ก่อนถึงเวลาที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย กรณีมีผู้ร้องว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กับพรรคก้าวไกล ที่หาเสียงและเสนอกฎหมาย ให้มีการยกเลิกหรือแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็นการกระทำที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่นั้น
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ไปที่รัฐสภา และให้สัมภาษณ์สื่อ ตอนหนึ่งว่า
“...อยากให้สังคมกลับมาตั้งหลักเรื่องนี้ให้มั่นคง กฎหมายไม่ได้ส่งแฟกซ์มาจากพระเจ้า แต่กฎหมายมันร่างด้วยน้ำมือมนุษย์ ดังนั้น เมื่อมันร่างด้วยน้ำมือมนุษย์ มนุษย์ก็ต้องแก้ไขได้ ถือเป็นหลักการพื้นฐาน ถ้าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเรียกได้เต็มปากว่าเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่สามารถแก้ไขกฎหมายได้ ผมคิดว่า คงไม่มีอะไรปกติแล้วล่ะ ในประเทศนี้”
“วาทกรรม” คมคายวัวตายควายล้มเลยเชียวครับ แต่มีคนไปพบสำนวนนี้เข้า ลองเทียบสำนวนดูนะครับ...
The Bible did not arrive by fax from heaven. The Bible is the product of man, my dear. Not of God. The Bible did not fall magically from the clouds. Man created it as a historical record of tumultuous times, and it has evolved through countless translations, additions, and revisions. History has never had a definitive version of the book.”
Dan Brown, นวนิยาย The Da Vinci Code บทที่ 55
ในยุคที่แดน บราวน์ แต่งนิยาย แฟกซ์-เป็นเครื่องมือ “ส่งสาร” สำคัญ แต่ในยุคปัจจุบัน “แฟกซ์” กลายเป็นคำสะดุดหู จนถูกค้นพบที่มา ว่า “ก๊อบปี้” วาทกรรมมาพูดเอาหล่อนี่หว่า
ฟังผ่านๆ ตื้นๆ ธนาธรพูดถูก แต่ถ้าฟังด้วยสติปัญญา เขาพูดไม่หมด เขาเลือกพูดเพียงครึ่งเดียว ใช้ “ความจริงครึ่งเดียว” เพื่อประโยชน์ของพรรคก้าวไกล มาตั้งสติ และรู้ทันกันครับ
1) ประเทศไทย หรือราชอาณาจักรไทย ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พระมหากษัตริย์จึงมีพระราชสถานะ “ประมุขแห่งรัฐ” ซึ่งเกินความเป็น “ปัจเจกบุคคล” แต่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับ “ความเป็นรัฐ”
2) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่มุ่งคุ้มครององค์พระประมุข โดยกำหนดห้ามมิให้ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จึงถูกจัดอยู่ในหมวด “ความมั่นคงของรัฐ” มิใช่กฎหมายอาญาธรรมดา ดังนั้น จึงกำหนดโทษไว้สูง เพื่อให้เกิดความยำเกรง และไม่กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายข้อนี้
3) ใช่, กฎหมายเป็นสิ่งที่มนุษย์เขียน ไม่ใช่แฟกซ์ของพระเจ้าจริงๆ ดังที่ตี๋ว่า
4) แต่ถ้าตี๋เป็นสุจริตชน ไม่มีอคติกับพระมหากษัตริย์ ตี๋ต้องอธิบายให้ครบ มิใช่หยุดอยู่ที่ว่า กฎหมายมนุษย์เขียนขึ้นได้ มนุษย์ก็ต้องแก้ไขมันได้ ตี๋เอ๊ย! จริงใจต่อประชาชนหน่อยเถอะ อย่าหลอกให้เขาเป็นวัวเป็นควาย เป็นขี้ข้าม้าใช้ทางการเมืองเพราะถูกทำให้ “หย่อนความรู้” และมี “กระบวนการคิด” ที่บิดเบี้ยวอยู่อย่างนี้ ด้วยการให้ข้อมูลครึ่งๆ กลางๆ ผ่านวาทกรรมสุดเท่
5) กฎหมายของทุกประเทศในโลก มี “ลำดับศักดิ์” คือ มีน้ำหนัก/ความสำคัญไม่เท่ากัน ประเทศที่มีรัฐธรรมนูญ จัดให้กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็น “กฎหมายแม่” มีความสำคัญสุดใหญ่สุด มีศักดิ์สูงสุด กฎหมายใดๆ จะขัดหรือแย้งกับหลักการหรือบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญไม่ได้เปรียบเทียบง่ายๆ ว่า ในครอบครัวของตี๋เองเจ๊สมพรก็ใหญ่กว่าตี๋ เพราะ “อีเป็งแม่ลื้อ” ใช่ไหม ถ้าตี๋คิด หรือทำอะไรที่ไปขัดหรือแย้งกับเจ๊สมพรมุ่งหมายจะโค่นล้มอำนาจ เปลี่ยนแปลงบทบาท และการคุ้มครองเจ๊สมพร ปัญหาก็เกิด บ้านก็วุ่นวาย ไร้ความสงบ #อั๊วพูกถูกม้าย
6) บ้านเมืองก็ไม่ต่างจากบ้านลื้อหรอก มีกฎหมายแม่ กฎหมายลูก กฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ฯลฯ ที่ศักดิ์หรือฐานะของกฎหมายนั้นๆ ต่างกันออกไป
7) รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายใหญ่สุด บัญญัติว่าประเทศไทยปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และกำหนดไว้ในมาตรา 6 ว่า “องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้”
8) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ทำให้หลักการในรัฐธรรมนูญชัดเจนขึ้นในทางปฏิบัติ โดยการขยายความคำว่า “ละเมิดมิได้” ด้วยการชี้ชัดว่า ห้ามดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้าย
9) ตี๋เอ๊ย!! คนธรรมดาอย่างลื้ออย่างอั๊วะ กฎหมายยังไม่อนุญาตให้ดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้าย กันได้เลย นั่น “ประมุขแห่งรัฐ” นะโว้ย มาตรา 112 จึงไม่ได้มีอะไรเกินเลยในทางหลักการสักนิด
10) มาตรา 112 เป็นกฎหมายที่แก้ได้ครับ ก็ขนาดรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายใหญ่สุด ยังแก้ได้เลย กฎหมายชั้นรองลงมาอย่างประมวลกฎหมายอาญา ทำไมจะแก้ไม่ได้ล่ะ
11) แต่ตี๋พูดไม่ครบไงว่า ถ้าแก้แล้ว มันไปขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ ผิดหลักการของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ละทิ้งการคุ้มครองประมุขแห่งรัฐอย่างที่มีมา มันทำไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องแฟกซ์ของพระเจ้าห่าเหวอะไรเลยครับ เป็นแค่หลักการสามัญ ของสากลโลก
12) ทีนี้ก็ไปดูสิ...
l พรรคก้าวไกลเป็นพรรคการเมือง มีสมาชิกพรรคเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเท่ากับเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ เสนอแก้ไขกฎหมายได้ครับ ไม่ผิด ไม่มีใครห้ามเสนอ
l แต่ข้อเสนอนั้น ไปทำให้หลักการคุ้มครอง “ประมุขแห่งรัฐ” ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหย่อนยานลง ลดน้อยลง ทำให้หลักการ “ผู้ใดจะละเมิดมิได้” มีค่าเท่ากับละเมิดได้ในทางพฤตินัย การแก้กฎหมายที่เสนอเนื้อหามาอย่างนั้นต่างหากที่เป็นไปไม่ได้ หรือทำไม่ได้ การกระทำเยี่ยงนั้นจากห้างที่เทียบเท่า“ไลน์จากซาตาน”
l กฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข, กำหนดหลักการคุ้มครองประมุขว่า “ผู้ใดจะละเมิดมิได้”,
ม.112 กำหนดโทษจำคุก 3 ถึง 15 ปี แต่พี่จะเสนอให้ไม่มีโทษจำคุก มีแค่โทษปรับ พี่ว่าข้อเสนอนี้ = ล้มล้างหลักการในรัฐธรรมนูญไหม ซึ่ง = ล้มล้างหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขไหม เป็นแรงจูงใจหรือเปิดทางให้คนขาดความยำเกรง และพร้อมจะลงทุนดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้าย ไหม เพียงแค่มีเงินจ่ายค่าปรับเท่านั้น
l เนื้อหาในกฎหมายที่จะแก้กันนั้น ยังนำไปสู่การลดพระราชสถานะพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุขแห่งรัฐ และทรงเป็นศูนย์รวมใจจากประเพณี มาเสมือนเป็น “บุคคลธรรมดา” ถูกใครดูหมิ่นหมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้าย ก็ให้คนของตนเอง คือ สำนักพระราชวังไปแจ้งความเอา เท่ากับให้พระเจ้าแผ่นดินมาเป็นคู่ความกับราษฎร อันนี้ = ล้มล้างหลักการในรัฐธรรมนูญไหม อันนี้นำไปสู่การไม่เคารพสักการะไหมนี่แค่ตัวอย่างส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง
l แม้แต่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล คู่หูดูโอ้ ของธนาธรเอง ยังเหน็บพรรคก้าวไกลว่าแหยเลย ที่ลบนโยบายแก้ไข ม.112 ออกจากเว็บไซต์พรรค โดยปิยบุตรบอกตอนหนึ่งว่า “หากอ่านจากคำบังคับของศาลรัฐธรรมนูญ จะเห็นได้ว่าศาลรัฐธรรมนูญสั่งดังนี้ หนึ่ง สั่งการให้พรรคก้าวไกลและพิธา เลิกแสดงความเห็น เพื่อให้มีการยกเลิก 112 สอง ไม่ให้มีการแก้ไข 112 ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ ซึ่งคำนี้น่าจะอนุมานจากคำวินิจฉัยนี้ได้ว่า ห้ามแก้ใน 3 ประเด็น ที่ศาลบอกว่าเป็นการล้มล้างฯ ได้แก่ ห้ามย้ายหมวด, ห้ามกำหนดเหตุยกเว้นความผิด เหตุยกเว้นโทษ, ห้ามกำหนดให้ยอมความได้ และห้ามกำหนดให้สำนักพระราชวังเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ” ซึ่งนั่นคือ พฤติกรรมเดิมของนายพิธา กับพรรคก้าวไกล ใช่หรือไม่?
13) ตี๋เอ๊ย... ความตรงไปตรงมา คือ ความงามสง่าของมนุษย์ ถ้อยคำ ท่าที ที่ส่อเจตนาของตี๋กับพวกที่มีตลอดมา ก็ส่อให้เห็นถึงความไม่เคารพสักการะ ชัดเจนอยู่แล้ว กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนาครับ แต่นั่นก็เป็นอีกบริบทหนึ่ง ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องแก้กฎหมายโดยตรง
14) จึงขอย้ำในท้ายที่สุดว่า กฎหมายแก้ได้ แต่ต้องไม่ทำลายล้างหลักการใหญ่ ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ใช่ครับ, กฎหมายไม่ใช่แฟกซ์ของพระเจ้า (ว่าแต่ยุคนี้แล้ว พระเจ้ายังส่งแฟกซ์อยู่อีกเรอะ นี่ถ้าลุงตู่พูด คงถูกล้อจนหลานบวชแน่ๆ 555) มนุษย์เป็นคนเขียน และมนุษย์ก็เป็นคนแก้เราไม่ให้สุนัขหรือตัวเหี้ยมาแก้แน่ๆ ครับ แต่การแก้ ก็มีหลักปฏิบัติที่ชัดเจน ว่าลูกจะฆ่าแม่ไม่ได้ธนาธรจะฆ่าสมพรไม่ได้ การแก้ ม.112 ของพรรคก้าวไกล จะล้มล้างหลักการในรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายแม่ไม่ได้...ก็เท่านั้นเอง
หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการกระทำของนายพิธากับพรรคก้าวไกล เข้าข่ายล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราจะเห็น “แนวร่วมและแนวไม่ร่วม” ของพรรคก้าวไกล “มีปฏิกิริยา” กันไปต่างๆ นานา ผมสะดุดตากับข้อความที่ “แยม-ฐปณีย์ เอียดศรีไชย” โพสต์ใน X (ทวิตเตอร์เดิม) ความว่า
“เราจะถามหาเสรีภาพที่จะพูดจากอะไรได้อีก
เราจะถามหาความยุติธรรมจากมาตรฐานไหน
เราจะถามหาสังคมแบบไหน ในอนาคต !!!
ทิ้งตัวลงไป
กางปีกแห่งเสรีภาพของคุณ
ตั้งมั่นในเสรีภาพที่จะพูด ที่จะคิดเห็น
ไม่จำยอมต่อการข่มขู่ คุกคามทางกฎหมาย
เพียงเพราะเราอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง
เพียงเพราะเราอยากเห็นการแก้ไข
เพียงเพราะเราอยากเห็นการปรับปรุงก็ได้
ฉันคนหนึ่งล่ะที่ไม่จำยอม”
#Freedom of Speech”
มีความเห็นหนึ่ง ใช้นามแฝงว่า “ร.ต.อ.ปลอมตัวมา” ถามแยม ฐปณีย์ว่า
“#ม112 มีแค่ “ดูหมิ่น อาฆาตมาดร้าย” คุณแยม เห็นว่าสมควรมีใครควรโดนละเมิดเหรอครับ เป็นเราก็ไม่อยากให้ใครมากระทำแบบนี้กับเราเช่นกัน อิสรภาพ เสรีภาพต้องมีขอบเขตเพราะเราไม่ได้อยู่ในถ้ำครับ”
ผู้ใช้นามว่า kung แสดง Freedom of speech กับแยมเสียแรงเชียว โดยบอกว่า “ประสาทหลอนอะไร อ่านคำวินิจฉัยยัง ถ้าจะปากแบบนี้ อย่าเรียกตัวเองเป็นสื่อเลย สมัครเข้าพรรคไปเลย ทุกวันนี้ชั้นก็เห็นถ่ายรูปยิ้มระรื่นกันอยู่แล้ว จะใช้คำว่าสื่อมวลชนไว้ฟอกตัวว่าชั้นไม่ได้อยู่ฝั่งไหเหรอแยม พอเวลาใครแซวว่าแยมส้ม โกรธจะฟ้อง เคยถามตัวเองป่ะว่า ทำไมคนเค้าถึงคิดแบบนั้น แหม”
คุณ “โกโก้นมสด” บอกแยมว่า “ถ้าแขนของคุณซึ่งเป็นเสรีภาพของคุณ กางไปโดนคนอื่น คุณก็อาจโดนคนอื่นเล่นงานคุณได้นะ”
ส่วนผม ขอบอกว่า “โลกนี้ไม่มี Freedom of speech ที่เพ้อเจ้อแบบนี้ครับ เพราะทุกประเทศล้วนจำกัดการพูดที่ “ละเมิดผู้อื่น” เสรีภาพทุกชนิดมีกรอบ มีขอบเขต มีหมายเหตุ ดังนั้น ขอให้มีสติที่จะเรียนรู้มัน และบอกกับผู้ติดตามให้ตั้งสติไปด้วยกันดีกว่าครับ”
คนหนึ่งหลงผิด พาคนฝูงหนึ่งหลงทาง เรียกว่า “โศกนาฏกรรมทางสติครับ #เป็นห่วงครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี