“บุคคลแนวหน้าโดย ไม้หน้าสาม ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า / แนวหน้าออนไลน์ สื่อ อุดมการณ์มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสามขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ทำความจริงให้ปรากฏ ให้สังคมไทยรู้เท่าทันเล่ห์ทันเหลี่ยมนักการเมืองเสียชาติเกิดนักเลือกตั้งชังชาติ ติ่งแดงด้อมส้ม ส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสีที่โกงบ้านกินเมืองยกตนเป็นเทวดา ชั้น 14 ทั้งที่แค่โจรตะกละตะกลามเท่านั้นอย่างเท่าเทียม”...
nn อพิโธ่ อพิถังกะละมังแตก!! “ศีลเสมอกันทั้งโขลง” จากหัวลิ้นแฉกยันหางแดงๆ เลย ล่าสุด “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง” อนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการนโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ออกมาชี้แจงแล้วว่า “ยังไม่ได้ส่งเรื่อง+ข้อมูลในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกู้เงินมาแจก 560,000 ล้านบาท เพราะเพิ่งได้รับข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจมาจากสภาพัฒน์” ดังนั้น นโยบายนี้ล่าช้า หลังสิ้นเสียงเคาะกะลานานคงไม่ใช่ “รัฐบาลมะงุมมะงาหรากลัวๆ กล้าๆ ส่งเรื่องให้ฝ่ายกฎหมาย-คณะกรรมการกฤษฎีกา” พิจารณาช้า แต่อยู่ที่ข้อมูลสภาพัฒน์นั้นมาช้า ที่สำคัญกว่านั้นต้องไม่ลืมว่าสภาพัฒน์เองก็ค้านโครงการนี้มาแต่ต้น คนในสังคมเจอต้นตอที่ฝันค้างฝันทิพย์เข้าแล้วไง โดยทัวร์ลงที่ “คณะกรรมการกฤษฎีกา” ไม่ได้รับรู้มาก่อนด้วยซ้ำ ประเภท “เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่งเอากระดูกมาแขวนคอ” ซะแล้ว...
nn “ไม้หน้าสาม” เล็งการณ์ไกลกว่านั้นพฤติกรรมเยี่ยงนี้ ข้าราชการประจำที่รับปฏิบัติโครงการนี้สั่งเสียครอบครัวจัดหาที่สั่งทำอาหารกล่องรอเยี่ยมใน “ทัณฑสถาน” ได้เลย เริ่มต้นตัดกระบอกไม้ไผ่ก็ออกลักษณะบ้องกัญชาแล้ว งานนี้ดูทรง “อุจจาระคนอุจจาระหมา” เกลื่อน “สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ” กับ “สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา” แน่แท้ ต้นเหตุไม่เร่งรีบดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล “กู้มาแจกไม่ทันใจสังคมไทย - เหตุหนึ่งให้ข้อมูลมาช้า หนึ่งพิจารณากฎหมายช้า”...
nn อ่านบทบรรณาธิการหนังสือพิมพ์แนวหน้า “หนูน้อยถุงเท้าแดง คุณหลอกดาว” ทำให้รู้สึกว่า สังคมไทยต้องก่อบาปสร้างเวรสร้างกรรมกับปูชนียบุคคลทางการศึกษาอย่าง “อาจารย์แม่ –รองศาสตราจารย์สุนีย์ สินธุเดชะ ในวัย 87 ปี” มาสอนภาษาไทยนิยามความหมายคำว่า “วิกฤต” กับคำว่า “เศรษฐกิจ” ให้ “หนูน้อยถุงเท้าแดงและโขลงส่ำสัตว์” เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงนิยามความหมายเผื่อเกิดสติมีปัญญาและเชิญผู้รู้ทางเศรษฐศาสตร์ อย่าง “ดอกเตอร์ศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการอังค์ถัด/อดีตผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก, เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย มา “สีซอ” ทั้งสามสายอธิบายภาพรวมของสองคำข้างต้นจะได้เลิก “สำรอกสำรากวาทกรรมประดิษฐ์” หลอกลวงสังคมไทยว่าเศรษฐกิจประเทศกำลังวิกฤตแสนสาหัสอันเกิดจากการบริหารประเทศในช่วง 8-9 ปีที่ผ่านมา จน“ม้าป่วย” ต้องฉีดยากระตุ้น ทั้งที่ข้อเท็จจริงนั้นสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของไทยอยู่ในขั้นฟื้นตัว แต่เป็นการฟื้นตัวในอัตราที่ลดลงจากที่มีการคาดการณ์ โตช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนจริงหรือ!?!?! ในเมื่อเครื่องยนต์ทั้ง 5 เครื่อง เพิ่งทำหน้าที่ของมันไม่นานมานี้เองจาก “วิกฤต –วิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)”...
nnถ้า “หนูน้อยถุงเท้าแดง” จะตั้งสติส่องกระจกย้อนความทรงจำกลับไปไม่นานมานี้ช่วงการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งข้อโจมตี “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” จากพรรค “รวมไทยสร้างชาติ” ที่ชื่อ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา”ที่ถูกวาทกรรมประดิษฐ์ทั้ง “ผนงรจตกม...รปภ.โง่เป็นกัปตันขับเครื่องบิน”กระทั่งวิจารณ์วิสัยทัศน์ในการเจรจาการค้าเปิดตลาดสินค้าส่งออกของไทย ทำให้เศรษฐกิจประเทศไม่เติบโตถึงขั้น “ต่ำเตี้ยเรี่ยราด” ทุกวันนี้“ท่านผู้นำ – เศรษฐา ทวีสิน/หนูน้อยถุงเท้าแดง” บัญชาการบริหารนโยบายให้ทีมงานเปิดตลาดการค้าใหม่ให้กับสินค้าไทยอะไรได้บ้าง ไม่พบกลิ่นความเจริญแบบก้าวไกล(กลิ่นน้ำกาม+น้ำเมา) แต่กลิ่น “น้ำลายบูด”คละคลุ้งทั้งที่เดินทางไปทัวร์ต่างประเทศมากมายหลายหน... นี่ไม่ใช่หรือ ต้นตอของ “วิกฤตเศรษฐกิจ” ที่กำลังจะเกิดขึ้น...
nnหนูน้อยถุงเท้าแดง ไม่ทราบจริงหรือว่าภาคการส่งออกรวมชะลอลง จากการส่งออกสินค้าที่ลดลง ขณะที่ด้านบริการขยายตัวจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ภาคการผลิต ชะลอลงทั้งภาคเกษตร และภาคนอกเกษตร โดยภาคเกษตรขยายตัวร้อยละ 0.9 ชะลอลงจากร้อยละ 1.2 ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ตามการลดลงของผลผลิตพืชผลเกษตรที่สำคัญ ภาคนอกเกษตรขยายตัวร้อยละ 1.5 ชะลอลงจากร้อยละ 1.8 เป็นผลจากภาคบริการขยายตัวร้อยละ 3.9 (กิจกรรมด้านการท่องเที่ยว) ขยายตัว ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ 2.8 เพราะการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมลดลงตามความต้องการของตลาดต่างประเทศ ข้อมูลเหล่านี้ท่านและคณะอมแก้มตุ่ยไม่พูดไม่กล่าวถึงสักน้อยนิด... มันคือความผิดพลาดในการบริหารราชการแผ่นดินใช่หรือไม่ จึงเลือกใช้มาตรการเดิมๆ เขียนเสือโชว์คนตาบอดหลอกลวงสังคมไทยเหมือนเมื่อครั้งขึ้นทะเบียนคนจน แต่ครั้งนี้ไม่มีคนตาบอดเท่าใดนัก แย่สุดก็แค่ตาต้อกระจกจึงเตรียมการไว้ล่วงหน้าว่าเศรษฐกิจไทยไม่เป็นไปตามที่หาเสียงไว้เพราะม้าป่วยหนักมา 8-9 ปีแล้วใช่หรือไม่...
nn ทิ้งท้ายฉบับนี้...เกษตรกรฟังทางนี้ ถ้าท่านยังต้องการปกปักรักษาผลิตภัณฑ์ในประเทศ และไม่อยากให้สินค้าต่างประเทศเข้ามาตีสินค้าของท่าน ท่านต้องใช้ไบโอแซน ซินไบโอติกส์ ไบโอ น็อคและผลิตภัณฑ์เกษตรต่างๆของ TPI ซึ่งผลิตในเมืองไทย แล้ว ผลบุญที่ท่านทำนี้จะตอบสนองส่งผลให้ท่านได้รับการปกปักรักษาไม่ให้สินค้าต่างประเทศเข้ามาตีตลาดเมืองไทยแต่ถ้ายังไปเชื่อเจ้าสัวใหญ่บริษัทยักษ์ที่นิยมชมชอบการนำสินค้าเกษตรจากต่างประเทศมาตีตลาดไทย เช่นซินไบโอติกส์ ปุ๋ยเคมีจากต่างประเทศมาฆ่าผู้ผลิตในไทย กรรมจะตามสนอง อย่างทุกวันนึ้แน่นอน... สุดท้าย ขอแสดงความชื่นชม “มาดามแป้ง - นวลพรรณ ล่ำซำ” กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย ในฐานะ “ผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย และผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงเก้าอี้ “นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์” ที่ตัดสินใจรวดเร็วเด็ดขาดในการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทยอย่างไม่พิรี้พิไร จาก“มาโน่ โพลกิ้ง” เป็น “มาซาทาดะ อิชิอิ” ในเวลาอันเหมาะสมเล็งการณ์ไกลถึงอนาคตฟุตบอลทีมชาติไทยที่ต้องก้าวข้ามภูมิภาคอาเซียนไปสู่ความสำเร็จระดับเอเชียได้แล้ว...nn
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี