ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ชื่อเศรษฐา ทวีสิน นี่คือความจริงในเชิงนิตินัย แต่ในเชิงพฤตินัยแล้ว วิญญูชนวิพากษ์วิจารณ์ และวิเคราะห์ว่าเศรษฐา คือหุ่นเชิดของนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร
เศรษฐาต้องรู้อยู่แก่ใจว่า การที่ตนเองได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทยนั้นมันไม่ใช่เรื่องตรงไปตรงมา ไม่ใช่เรื่องชั้นเดียวเชิงเดียว แต่มันมีความสลับซับซ้อน ซ่อนเงื่อนซ่อนปม จนยากจะหาความจริงได้โดยง่าย
การเมืองไทยเป็นการเมืองแบบไม่ตรงไปตรงมาเพราะนักการเมืองไทยจำนวนมากไม่มีความซื่อตรง ไม่มีความสุจริต เล่นการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของคนเองเป็นที่ตั้ง โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์สาธารณะ
แน่นอนว่ารัฐบาลปัจจุบันเป็นรัฐบาลผสมจากหลายพรรคการเมือง แต่ทว่าทุกพรรคการเมืองที่ร่วมเป็นรัฐบาลก็หวังเพียงอย่างเดียวคือขอให้ได้ตำแหน่งรัฐมนตรี ส่วนจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงสำคัญหรือไม่ ก็ขึ้นกับข้อตกลงภายใน โดยเฉพาะต้องมีเก้าอี้ สส. เป็นเครื่องต่อรอง หากได้ สส.มาก ก็ได้เก้าอี้รัฐมนตรีสำคัญๆ ไปครอง แม้คนที่นั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีบางคนจะไม่มีคุณสมบัติของการเป็นนักบริหารของกระทรวงนั้นๆ เลยก็ตาม บางคนหนักยิ่งกว่าคือไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่รู้กิจการงานสำคัญของกระทรวงที่ได้เข้าไปเป็นรัฐมนตรี แต่ก็จำต้องรับตำแหน่งไว้ เพื่อให้ได้ชื่อว่าเป็นรัฐมนตรีเท่านั้น ซึ่งคนจำพวกนี้ถูกสาธารณชนเรียกว่า เป็นรัฐมนตรีที่ต้องการได้แค่ชื่อไปแปะฝาโลงเท่านั้น
ในเมื่อรัฐมนตรีหลายคนไร้ความละอายกล้ารับตำแหน่งสำคัญทั้งๆ ที่ไม่มีความสามารถในการบริหารราชการของกระทรวงนั้นๆ แม้แต่น้อยก็จึงบังเกิดภาพรัฐมนตรีโลกลืม ไม่มีใครรู้จักรัฐมนตรีในหลายต่อหลายกระทรวง แม้กระทั่งในกระทรวงที่เป็นกระทรวงหลักๆ ของประเทศ เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดีอีเอส รวมถึงอีกหลายต่อหลายกระทรวง ซึ่งไม่มีใครจำได้ว่าใครคือรัฐมนตรีของกระทรวงเหล่านั้น
มีคำถามว่าทำไมเศรษฐาจึงยอมเป็นหุ่นเชิดให้นักโทษชายทักษิณ เมื่อมีคำถามเช่นนี้ออกมา ก็มีคำถามย้อนกลับว่า หากเศรษฐาไม่ยอมเป็นหุ่นเชิดให้นักโทษชายทักษิณแล้ว เศรษฐาจะไม่มีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลผสมที่นำโดยพรรคเพื่อไทยหรือ
หรือยังมีใครหลงเชื่อว่าเศรษฐาได้เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยความสามารถของตนเอง ทั้งนี้ยังไม่ต้องประหลาดใจในที่สาธารณชนจะเห็นเป็นประจำว่าเศรษฐารับบทนายกรัฐมนตรีด้วยความไม่มั่นใจ เพราะลึกๆ ในใจของเศรษฐาย่อมรู้ดีว่าตนเองได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพราะเหตุผลกลใด
มีคำถามต่อว่า หากเศรษฐาตั้งพรรคการเมืองเอง เขาจะประสบผลสำเร็จทางการเมืองจนได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ตอบได้ทันทีว่า ไม่มีวันไม่มีทาง และไม่มีหวัง ดังนั้นก็ต้องยอมรับโดยปริยายว่าการที่เศรษฐาได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็เพราะว่ามีข้อตกลงทางการเมืองไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนใครจะตกลงกับใครนั้น เรื่องนี้สังคมไทยเข้าใจได้โดยไม่ยาก แม้บางครั้งก็ไม่สามารถทำในสิ่งที่ตนเองเข้าใจได้ เพราะการเมืองไทยมันเป็นการเมืองแบบ deep politics (การเมืองที่ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน และลึกลับมาก)
วันนี้ เศรษฐายังคงเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนนักโทษชายทักษิณก็ยังถูกสังคมตั้งคำถามด้วยความไม่เชื่อว่าเขาติดคุกติดตะราง และไม่มีใครเชื่อว่านักโทษชายทักษิณป่วยหนัก จนต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจเป็นเวลายาวนานกว่า 120 วัน
ไม่มีใครได้ยินเรื่องราวใดๆ จากปากของเศรษฐา ในเรื่องที่สังคมตั้งข้อสงสัยสารพัดเรื่องของนักโทษชายทักษิณ ซึ่งเรื่องนี้สาธารณชนเข้าใจได้ดี เพราะไม่มีวันที่นายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดจะกล้าแพร่งพรายเรื่องราวใดๆ ของคนชักคนเชิดหุ่นเป็นอันขาด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี