•ขอปูพื้นความเข้าใจเบื้องต้น : ด้วยเรื่องราวที่มีสาระเกี่ยวข้องกับ เหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ (๒)
3. บทบาทของสถาบันหลัก รัฐบาลและผู้นำที่มีส่วนเกี่ยวข้องก่อน และระหว่างเหตุการณ์ฯ
๑. สถาบันพระมหากษัตริย์ไทย
๖ เมษายน ๒๓๒๕ วันสถาปนาราชวงศ์จักรี
๘ พฤษภาคม ๒๔๑๗ วันก่อตั้งสถานที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน (รัฐมนตรีสภา) รัชกาลที่ ๕
๑ เมษายน ๒๔๓๕ ปฏิรูประบบบริหารราชการแผ่นดินสยาม ก่อให้เกิดระบบราชการสมัยใหม่
๑ เมษายน ๒๔๔๘ วันเลิกทาส (พ.ร.บ.เลิกทาส ร.ศ.๑๒๔) สมัยรัชกาลที่ ๕
๒๘ พฤศจิกายน ๒๔๖๘ ตั้งอภิรัฐมนตรีสภา สมัยรัชกาลที่ ๗
๒. รัฐบาล
๒๕๐๔ รัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ประกาศแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑
ระยะที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๐๔ - ๒๕๐๖) ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสังคม และเศรษฐกิจไทย ครั้งใหญ่ มีส่วนก่อให้เกิด “การตื่นตัวของปัญญาชน ชนชั้นกลางและนิสิตนักศึกษา” ขึ้นมามีบทบาทต่อสังคมฯ
๒๐ มิถุนายน ๒๕๑๑ รัฐบาลจอมพลถนอม กิตติขจรประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ฉบับที่ ๘
๑๕ ธันวาคม ๒๕๑๕ จอมพลถนอมประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ฉบับที่ ๙
๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ เวลา ๑๘.๐๐ น. จอมพลถนอมฯ ประกาศลาออกจาตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ เวลา ๑๘.๔๖ น. ในหลวง ร.๙แต่งตั้ง นายสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมแก่ผู้เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖
๗ ตุลาคม ๒๕๑๗ รัฐธรรมนูญ ฉบับที่ ๑๐นายสัญญา ธรรมศักดิ์ นายกรัฐมนตรี
๓. นิสิตนักศึกษา
๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๒ นิสิตนักศึกษา ๑๗ สถาบัน รวมตัวกันเป็น “กลุ่มนิสิตนักศึกษาอาสาสมัครสังเกตการณ์เลือกตั้ง”
๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๓ ก่อตั้ง ศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ( ศนท.)
๒๕๑๕ นายธีรยุทธ บุญมี เป็นเลขาธิการ ศนท. คนที่ ๓
เริ่มสร้างและยกระดับ ศนท. ให้เป็นที่รับรู้และยอมรับของนักศึกษาและประชาชนการต่อต้านสินค้าญี่ปุ่น รณรงค์ผ้าดิบและสินค้าไทย ฯลฯ (บทบาทของ ศนท. : คือ การสร้างขบวนการของนักศึกษา ให้เป็นที่ยอมรับจากประชาชน เป็นเสมือนแกนนำ ในการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลทหารในขณะนั้น : ดร.สุรชาติ บำรุงสุข)
๒๕๑๖ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ เป็นเลขาธิการ ศนท. คนที่ ๔ มีบทบาทสำคัญคนหนึ่ง ในเหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖
๔. ผู้นำอาวุโส และนักการเมือง
๓ มีนาคม ๒๕๑๕ จดหมายเปิดผนึกของ “นายเข้ม เย็นยิ่ง”(ดร.ป๋วย อึ้งภากรณ์) ถึง นายทำนุ เกียรติก้อง (จอมพลถนอม กิตติขจร) เรียกร้องให้มีกติกาหมู่บ้าน (รัฐธรรมนูญ)
๒๒ มิถุนายน ๒๕๑๕ ๓ สส. นายอุทัย พิมพ์ใจชน นายอนันต์ ภักดิ์ประไพ นายบุญเกิด หิรัญคำ ยื่นฟ้อง “จอมพลถนอม กิตติขจร เป็นกบฏต่อรัฐธรรมนูญ” แต่ถูกสั่งจับ และลงโทษจำคุก ข้อหากบฏภายในราชอาณาจักรฯ
๕. เหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้อง ช่วงระยะใกล้ๆ เหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ ( เพิ่มเติม )
๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๑๔ จอมพลถนอม กิตติขจร รัฐประหารตนเอง
ธันวาคม ๒๕๑๕ ประกาศคณะปฏิวัติ ม.๒๙๙ (กฎหมายโบดำ) แทรกแซงอำนาจศาล (ตุลาการ)
บทบาทของศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาฯ
มีแถลงการณ์คัดค้าน และไปชุมนุมคัดค้านที่สนามหลวงและเคลื่อนมาที่ “ศาลฎีกา กระทรวงยุติธรรม” เป็นการชุมนุมข้ามวันครั้งแรก และมีการแต่งตั้ง “คณะกรรมการแก้ไขรัฐธรรมนูญ“ของนิสิตนักศึกษาฯมาดำเนินการ
๒๘ เมษายน ๒๕๑๖ เกิด “กรณีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร” ที่คณะทหารและดาราฯ ไปล่าสัตว์ป่าที่ทุ่งใหญ่โดย คอลัมน์ซอยสวนพูลอาจารย์คึกฤทธิ์ ปราโมช นำมาลง จนเกิดเป็นกระแสมีการต่อต้านจากนักศึกษาและประชาชน อย่างต่อเนื่อง (กรณีทุ่งใหญ่ เป็นจุดพลิกผันของการล้มระบอบอำนาจนิยม จุดเริ่มต้นของจุดจบ : ดร.สุรชาติ บำรุงสุข)
๒๑-๒๒ มิถุนายน ๒๕๑๖ มีการชุมนมใหญ่ของศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยเริ่มที่หอประชุมจุฬาฯ ในตอนเช้า และเคลื่อนมาชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อเรียกร้องให้คืนสภาพ “๙ ผู้นำนักศึกษารามคำแหงที่ถูกทางอธิการบดี สั่งลบชื่อออกจากสภาพนักศึกษา เนื่องจากได้ออกหนังสือ “มหาวิทยาลัยที่ยังไม่คำตอบ” เสียดสี จอมพลถนอมฯ จากกรณีทุ่งใหญ่
จนทางรัฐบาลต้องสั่งให้มหาวิทยาลัย คืนสภาพนักศึกษาให้และทาง ศนท.ได้เรียกร้องให้ รัฐบาลร่างรัฐธรรมนูญ ให้เสร็จภายใน ๖ เดือน
การจัดตั้ง “กลุ่มเรียกร้องรัฐธรรมนูญ” และรณรงค์ผู้นำและคนมีบทบาทในสังคมลงชื่อ ๑๐๐ คนแรกเป็นจุดสำคัญอีกจุดหนึ่ง ในการก่อเกิด “เหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖” มีการเคลื่อนไหวทำกิจกรรมต่อเนื่อง และ เริ่มรณรงค์ โดยการแถลงข่าวฯ ตอนเย็นวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๑๖
๖ ตุลาคม ๒๕๑๖ เริ่มรณรงค์ ถือป้ายเรียกร้องรัฐธรรมนูญ และแจกใบปลิว จากท้องสนามหลวงแต่เช้า และมาถูกทางรัฐบาลสั่งจับ และตั้งข้อหารุนแรงฯ เป็นกบฏฯ (การที่รัฐบาลถนอมสั่งจับกุม ๑๓ กบฏ เป็นจุดสำคัญ)
