แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...
nn วิถีชีวิตมนุษย์นั้น จะให้มีแต่ความปรกติสุขอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องมีทุกข์ มีภัย มีอุปสรรค ผ่านเข้ามาด้วยเสมอ ยากจะหลีกเลี่ยงพ้น ข้อสำคัญอยู่ที่ ทุกๆ คนจะต้องเตรียมกายเตรียมใจ และเตรียมการไว้ให้พร้อมทุกเวลา เพื่อเผชิญและแก้ไขความไม่ปรกติเดือดร้อนนั้น ด้วยความไม่ประมาทด้วยเหตุผล ด้วยหลักวิชา และด้วยสามัคคีธรรม จึงจะผ่อนหนักให้เป็นเบา และกลับร้ายให้กลายเป็นดีได้... (ความตอนหนึ่งจากพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2528 เมื่อวันจันทร์ 31 ธันวาคม 2527)...
nn การแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทต่อหัว ที่รัฐบาลซึ่งนำโดยพรรคเพื่อไทย ทักษิณคิด เศรษฐาทำ น่าจะไปไม่ถึงจุดหมาย เพราะว่ามีปัญหาและอุปสรรคมากมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่เกิดมาจากการคิดที่ไม่รอบคอบ คิดไปเองว่าจะทำได้ แต่เมื่อเอาเข้าจริง ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะไม่มีเงิน แล้วยังต้องกลับคำไป-มา จากที่บอกว่าไม่ต้องกู้ ก็ต้องกู้ จากที่บอกว่าจะแจกได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ก็ต้องเลื่อนไปเรื่อยๆ แล้วที่สำคัญคือต้องออกเป็นพระราชบัญญัติเพื่อขอกู้เงิน 5-6 แสนล้านบาท ตามมาตรา 53 ของพระราชบัญญัติการเงินการคลัง ซึ่งเรื่องนี้ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน...
nn เมื่อมีอุปสรรคมากมายในการที่รัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน จะพยายามแจกเงินให้จงได้ ก็จึงมีความพยายามจะให้คณะกรรมการกฤษฎีกาดูในแง่กฎหมายว่าจะสามารถทำเรื่องนี้ได้โดยไม่ผิดกฎหมายหรือไม่ ล่าสุดได้ข่าวว่าเศรษฐาสั่งการโดยตรงให้คณะกรรมการกฤษฎีกาดูข้อกฎหมายให้ดีให้ถี่ถ้วนโดย ปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา บอกว่าเศรษฐาโทรศัพท์สั่งการให้ดูเรื่องนี้ให้ดี อย่าให้ผิดกฎหมาย แล้วหากต้องใช้เวลาพิจารณาเรื่องยาวนานเท่าไร ก็ขอให้ใช้เวลาศึกษาให้รอบคอบ...
nn พรรคเพื่อไทยดิ้นพล่านกับเรื่องการแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต หัวละ 1 หมื่นบาท โดยเมื่อฟังจากคำพูดของ มิ้ง-พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในเรื่องความพยายามแจกเงินให้จงได้ ก็ทำให้เกิดคำถามตามมามากมาย โดยเฉพาะประเด็นที่ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้เสนอให้รัฐบาลกู้เงินโดยผ่านการออกพระราชบัญญัติ ใช่หรือไม่ เพราะฟังมิ้งพูดแล้วอาจทำให้คนฟังไขว้เขวได้ว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยเสนอให้รัฐบาลกู้เงินแต่เท่าที่ติดตามความเห็นจากธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ทำให้ทราบได้ว่าไม่เคยเห็นด้วยกับการแจกเงินหัวละ 1 หมื่นบาทกับคนอายุ 16 ปีขึ้นไปทุกคนบนแผ่นดินไทย แต่เมื่อมีกระแสเสียงจากมิ้งเรื่องนี้ ก็ทำให้มองเห็นว่าในที่สุดแล้วรัฐบาลที่นำโดยเพื่อไทยก็ต้องหาทางออกด้วยการอ้างเสมือนว่าธนาคารแห่งประเทศไทยเสนอทางออกให้...
nn เศรษฐา ทวีสิน ยังคงพยายามอ้างว่าประชาชนในต่างจังหวัดยังคงต้องการเงินหัวละ 1 หมื่นบาทเพราะประชาชนในต่างจังหวัดยากจน แล้วจำเป็นต้องได้รับเงินไปประทังชีวิต แล้วก็ยังอ้างอีกว่า GDP ของไทยไม่เติบโตมานับสิบปีแล้วก็จำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงินหัวละ 1 หมื่นบาท แต่คนที่มีมุมมองต่างไปจากเศรษฐาตั้งคำถามว่า การแจกเงินหัวละ 1 หมื่นบาท จะกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้จริงหรือ แล้วจะทำให้ GDP เติบโตได้มากกว่าเดิมแบบยั่งยืนหรือ ไม่มีวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนนอกเหนือจากการหว่านแจกเงินหัวละ 1 หมื่นบาทหรือ หรือแม้จะมีวิธีอื่นที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ แต่เศรษฐาก็ยังยืนกรานจะต้องแจกเงินหัวละ 1 หมื่นบาทให้จงใจ โดยไม่สนใจกรรมวิธีอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืนมากกว่า...
nn ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยยังดิ่งเหวไม่หยุดไม่หย่อน แม้รัฐบาลใหม่ชุดล่าสุดจะมีนายกรัฐมนตรีมาจากนักธุรกิจระดับประเทศที่ทำธุรกิจขายบ้านจัดสรรก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถทำให้ดัชนีหุ้นไทยโงหัวขึ้นมาได้จนกลายเป็นว่าหุ้นไทยตกต่ำหนักที่สุด และตกหนักกว่าตลาดหุ้นของประเทศใดๆ ในเอเชียไปแล้ว แม้กระทั่งหุ้น SIRI ของแสนสิริที่เคยขึ้นไปสูงสุดที่ 2.14 บาทต่อหุ้น ก็ยังลงมาอยู่ที่ระดับ 1.66 บาทต่อหุ้นแต่ก็ยังคงปิดบวกอยู่ นับว่าดีกว่าหุ้นตัวอื่นๆที่ราคาดิ่งเหวทุกวัน (ราคาปิดเมื่อวันอังคารที่ 14 พฤศจิกายน) ส่วนหุ้นที่บอกกันว่าพื้นฐานดี อย่างเช่นหุ้น SCC กลุ่มบริษัทซิเมนต์ไทย ก็อยู่ที่ราคา 288 บาทต่อหุ้น จากที่เคยขึ้นไปสูงสุดที่ 374 บาทต่อหุ้นอันที่จริงไม่อยากโทษรัฐบาลเรื่องหุ้นตกหรือหุ้นขึ้นเลย เพราะมันมีปัจจัยมากมายที่ทำให้ดัชนีหุ้นไทยขึ้นหรือลง แต่ที่ต้องเอามาพูดในที่นี้ก็เพราะว่า รัฐบาลทุกชุดมักชอบอ้างในเวลาที่ดัชนี้หุ้นขึ้น ว่าเกิดมาจากผลงานของรัฐบาล ดังนั้นเมื่อหุ้นตก รัฐบาลก็ควรจะต้องรับผิดชอบด้วย ใช่ไหม...
nn หลังจากรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่งยกเลิกLTF (long term equity fund) กองทุนรวมระยะยาวที่เน้นการลงทุนในหุ้นเป็นหลัก ก็ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ไทยเสียตัวหนุนไปมากพอสมควร เพราะในช่วงที่ยังมี LTF นั้นยังมีผลทำให้หุ้นไทยยังคงมีความน่าสนใจพอประมาณ มาบัดนี้ดัชนีหุ้นไทยดิ่งเหวลงทุกวันและทุกวัน รัฐบาลชุดปัจจุบันจึงจำเป็นต้องหาทางแก้เกมให้ได้ ล่าสุดกระทรวงการคลังและสภาธุรกิจตลาดทุนไทยเห็นชอบร่วมกันให้จัดตั้งกองทุนไทยเพื่อความยั่งยืน หรือ Thailand ESG Fund เพื่อเน้นการลงทุนในหลักทรัพย์และตราสารหนี้ที่มี ESG (environmental, social and governance) เพื่อให้สอดประสานกับทิศทางของไทยในการสนับสนุนธุรกิจที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมของโลกโดยกองทุนนี้เน้นการออมระยะยาว โดยผู้ซื้อหน่วยลงทุนนี้จะสามารถนำรายจ่ายที่ซื้อไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ไม่เกิน 30 เปอร์เซ็นต์ หรือหักลดหย่อนภาษีโดยรวมได้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปีภาษีแต่ทั้งนี้ผู้มีสิทธิ์ได้รับการลดหย่อนภาษีต้องถือหน่วยลงทุนให้ครบ 8 ปี...
nn ปิดท้ายด้วยเรื่องขยายเวลาเปิดผับ บาร์ ดิสโก้เธค สถานบันเทิงยามราตรีไปเป็นเวลา 4 นาฬิกา หรือตีสี่ เมื่อถามเรื่องนี้กับผู้ประกอบการ ก็ย่อมได้รับเสียงตอบรับว่าต้องการและเห็นชอบให้ขยายเวลาเปิดไปจนถึงตีสี่อย่างไม่ต้องสงสัย แต่คำถามคือได้มีการสอบถามความเห็นเรื่องนี้จากภาคส่วนอื่นๆ เช่น ครู นักเรียนพ่อแม่ผู้ปกครองเด็ก และบริษัทห้างร้านอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือจากธุรกิจบันเทิงยามราตรีบ้างหรือไม่ว่าเห็นดีเห็นงามกับการเปิดผับ เปิดบาร์ถึงตีสี่หรือไม่ขอย้ำว่าต้องถามความเห็นจากผู้คนในชุมชนให้ทั่วถึงและครอบคลุม ไม่ใช่ถามแค่ผู้ประกอบการสถานบันเทิงแล้วรีบสรุปว่าเห็นดีเห็นงาม...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี