วันเสาร์ ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2568
เราเห็นด้วยที่สังคมไทยจะก้าวข้ามความขัดแย้ง ด้วยการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมืองการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน พ.ศ. ....
อย่างไรก็ดี สังคมไทยต้องสรุปบทเรียน และยอมรับข้อสรุปนั้น รวมทั้งต้องยอมรับด้วยว่าการเคลื่อนไหวทางการเมืองทุกครั้งนั้น ทำได้เพียงจุดกระแสการตื่นตัวการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน แล้วที่สุดก็จะมีการฉกฉวยผลประโยชน์ทางการเมืองจากการเคลื่อนไหวนั้นๆ ด้วยการปฏิวัติการรัฐประหาร ทำให้การเคลื่อนไหวนั้นๆ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ และทำให้การเมืองกลับมาเริ่มต้นที่ศูนย์หรือติดลบด้วยซ้ำ
เราสนับสนุนแนวคิดพรรคก้าวไกล ที่ให้มีคณะกรรมการกลั่นกรองคดีที่เกี่ยวข้องว่าใครบ้างเข้าข่ายที่จะได้รับการนิรโทษกรรม แต่เราคัดค้านที่จะนำผู้ต้องหาคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นหนึ่งในปัญหาร่วมในสังคมในร่างพระราชบัญญัตินี้
แน่นอนการมีคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองคดีที่เข้าข่ายบทบัญญัติในร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้น่าจะลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมและยึดมั่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ไว้ได้ในระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ดี เพราะลิ้นคนไม่มีกระดูก นักธนกิจการเมืองทุนสามานย์เปลี่ยนขาวเป็นเทาเป็นดำได้โดยไม่ต้องมีเหตุผลมารองรับ อย่างกรณีพรรคเพื่อไทย โดย “ภูมิธรรม เวชยชัย” ประกาศว่า “...เรายืนยันชัดเจนอยู่แล้วเรื่อง ม.112 ต้องเคลียร์กันให้ชัดเจนก่อน เพราะเป็นประเด็นความขัดแย้ง ถ้าคุยกันยังไม่จบ เสนอก.ม.เข้ามาแล้วมีเรื่อง ม.112 ก็จะเป็นดราม่าทางการเมือง ...”
เมื่อพรรคเพื่อไทยมีแนวโน้มที่จะยืนหยัดจุดยืนเช่นนี้ก็ควรจะมีความชัดเจนที่เป็นทางการในนามพรรคเพราะการนิรโทษกรรมที่รวมไปถึงผู้กระทำผิด ม.112 ด้วยนั้นเป็นประเด็นที่ล่อแหลมที่อาจทำให้การออกกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับนี้ ซ้ำรอยกับรัฐบาลจ๊าดง่าวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่นิรโทษกรรมสุดซอยจนนำพาไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองเลยเถิดเกิดโศกนาฏกรรม นำไปสู่การตายยกครอก
ทว่าต่อมา “ชูศักดิ์ ศิรินิล” ที่รับหน้าที่เป็น ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมของสภาผู้แทนราษฎร พยายามไกด์ไลน์ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
“...แนวทางการพิจารณานิรโทษกรรม ให้แก่ผู้ที่มีความเห็นต่าง และอาจนำไปสู่การนิรโทษกรรมผู้ต้องโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้น ต้องฟังความคิดเห็นกัน อย่าไปด่วนสรุปว่าจะมีหรือไม่มีอะไร ต้องดูรอบด้าน อย่าไปถึงขั้นฟันธงเลย...”
เป็นวาทกรรมที่มีความหมายค่อนข้างตรงข้ามกับ “ภูมิธรรม เวชยชัย” อย่างยิ่งน่าจะเป็นปัญหาเพราะ สำนักงานอัยการสูงสุดนำหมายจับอายัดตัว “โจรทุจริตคอร์รัปชั่นฉ้อฉลภาษีประชาชนนักโทษเด็ดขาดชาย/ทักษิณ ชินวัตร” เพื่อดำเนินการตามกระบวนยุติธรรมฐานความผิดตามมาตรา 112 ต่อหากได้รับการพักโทษ
เอากันตามจริง บทบัญญัติมาตรา 112ในประมวลกฎหมายอาญา มีเพื่อปรามไม่ให้ก่อความผิดที่นำไปสู่ความขัดแย้ง เพราะการจงใจจาบจ้วงหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ไม่ใช่การหมิ่นประมาทระหว่างบุคคลแต่มีความมั่นคงแห่งรัฐเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ที่ผ่านมาจึงมีผู้เจตนาทำผิดซ้ำซาก ในลักษณะท้าทายเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงตามที่ตัวเองต้องการ โดยฉกฉวยอาศัยกติกาตะวันตกบีบเพื่อให้เกิดภาพกฎหมายไทยมีความล้าหลัง
วันนี้ต้องตระหนักว่า พฤติกรรมการทำผิด ม.112 เปลี่ยนไป มีเจตนานำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นคู่ขัดแย้ง จากเหตุการณ์ล่าสุดของกลุ่มทะลุวังมีความพยายามป่วนขบวนเสด็จฯ ของ “สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” บนทางด่วนอ้างว่ามีการปิดถนนทำให้รถติด ทั้งๆ ที่ไม่มีการปิดถนน แต่เป็นการปิดกั้นช่องทางจราจรบางส่วนเพื่อให้ขบวนเสด็จฯผ่าน โดยใช้เวลาราว 31 วินาที ทว่า “ตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์” กลับขับรถจี้ท้ายขบวนเสด็จฯ และบีบแตรไล่
รัฐบาลต้องถือว่า วันนี้ “ขบวนการล้มล้างการปกครอง ล้มล้างสถาบัน”ที่แฝงตัวมาในหลากหลายก๊วนหลายเหล่าได้เผยตัวตนออกมาชัดเจน ต่างไปจากความขัดแย้งเสื้อเหลือง-แดง ที่เป็นความคิดขัดแย้งทางการเมืองในอดีตอย่างสิ้นเชิง
การนิรโทษกรรม มาตรา 112 จึงมีผลไม่ต่างจากการจุดไฟความขัดแย้งรอบใหม่ เพราะครั้งนี้เป้าหมายคือการล้มล้างสถาบันศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งประเทศ
เราจึงคัดค้าน และติด#ไม่นิรโทษกรรมผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 และรัฐต้องดำเนินการถวายความปลอดภัยพระบรมวงศ์ รวมทั้งขจัดกลุ่มก่อการร้ายนี้ให้หมดสิ้นอย่างจริงจัง

กำปั้นไทยไร้พ่าย! ลิ่ว 7 รุ่นต่อยซีเกมส์
เลขาวุฒิสภา แจ้ง สว. ยกเลิกประชุมวุฒิสภา 15- 16 ธ.ค.นี้ หลังยุบสภาแล้ว
ดร.จักษ์ ชม อนุทิน ตัดสินใจระดับรัฐบุรุษ ยุบสภาครั้งนี้ เผาพรรคส้มเหลือแต่ขี้เถ้า
กกต. กางแนวทาง ค่าใช้จ่าย สส. ช่วงเลือกตั้ง พรรคการเมืองหาเสียงได้ตั้งแต่วัน ยุบสภา
ปูติน ยกระดับชีวิตพลเมืองรัสเซีย อัตราความยากจนลดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี