วันอังคาร ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ต้องบอกกันตรงๆ และต้องยอมรับความจริงว่า ประเด็นหาเสียงโดยการโฆษณาชวนเชื่อจากพรรคเพื่อไทย เรื่องแจกเงินหัวละหนึ่งหมื่นบาทให้ประชาชน เป็นเรื่องที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะกระทำได้จริง เพราะเป็นการพูดเพื่อขายของหาคะแนนนิยมทางการเมือง โดยไม่ได้ดูข้อเท็จจริงแม้แต่น้อย
เมื่อการโฆษณาชวนเชื่อประสบผลสำเร็จ พรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลผสม แต่ก็ไม่มีปัญญาทำตามสิ่งที่โฆษณาชวนเชื่อได้ เพราะว่าไม่มีเงินแล้วก็ไม่รู้ว่าจะหาเงินจากที่ไหนมาแจก ทั้งๆที่ในตอนแรกนั้น คิดเอาเองว่าเมื่อได้เป็นรัฐบาลแล้วจะสามารถเสกเป่าหรือดลบันดาลให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามอำเภอใจ
แต่ทว่าความฝันของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะความฝันของเจ้าของพรรคเพื่อไทยก็ต้องสลายกลายเป็นลม เพราะต่อให้พรรคเพื่อไทยมีอำนาจรัฐจริง แต่ก็ไม่มีปัญญาหาเงินมาแจกได้ เนื่องจากการจะก่อหนี้ก้อนมหึมากว่า 5 แสนล้านบาท ต้องผ่านกระบวนการและขั้นตอนต่างๆ นานาอีกมากทั้งขั้นตอนของกฎหมาย และรัฐสภา
แล้วที่มากกว่านั้นคือ พรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่ต้องการให้เรื่องนี้บังเกิดขึ้น เพราะหากปล่อยให้เรื่องนี้ปรากฏเป็นรูปธรรมแล้ว ก็หมายความว่าพรรคเพื่อไทยจะกวาดคะแนนนิยมไปครอง ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ก็จะได้แค่เศษเสี้ยวของคะแนนนิยมเท่านั้น
เพราะฉะนั้น ต่อให้พรรคเพื่อไทยมีร้อยทักษิณ ชินวัตร หรืออีกพันแพทองธาร ชินวัตร ก็ไม่สามารถผลักดันเรื่องแจกเงินหัวละหนึ่งหมื่นบาทให้ประชาชนได้ เพราะรัฐบาลไม่มีเงิน แล้วก็ต้องกู้เงินมาเพื่อหว่านแจก
วันก่อน ในยามที่พรรคเพื่อไทยคิดเรื่องแจกเงินหัวละหนึ่งหมื่นบาทนั้น คอการเมืองไทยรู้ดีว่านโยบายโฆษณาชวนเชื่อเรื่องนี้ต้องมาจากแนวคิดของทักษิณ ชินวัตร เจ้าของพรรคเพื่อไทยอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะทักษิณถนัดมากกับการสร้างกระแสการเมืองด้วยการหว่านและแจกเงินมาโดยตลอด เพราะทักษิณคือพ่อค้าที่เห็นช่องทางการเข้ามาแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์ในทางการเมืองอย่างทะลุปรุโปร่ง แล้วก็ใช้การหว่านเงินเพื่อให้ได้อำนาจรัฐเสมอมา ดังปรากฏชัดในเรื่องต่างๆ อาทิ กองทุนหมู่บ้าน หนึ่งทุนหนึ่งอำเภอ เป็นต้น
วันนี้ ทักษิณอยู่ในเมืองไทยแล้ว โดยสามารถกลับเข้าไทยได้อย่างเท่ๆ ไม่ต้องติดคุกติดตะรางแม้แต่วันเดียว ทั้งๆ ที่ทำผิดกฎหมายอาญาแผ่นดินฐานฉ้อโกงคอร์รัปชัน แต่ถึงกระนั้นพรรคเพื่อไทยของทักษิณก็ยังไม่มีปัญญาแจกเงินให้ประชาชนหัวละหนึ่งหมื่นบาทได้ สาเหตุเพราะรัฐบาลไม่มีเงินแล้วทักษิณเองก็ไม่มีปัญญาหาเงินจากที่ไหนมาแจกได้ ต่อให้ทักษิณจะคุยแบบขี้โม้มาโดยตลอดว่าเงินอยู่ในอากาศ มีปัญญาก็คว้ามาได้ แต่ทว่าเงินในอากาศตามแนวคิดของทักษิณนั้น มันคือเงินที่ทักษิณสามารถดูดออกจากกระเป๋าของคนที่รู้ไม่เท่าทันกลเกมและอุบายของทักษิณ แล้วก็ต้องย้ำว่าทักษิณไม่มีปัญญาคว้าเงิน 5 แสนกว่าล้านบาทจากอากาศได้อย่างแน่นอน เพราะในยามนี้พรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นพรรคเดียวที่มีอำนาจรัฐอยู่ในกำมือ แล้วก็ไม่มีความชัดเจนว่าในอนาคตพรรคเพื่อไทยของทักษิณจะมีปัญญากุมอำนาจรัฐไว้ในกำมือได้เหมือนในอดีต เพราะฉากทัศน์การเมืองไทยเปลี่ยนไปแล้ว พรรคเพื่อไทยไม่มีปัญญากุมอำนาจรัฐไว้ในกำมือได้อย่างเบ็ดเสร็จเหมือนในอดีตอย่างแน่นอน
เพราะฉะนั้น ก็ต้องย้ำอย่างหนักแน่นว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีปัญญาแจกเงินให้ประชาชนหัวละหนึ่งหมื่นบาทได้อย่างแน่นอน แม้เพื่อไทยจะมีทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีผู้อยู่หลังม่าน แล้วค่อยชักใยกระตุกเชือกเชิดให้เศรษฐา ทวีสิน ต้องกระทำการใดๆ ก็ตาม ก็ไม่ต้องหวังว่าเพื่อไทยจะมีปัญญาหาเงินมาแจกหัวละ 1 หมื่นบาท แต่ที่แน่ๆ คืออีกไม่นานนี้เศรษฐา ทวีสิน จะต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน เพราะเป็นบทลงโทษจากเจ้าของพรรคเพื่อไทย

‘เจมส์ – กาด – แฟ้ม – แมทธิว’ พร้อมส่งหัวใจเตรียมรับสัญญาณเตือน ในซีรีส์ ‘Love Alert มีคำเตือนโปรดระมัดระวัง’
จับตา! ปี 2569 ช่อง 7HD กับปรากฏการณ์ข่าวโฉมใหม่ 'มีเรื่องต้องคุย'
‘กรีน ปัฐยฬุรี’ เปิดตัวซิงเกิลพิเศษ only us mode ส่งท้ายปี
เจรจา3ฝ่ายชื่นมื่น จีนยืนยันไม่แทรกแซง ช่วยเขมร20ล้านหยวน ‘ทรัมป์’โผล่ร่วมยินดี
วาทกรรมสีส้มVSความจริงสีเทา คมมีดที่หันกลับมาฟันตัวเอง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี