น่าศึกษาและน่าสนใจไม่ใช่น้อยกับบทละครเดิมๆ ของพรรคการเมืองเดิมๆ ที่เหมือนจะนำมารีรันใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกครั้ง ในสนามการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแบบไทยๆ นั้น พรรคการเมืองหมายถึงองค์กรทางการเมืองที่รวมบุคคลที่มีอุดมการณ์เดียวกันนั่นคือมีแนวความคิดทางการเมือง สังคมและเศรษฐกิจ แบบเดียวกันหรือคล้ายคลึงกัน เพื่อส่งบุคคลเข้ารับเลือกตั้ง เพื่อให้ได้เสียงข้างมากในรัฐสภาและจัดตั้งรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศตามแนวความคิดหรือนโยบายที่สอดคล้องกับอุดมการณ์ของกลุ่ม

พรรคการเมืองจึงเป็นสถาบันทางการเมืองที่มีความสำคัญมากและขาดไม่ได้ในกระบวนการปกครอง เพราะการปกครองระบอบประชาธิปไตยเป็นการปกครองที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครองและมีอิทธิพลเหนือรัฐบาล ผ่านทางสภาผู้แทนราษฎร

แต่ในความเป็นจริง พรรคการเมืองของไทยบางพรรคกลายเป็นการผนึกกำลังของคนมีความประพฤติ รูปแบบการใช้ชีวิต เป้าหมายในการใช้ชีวิต รวมถึง การศึกษา ความคิด ครอบครัว ฐานะ สังคม ความเป็นอยู่ มีความเชื่อและศรัทธาในสิ่งเดียวกัน มีมุมมองในเรื่องต่างๆ คล้ายกันมีความชอบและรสนิยม มีตัณหาราคะมีศีลเสมอกันมาอยู่รวมกัน

จึงไม่แปลกที่สังคมไทยจะได้เสพพฤติกรรมทั้งรูปธรรมนามธรรมของนักการเมืองบางคอกบางค่าย ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยบทสรุปส่งท้ายที่เหมือนเดิม

ดังบทหนึ่งในพระราชนิพนธ์เรื่องขุนช้างขุนแผน มหากาพย์พื้นบ้านของไทยที่เกิดขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่ล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 2 “พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย” ทรงร่วมกับนักกวีในรัชสมัยแต่งและพระราชนิพนธ์เป็นวรรณคดีที่มีคุณค่าทั้งในด้านความไพเราะและในลีลาการแต่ง ตลอดจนเค้าโครงเรื่อง ได้รับการยกย่องตามพระราชบัญญัติวรรณคดีสโมสรในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาธีรราชเจ้า ว่าเป็นยอดของหนังสือประเภทกลอนเสภา

นับจาก “อ๋องหมอสัตว์ - ปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก พรรคเป็นธรรม,รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง” เมื่อครั้งยังไม่เขียนบทโทรทัศน์ “มีมติพรรคก้าวไกลให้ขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรค” โพสต์และกล่าวเชิญชวนสาธารณชนให้ดื่มดราฟท์เบียร์พื้นบ้านยี่ห้อหนึ่งของจังหวัดพิษณุโลก โดยอ้างความเป็นธรรมทางสังคม และต้องการเรียกร้องให้ประชาชนสนใจแก้กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่อ้างว่าเอื้อประโยชน์ทุนผูกขาดมาจนถึงจัดเลี้ยงหมูกระทะแม่บ้านรัฐสภาด้วยงบรับรองตำแหน่งรองประธานสภาฯที่เป็นเงินภาษีอ้างว่าเพื่อผดุงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

ก่อนหน้านั้นก็มีเรื่องท่านผู้ทรงเกียรติเมาแล้วขับจนต้องเล่นบทบาทวุฒิภาวะสามัญสำนึกลาออก เรื่องนำผู้ไม่มีคุณสมบัติรับเลือกตั้งลงสมัครสส. เรื่องสส.กทม.เขตทวีวัฒนา ตลิ่งชัน “สิรินสงวนสิน”ถูกแจ้งความดำเนินคดีทำร้ายแฟนสาว (ชกหน้าและเขวี้ยงมือถือแฟนสาวทิ้ง)

ล่าสุด กรณีสส.ปราจีนบุรี พรรคก้าวไกล“วุฒิพงศ์ ทองเหลา” แชทข้อความล่วงละเมิดคุกคามทางเพศ “อาสาสมัครสาว” ของพรรคโดยมีหลักฐานปรากฏชัดต่อสังคมเป็นข้อความสนทนา พรรคอ้างว่าทราบมานานแล้วตั้งแต่เดือนสิงหาคมและกำลังดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง ขณะที่ นักการเมืองหื่นที่ถูกกล่าวหาอ้างว่า เป็นขบวนการดิสเครดิต เนื่องจากไปขัดผลประโยชน์คนบางกลุ่มในพื้นที่จากการเรียกรับผลประโยชน์โดยใช้ตำแหน่ง โดยเฉพาะเรื่องมลพิษในพื้นที่ศรีมหาโพธิ

กลอนสุภาพในพระราชนิพนธ์เรื่อง “ขุนช้าง ขุนแผน”ที่กล่าวมาข้างต้นบทดังกล่าวความว่า...

“เงียบสัตว์จัตุบททวิบาท                    ดาวดาษเดือนสว่างกระจ่างไข

น้ำค้างตกกระเซ็นเย็นเยือกใจ              สงัดเสียงคนใครไม่พูดจา”

ท้ายสุดสังคมไทยก็จะไม่เห็นอะไรที่แปลกแตกต่างไปจากบทโทรทัศน์เดิมๆที่แสดงก่อนหน้านี้

เข้าตำรา แก้ตัวแถได้ทุกเรื่อง แต่แก้ไขให้สะอาดบริสุทธิ์ขึ้นนั้นไม่มี

พรรคอะไรหว่า??? นักการเมืองขยันสร้างวีรกรรม พรรคไม่แก้ไขแต่ชอบแก้ตัว