๗ ตุลาคม ๒๕๑๖ ศนท. ออกแถลงการณ์ คัดค้านการจับกุมฯ
๖. ความคิดเห็นของผู้นำสำคัญ ในบางแง่มุม
อาจารย์ ธีรยุทธ บุญมี
เวลามองประวัติศาสตร์ อย่าไปคร่อม อย่าไปลากยาว อย่าเอาความคิดปัจจุบันไปคร่อมประวัติศาสตร์ ไปคร่อมอดีต มันคนละเรื่องกันและอดีตแต่ละยุค ก็ต่างกัน อย่างยุค ๒๔๗๕ ก็ต้องเข้าใจเขาว่า เขามีข้อจำกัดอะไร
เด็กรุ่นหลังมอง ๑๔ ตุลา ก็ต้องเข้าใจ ๑๔ ตุลา มีข้อจำกัดอะไร อย่างไรบ้าง
@ ร.๔ เริ่มทำให้เกิดความคิดเรื่องชาติ รัฐชาติ คือ เริ่มรู้สึกแล้วว่า “สิ่งสำคัญ มันมิใช่ตัวกษัตริย์ หรือเจ้านายที่ปกครอง แต่คือ องค์รวมที่เรียกว่า ชาติ หรือประเทศ”
ร.๕ แก้โดยนำความคิดเรื่องรัฐชาติมาเป็นแกน แล้วก็บอกว่า“ต้องเปลี่ยนแปลง ระบบการบริหารปกครองแผ่นดิน” ด้วยการ Centralization (การรวมศูนย์อำนาจ ไว้ที่ส่วนกลาง) แล้วก็Departmentalization (จัดแผนงานตามหน้าที่) แบบสมัยใหม่ คือ มี กระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ ที่ทันสมัยขึ้น มีระบบกฎหมายดีขึ้น
ซึ่งผมเรียกว่า “เป็นคุณูปการ ของ ร.๕”
@ การพัฒนาเศรษฐกิจจริงๆ มาเริ่มในสมัย จอมพลสฤษดิ์ผมจึงให้เครดิตเขาว่า “เมืองไทย ที่มาเป็นอย่างนี้ เกิดในยุคสฤษดิ์” ฯลฯ
@ วันที่ ๑๔ ตุลาคม ผมไปที่สวนรื่นฯ เพราะเรื่องยังไม่จบ(ตอนนั้น พลเอกกฤษณ์ สีวะรา ยึดอำนาจแล้ว และบอกว่า“ไม่มีการรัฐประหารซ้อน เขาคุมอำนาจเฉยๆ แล้วให้เราไปดูได้เลยว่าการสั่งการในศูนย์บัญชาการ เป็นอย่างไรเขาบอกให้ผมไปก็ได้ ผมก็ไปที่สวนรื่น......มีพลเอกกฤษณ์ ผบ.ทบ. (เป็นวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๑๖)นั่งอยู่ ได้สั่งการให้ “ทหาร” จัดการให้ “จอมพลถนอมประภาส ณรงค์” ออกนอกประเทศให้ได้.....มีพลตำตรวจโท มนต์ชัยพันธุ์คงชื่น (เป็นผู้คุมตำรวจ ช่วงการเกิดเหตุ”สลายการชมุนุมที่สวนจิตรลดา) ถูกควบคุมตัวอยู่.....
@ ถ้าประชาชน ไม่มีฉันทามติทั่วประเทศ ทหารก็อาจจะไม่กล้าแตกกันเอง......
•อาจารย์ปรีดี พนมยงค์
-พระพุทธองค์ ตรัสไว้ว่า “กตัญญู ต้องคู่กับ กตเวที” ฉะนั้นการพิทักษ์เจตนารมณ์ประชาธิปไตยสมบูรณ์ของวีรชน ๑๔ ตุลาคม ให้มั่นคงไว้และพัฒนายิ่งขึ้นนั้น จึงเป็นกตเวทีสำคัญยิ่งที่สาธุชนผู้รักชาติพึ่งปฏิบัติ
-ปัญหามิได้อยู่ที่ว่า “ผู้ใดเป็นทหารแล้วย่อมนิยมลัทธิเผด็จการ หรือผู้ใดเป็นพลเรือนแล้ว ย่อมสนับสนุนประชาธิปไตย” ปัญหาอยู่ที่ ซากทรรศนะที่ตกค้างมาจากระบบทาส ยังคงอยู่ที่บุคคลใดคิดและทำอย่างใดฯ
ท่านอานันท์ ปันยารชุน (ตอนเกิดเหตุ อยู่ต่างประเทศ)
จอมพลสฤษดิ์ เป็นผู้ใหญ่ที่ใส่ใจลึกซึ้งมากกว่า ผู้ใหญ่ในปัจจุบัน คือ แกเลือกพลเรือนเก่งๆ ไปเป็นรัฐมนตรี ทั้งนั้น และนอกจากเก่งแล้ว ยังเป็นคนรุ่นหนุ่มด้วย รุ่นกลางด้วย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี