปัจจุบัน แต่แล้ว มอ. ทีวี ก็ล้มไม่เป็นท่า เพราะแค่รูปแบบการนำเสนอรายการก็ไม่มีวันเป็นไปได้จริง เพราะไม่มีวันที่มหาวิทยาลัยไทยทุกแห่งจะมาจับมือร่วมกันทำรายการทีวีได้ แต่คนคิดก็ยังฝันเฟื่องได้อย่างน่าอัศจรรย์ จำได้ว่ามีการใช้งบฯ เปิดตัว มอ. ทีวีไปมิใช่น้อย โดยเปิดตัวยิ่งใหญ่ที่สยามสแควร์ แล้วทุกอย่างก็มลายไป นี่ก็แสดงให้เห็นสติปัญญาของผู้บริหารมหาวิทยาลัยที่เป็นเจ้าของ idea นี้ได้อย่างชัดเจนว่า เพ้อฝันได้อย่างสุดอัศจรรย์จิต...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี