วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / บ้านเกิดเมืองนอน
บ้านเกิดเมืองนอน

บ้านเกิดเมืองนอน

สิริอัญญา
วันอังคาร ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567, 02.00 น.
การเมือง...เบื้องหลังพระสมเด็จ (27)

ดูทั้งหมด

  •  

ในบรรดาพระสมเด็จทุกสายทุกรุ่นนั้น ต้องถือว่าพระสมเด็จไกเซอร์เป็นพระสมเด็จที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งในประเทศและต่างประเทศมากที่สุด และความจริงพระสมเด็จไกเซอร์ไม่ใช่พระสมเด็จสายวัด แต่เป็นพระสมเด็จสายวัง ที่ริเริ่มคิดอ่านสร้างขึ้นเพื่อความสมบูรณ์หรือบูรณาการแห่งความเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภกในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4

เป็นธรรมเนียมของสมเด็จพระมหากษัตริย์กรุงสยามที่จะทรงมีพระตำแหน่งหลักประการหนึ่งคือตำแหน่งเอกอัครศาสนูปถัมภก และต้องเป็นพุทธมามกะ เป็นกฎเกณฑ์ทางราชนิติและราชประเพณีที่บังคับสมเด็จพระมหากษัตริย์ต้องนับถือพระพุทธศาสนา ซึ่งประการนี้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จเจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระยาบำราบปรปักษ์ ก็ทรงทราบเป็นอย่างดี


และทรงทราบเป็นอย่างดีด้วยว่าแม้ว่าประเทศไทยจะได้ชื่อว่าเป็นเมืองพุทธหรือเป็นเมืองของพระพุทธศาสนา กระทั่งถือว่าเป็นเมืองหลวงของพระพุทธศาสนาก็ได้ แต่แท้จริงไม่มีความสมบูรณ์ สู้ศาสนาอิสลามก็ยังไม่ได้ แม้ศาสนาคริสต์ก็ยังสู้ไม่ได้ เพราะทั้งศาสนาอิสลามและศาสนาคริสต์ซึ่งมีนิกายอยู่หลายนิกายต่างก็มีนิกายย่อยเกือบจะครบถ้วนในประเทศไทย

แต่พระพุทธศาสนากลับขาดวิ่นแหว่ง ซึ่งบรรดาผู้รู้ทั้งหลายก็เชื่อว่าเป็นอาเพศที่เป็นเหตุให้เกิดความไม่ปกติ ไม่ลงตัว และความไม่สมบูรณ์ขึ้นในประเทศไทยหลายประการ เพราะประเทศไทยไม่มีพระพุทธศาสนานิกายวชิรยาน

อันพระพุทธศาสนาของเรานั้น ถ้านับนิกายใหญ่ก็ต้องนับว่ามีสามนิกาย คือหินยาน มหายาน และวชิรยาน โดยนิกายหินยานนั้นเจริญรุ่งเรืองอยู่ในอุษาคเนย์หรือเอเชียอาคเนย์ ส่วนมหายานนั้นเจริญรุ่งเรืองอยู่ในจีนและเอเชียตะวันออก รวมทั้งญี่ปุ่นและเกาหลี ในขณะที่นิกายวชิรยานนั้นเจริญรุ่งเรืองอยู่ในภาคตะวันตกของจีนคือทิเบต และแตกสาขาย่อยออกเป็น นิกายเซ็น ในญี่ปุ่น

ประเทศไทยไม่มีนิกายวชิรยาน และบรรดาเหล่าผู้รู้ทั้งหลายล้วนมีความปรารถนาที่จะอัญเชิญพระพุทธศาสนานิกายวชิรยานมาประดิษฐานในประเทศไทยเพื่อความครบถ้วนสมบูรณ์ของนิกายทั้งหลายในพระพุทธศาสนา แต่ยังไม่สามารถทำได้สำเร็จเพราะไม่มีหนทางติดต่อจำเริญไมตรีเพื่อเชิญนิกายวชิรยานมาจากทิเบตได้ เรื่องก็ยังค้างคาตั้งแต่บัดนั้นมาจนถึงบัดนี้

สำหรับพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น เมื่อครั้งออกผนวชพระอุปัชฌาย์ได้ตั้งพระนามว่าพระวชิรญาณภิกขุ ซึ่งมีความหมายคลุมไปถึงนิกายวชิรยานด้วย และเป็นต้นธรรมเนียมของความพยายามที่จะแก้เคล็ดว่าประเทศไทยมีนิกายวชิรยานสมบูรณ์แล้ว โดยตั้งฉายาหรือสมณศักดิ์ของพระสงฆ์ตั้งแต่สมเด็จพระสังฆราชลงมาให้มีพระนามว่าวชิร แฝงอยู่โดยทั่วไป เช่น สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส หรือสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เป็นต้น

แม้กระทั่งในรัชกาลปัจจุบันก็มีพระราชนิยมถวายสมณศักดิ์แก่พระภิกษุโดยราชประเพณีดังกล่าวเป็นอันมาก คือพระสงฆ์จำนวนมากที่ได้รับการสถาปนาสมณศักดิ์จะมีคำว่าวชิร อยู่ในสมณศักดิ์เป็นจำนวนมากรูป

เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นครองราชสมบัติก็เป็นช่วงเวลาที่นิกายมหายานในพระพุทธศาสนาแพร่หลายเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมากขึ้นตามจำนวนนักธุรกิจชาวจีนที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยจำนวนมาก และมีการสร้างวัดจีนขึ้นหลายวัด และพระอรหันต์ฝ่ายจีนนั้นก็มีพระอรหันต์รูปหนึ่งเป็นที่นับถือว่าศักดิ์สิทธิ์และเป็นพระโพธิสัตว์ด้วย ท่านมีรูปลักษณะอ้วนท้วนพุงพลุ้ย ศีรษะใหญ่ โล้น หน้าอกใหญ่

ดังนั้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ขึ้นครองสิริราชสมบัติ สมเด็จเจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระยาบำราบปรปักษ์ ทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงวัง จึงมีดำริให้สร้างพระสมเด็จรุ่นพิเศษขึ้นรุ่นหนึ่งโดยใช้คติมหายาน เพื่อแก้เคล็ดความไม่สมบูรณ์ในพระพุทธศาสนาในประเทศไทย โดยถือรูปแบบพระอรหันต์องค์ดังกล่าวนี้เป็นต้นแบบ ซึ่งกรมช่างสิบหมู่ได้ออกแบบเป็นรูปพระคล้ายพระประธาน แต่มีศีรษะใหญ่ อกใหญ่ พุงใหญ่ หรือที่เรียกว่าเศียรบาตรอกครุฑ

ในครั้งแรกนั้นได้สร้างขึ้นจำนวน 42 องค์ในจำนวน 42 องค์นี้ทำจากหยก 3 องค์ นอกนั้นทำจากผงศักดิ์สิทธิ์ทั้งของวัดระฆังและของวังหลวงที่สะสมกันมา โดยที่เป็นหยกนั้นใช้หยกจากฐานพระแก้วมรกตที่ปริแตกออกมาเมื่อครั้งสร้างเครื่องทรงทองคำในสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4

หยกที่ปริออกมานั้นแกะได้เป็นพระ 3 องค์ดังนั้นจึงมีพระผงอีก 39 องค์ รวมแล้วเป็น 42 องค์ จัดเป็นพระสายวังหลวงที่สร้างขึ้นเฉพาะพิเศษ โดยเชื่อมโยงไปกับการแก้อาเพศความไม่สมบูรณ์ของนิกายในพระพุทธศาสนาในประเทศไทย และเพราะความพิเศษดังกล่าวนี้จึงนิมนต์เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) มาปลุกเสกเป็นการเฉพาะที่กระทรวงวัง

สำหรับพระสมเด็จรุ่นนี้ที่เป็นเนื้อหยกนั้นจะพระราชทานแก่ผู้ใดบ้างไม่ปรากฏ แต่มีการถวายที่เป็น
เนื้อผงให้แก่เจ้าประคุณสมเด็จ 1 องค์ หรือ 3 องค์ไม่แน่ชัด

เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จวัดระฆังในงานถวายผ้าพระกฐิน เจ้าประคุณสมเด็จก็ได้ทูลเกล้าฯ ถวายพระรุ่นนี้ที่เป็นเนื้อผงองค์หนึ่งแก่พระเจ้าอยู่หัว แล้วทูลว่าในวันข้างหน้ามหาบพิตรจะเดินทางไปยังดินแดนอันไกลโพ้น เจอผู้คนแปลกหน้าแปลกตามาก ให้มหาบพิตรนำพระองค์นี้ติดตัวไปด้วย ซึ่งน่าจะเป็นพระที่เจ้าประคุณสมเด็จตั้งใจปลุกเสกเป็นการเฉพาะ โดยมีอนาคตังสญาณทราบล่วงหน้าว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นในภายภาคหน้า เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นพระประจำพระองค์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อได้รับถวายพระองค์นี้แล้วก็ได้พกพาติดพระองค์อยู่เสมอ ว่ากันว่าเมื่อครั้งเสด็จไปมณฑลปักษ์ใต้ไปสักการะศาลหลักเมืองสงขลาซึ่งเป็นศาลศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของจังหวัดสงขลา พระองค์ก็ทรงพกพาพระสมเด็จองค์นี้ไปด้วย จนกล่าวได้ว่าพระสมเด็จรุ่นนี้องค์นี้คือพระประจำพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
13:02 น. ‘ปลัดมท.’ กำชับ ‘ผู้ว่าฯ-นายอำเภอ’ ชายแดนใต้ ต้องอยู่ในพื้นที่สร้างความมั่นใจปชช. เข้มเฝ้าระวังไฟใต้ระอุ
13:01 น. 'อ้วน รีเทิร์น'เคลียร์ชัด! โพสต์รูปคู่ 'หมอย้ง'สยบข่าวรักร้าว
13:01 น. แห่ส่งกำลังใจ'จ่าลอด'นักแสดงไทบ้านฯ รถลงข้างทาง อาการสาหัส
12:57 น. โฆษกเพื่อไทยปัดไม่เคยพูดป่วยวิกฤต แค่บอกว่าป่วยได้รับการผ่าตัด
12:56 น. (คลิป) 'ป๋าเสรี' ฟันธง 'ทักษิณ' ติดคุก!! เตือนลิ่วล้อรับสารภาพ ไม่มีคนคุ้มกะลาหัวแล้ว
ดูทั้งหมด
ภาพอบอุ่นใจความรักที่งดงามของ 'กษัตริย์จิกมี-สมเด็จพระราชินี-เจ้าชาย-พระธิดา' ในยามค่ำคืนของทะเลทรายโกบี
(คลิป) 'ฐปณีย์' เละคาบ้าน! ด้อยค่าคนไม่เห็นด้วย 'เมียจ่าปืน' ออกโรงตอกกลับไม่ใช่ IO
‘ลาออก’ไปเถอะ! ฉะ‘นายกฯ’มีสติปัญญาแค่นี้ แผ่นเสียงตกร่องชู‘กาสิโน’แก้เศรษฐกิจ
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 4-10 พ.ค.68
'แก้ว อภิรดี'ควงลูกสาวเปิดสถานะหัวใจ เผยเตรียมสละโสดก่อนอายุ 35
ดูทั้งหมด
อวสาน‘ทักษิณ’คุกรออยู่
ความต่างของ สิงคโปร์ กับ ไทย
คุกนรก (1)
นักการเมือง ‘ส้มสารพิษ’
บุคคลแนวหน้า : 9 พฤษภาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แห่ส่งกำลังใจ'จ่าลอด'นักแสดงไทบ้านฯ รถลงข้างทาง อาการสาหัส

(คลิป) 'ป๋าเสรี' ฟันธง 'ทักษิณ' ติดคุก!! เตือนลิ่วล้อรับสารภาพ ไม่มีคนคุ้มกะลาหัวแล้ว

'จุลพันธ์'เผย'เอดีบี'เชื่อมั่นศักยภาพลงทุนไทย ชี้ จีดีพีทั่วโลกตก จ่อเรียกถกกระตุ้นเศรษฐกิจ

ชาวคริสต์ทั่วโลกยินดี! เผยโฉมสมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่14 โป๊ปชาวอเมริกันคนแรกในประวัติศาสตร์

ปตท. ลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติส่วนเพิ่มแหล่งอาทิตย์เสริมความมั่นคงพลังงานไทย

พันตันวิกฤต! แตงโมอยุธยาราคาต่ำสุดในรอบปี เกษตรกรขาดทุนยับ

  • Breaking News
  • ‘ปลัดมท.’ กำชับ ‘ผู้ว่าฯ-นายอำเภอ’ ชายแดนใต้ ต้องอยู่ในพื้นที่สร้างความมั่นใจปชช. เข้มเฝ้าระวังไฟใต้ระอุ ‘ปลัดมท.’ กำชับ ‘ผู้ว่าฯ-นายอำเภอ’ ชายแดนใต้ ต้องอยู่ในพื้นที่สร้างความมั่นใจปชช. เข้มเฝ้าระวังไฟใต้ระอุ
  • \'อ้วน รีเทิร์น\'เคลียร์ชัด! โพสต์รูปคู่ \'หมอย้ง\'สยบข่าวรักร้าว 'อ้วน รีเทิร์น'เคลียร์ชัด! โพสต์รูปคู่ 'หมอย้ง'สยบข่าวรักร้าว
  • แห่ส่งกำลังใจ\'จ่าลอด\'นักแสดงไทบ้านฯ รถลงข้างทาง อาการสาหัส แห่ส่งกำลังใจ'จ่าลอด'นักแสดงไทบ้านฯ รถลงข้างทาง อาการสาหัส
  • โฆษกเพื่อไทยปัดไม่เคยพูดป่วยวิกฤต แค่บอกว่าป่วยได้รับการผ่าตัด โฆษกเพื่อไทยปัดไม่เคยพูดป่วยวิกฤต แค่บอกว่าป่วยได้รับการผ่าตัด
  • (คลิป) \'ป๋าเสรี\' ฟันธง \'ทักษิณ\' ติดคุก!! เตือนลิ่วล้อรับสารภาพ ไม่มีคนคุ้มกะลาหัวแล้ว (คลิป) 'ป๋าเสรี' ฟันธง 'ทักษิณ' ติดคุก!! เตือนลิ่วล้อรับสารภาพ ไม่มีคนคุ้มกะลาหัวแล้ว
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

บ้านเกิดเมืองนอน : 30 พฤศจิกายน 2567

บ้านเกิดเมืองนอน : 30 พฤศจิกายน 2567

30 พ.ย. 2567

ยิ่งลักษณ์จะกลับไทยก่อนสงกรานต์ปีหน้าหรือไม่

ยิ่งลักษณ์จะกลับไทยก่อนสงกรานต์ปีหน้าหรือไม่

26 พ.ย. 2567

ทรัมป์อาจชวดนั่งทำเนียบขาว

ทรัมป์อาจชวดนั่งทำเนียบขาว

23 พ.ย. 2567

อย่าหวังความเปลี่ยนแปลงจากชัยชนะของทรัมป์

อย่าหวังความเปลี่ยนแปลงจากชัยชนะของทรัมป์

19 พ.ย. 2567

ที่ดินอัลไพน์-เขากระโดง...ชนวนระเบิดสองพรรค

ที่ดินอัลไพน์-เขากระโดง...ชนวนระเบิดสองพรรค

16 พ.ย. 2567

ต้องร่วมกันพิทักษ์ความศักดิ์สิทธิ์ของความยุติธรรม

ต้องร่วมกันพิทักษ์ความศักดิ์สิทธิ์ของความยุติธรรม

12 พ.ย. 2567

โลกหลังทรัมป์คืนทำเนียบขาว

โลกหลังทรัมป์คืนทำเนียบขาว

9 พ.ย. 2567

ชัยชนะของจีนในเวทีต่างประเทศ

ชัยชนะของจีนในเวทีต่างประเทศ

5 พ.ย. 2567

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved