อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อาจเรียกได้ว่าประชาชนเลือกนักการเมืองอย่างไรก็ได้รัฐบาลเช่นนั้น กล่าวคือผู้นำรัฐบาลกับประชาชนที่เลือกเข้ามามีอุดมการณ์ตรงกันในประเด็นสำคัญของชาติ ตัวอย่างเช่น สงครามอิสราเอล-ฮามาส ปีกของกองกำลังติดอาวุธปาเลสไตน์ นายอันวาร์ถูกสหรัฐอเมริกาและประเทศตะวันตกข่มขู่กดดันให้เปลี่ยนท่าทีความสัมพันธ์กับฮามาสอย่างไรอันวาร์ก็ไม่หวั่นไหว แถมยังตอกหน้าผู้สนับสนุนอิสราเอลว่า.. “อย่าฝังใจกับเรื่องเล่า 7 ตุลาคม มากเกินไป” และประกาศต่อหน้าผู้นำเยอรมนีว่าความสัมพันธ์กับฮามาสยังเหนียวแน่นเหมือนเดิม
ในเวลาเดียวกันอิสลาม ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ในมาเลเซียก็มีอุดมการณ์ ต่อต้านคว่ำบาตรอิสราเอลเหมือนผู้นำ โดยการหลีกเลี่ยงกิน “อินทผลัม” ที่มีต้นกำเนิดจากอิสราเอลในเดือนถือศีลอด
นสพ.เซาท์ไซน่า มอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่าสื่อสังคมในประเทศมาเลเซียที่มีคนมุสลิมเป็นส่วนใหญ่รณรงค์ให้งดบริโภคผลไม้ที่ทานกันแพร่หลายในระหว่างถือศีลอด การรณรงค์ผ่านแชตในโซเชียลเผยแพร่อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง เตือนให้ระมัดระวังการซื้อ “อินทผลัม” ที่มาจากอิสราเอล การรณรงค์อย่างแพร่หลายในสื่อออนไลน์ ผลักดันให้รัฐบาลมาเลเซียต้องตรวจสอบคลังสินค้าที่ท่าเรือ Klang ในรัฐเซลังงอร์ และเจ้าหน้าที่ยึด อินทผลัมพันธุ์เมดจูล (medjool)ได้ 73 ลัง ซึ่งเชื่อว่ามีต้นกำเนิดมาจากอิสราเอล อาร์มิซาน โมห์ด อาลีรัฐมนตรีกำกับดูแลการค้าภายในและคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า “เราจริงจังกับเรื่องนี้มากและจะจัดการขั้นเด็ดขาดกับพ่อค้าที่ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดเรื่องที่มาอินทผลัม” ปฏิบัติการค้นคลังสินค้าสะท้อนให้เห็นถึงความจริงจังการคว่ำบาตรสินค้าจากอิสราเอลที่มีมาอย่างยาวนาน ที่ประเทศมาเลเซียเน้นการตรวจสอบอย่างแข็งขันและดำเนินการกับผู้นำเข้าที่ไม่ได้รับอนุญาต
อินทผลัม สมุนไพรจากอัลกุรอาน ตลอดช่วงกลางวัน “ผู้ที่ถือศีลอด” จะไม่สามารถกินหรือดื่มสิ่งใดๆ ได้เลย และมีผลไม้ชนิดหนึ่งที่ชาวมุสลิมจะรับประทานหลังจาก ถือศีลอดมาทั้งวันในตอนค่ำ โดยเชื่อว่า จะช่วยทำให้ร่างกายที่อ่อนเพลียจากการอดอาหารมาตลอดทั้งวันมีพละกำลังดังเดิม สำหรับ อินทผลัม พันธุ์เมดจูล เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ของบรรดาอินทผลัม มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศอิสราเอลได้รับการยกย่องว่าเป็น “ราชาแห่งอินทผลัม” เพราะโดดเด่นในเรื่องของผลขนาดใหญ่ เม็ดเล็ก เนื้อเยอะ เหนียวนุ่มหวานฉ่ำกำลังทาน และด้วยสรรพคุณที่มากมาย
ก่อนหน้าถึงวันรอมฎอน สำนักข่าวแห่งชาติมาเลเซียได้ออกข่าวผ่านสื่อออนไลน์เตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงซื้อสินค้าที่อยู่ในรายการคว่ำบาตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเน้น#อินทผลัมจากอิสราเอล เวสต์แบงก์ และจอร์แดน วอลเลย์ ผลที่ทางการออกข่าวเตือนผ่านสื่อออนไลน์กระตุ้นให้การรณรงค์พุ่งสูงขึ้นเตือนให้ระวังการซื้ออินทผลัมที่ไม่มีเครื่องหมายการค้าว่ามาจากไหนรวมทั้งการรณรงค์ไม่สนับสนุนผลผลิตทุกอย่างที่สร้างรายได้ให้อิสราเอล
การรณรงค์ก็ดังก้องกังวานเช่นกันในอินโดนีเซียประเทศมุสลิมใหญ่ที่สุดในโลก เจ้าหน้าที่ ผู้นำทางศาสนาเรียกร้องให้บอยคอตต์สินค้าอินทผลัมจากอิสราเอล สภาอุลามาแห่งอินโดนีเซีย และ วิทยาลัยศาสนาอุลามาซึ่งเป็นองค์ศาสนามหาชนใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย ออกแถลงการณ์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงอินทผลัมจากอิสราเอล และ เวสต์แบงก์ โดยแจ้งว่าเป็น haram หรือสิ่งต้องห้าม
ถึงแม้พ่อค้าบางรายอ้างว่า ไม่มีความสัมพันธ์ทางการค้ากับอิสราเอล แต่คนอินโดนีเซียอดสงสัยไม่ได้ว่า สินค้าที่ไม่ติดตราแหล่งผลิตมาจากอิสราเอลหรือไม่ เพื่อตอบสนองต่อข้อห้ามทางศาสนา จึงซื้อแต่สินค้าที่เครื่องหมายการค้าชัดเจน การเคลื่อนไหวที่ครอบคลุมในอินโดนีเซียและมาเลเซียแสดงให้เห็นจุดยืนผู้บริโภคอย่างมีนัยระหว่างรอมฎอน ที่เน้นให้เห็นความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับปาเลสไตน์ และการตื่นรู้มากขึ้นถึงที่มาของสินค้าที่ซื้อ
ในเวลาเดียวกันสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงเบอร์ลิน เมื่อวันที่ 11 มีนาคมว่า นายอันวาร์ฮิบราอิม ประกาศต่อหน้านายกรัฐมนตรีเยอรมนี ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนอิสราเอลอย่างแข็งขันว่า ความสัมพันธ์ของรัฐบาลมาเลเซียกับฮามาส ยังยึดมั่นในพันธมิตรเหมือนเดิม นายอันวาร์ ประกาศจุดยืนนี้ระหว่างการเยือนเยอรมนีอย่างเป็นทางการ ว่าประเทศที่มีมุสลิมเป็นส่วนใหญ่ไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล และ อิสลามส่วนใหญ่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับปาเลสไตน์
นายอันวาร์ กล่าวระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับนาย Olaf Scholz นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ถึงจุดยืนของมาเลเซีย ในความสัมพันธ์กับฮามาสระหว่างสงครามอิสราเอล-ฮามาส โดยนายอันวาร์เน้นว่ามาเลเซียมีความสัมพันธ์กับปีกการเมืองของฮามาส ...“ผมไม่แก้ตัวในเรื่องนี้ เราไม่มีความสัมพันธ์กับปีกกองทัพ ผมได้ชี้แจงเรื่องนี้กับเพื่อนร่วมงานชาวยุโรปและอเมริกาหลายครั้งแล้ว” เขากล่าวพร้อมกับเรียกร้องให้ชาวโลกเข้าใจถึงรากเหง้าของปัญหาที่ผลักดันให้เกิดความขัดแย้ง“สิ่งที่ผมปฏิเสธคือเรื่องเล่าที่ครอบงำฝังใจราวกับว่าปัญหาทั้งมวลเริ่มต้น และจบลงวันที่ 7 ตุลาคม”
นาย Scholz ตอบโต้ว่า “อิสราเอลมีสิทธิ์ปกป้องตนเองจากผู้ก่อการร้ายฮามาสโจมตี” นายกฯเยอรมนีเน้นว่าเบอร์ลิน “อยากให้การช่วยเหลือเข้าถึงกาซามากขึ้น เราต้องการให้ตัวประกันได้รับการปล่อยตัวโดยไม่มีเงื่อนไข เราไม่ต้องการให้มีการสูญเสียโดยไม่จำเป็น”
ถึงแม้มีความเห็นแตกต่างกัน นายอันวาร์ยืนยันว่า ยังมีความไว้เนื้อเชื่อใจกันระหว่างมาเลเซียกับเยอรมนีในประเด็นสงครามอิสราเอล-ฮามาสและ
เห็นพ้องต้องกันในประเด็นผลักดันให้มีข้อยุติสองรัฐ
จะเห็นได้ว่า นายอันวาร์หลักแหลมมากที่พูดต่อหน้านายกฯเยอรมนีว่า มาเลเซียเยอรมนีเห็นพ้องต้องกันในการมีสองรัฐ (Two States Solution) หรือข้อยุติมีสองรัฐ ตามข้อตกลงสันติภาพออสโล (Oslo Peace Accords) 13 กันยายน 1993 สาระสำคัญคือ ปาเลสไตน์รับรองสถานะความเป็นประเทศของอิสราเอล พร้อมกับที่อิสราเอลรับรองสถานะขององค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์(PLO)ว่าเป็นตัวแทนปาเลสไตน์ ผู้ดูแลบริหารปกครองภายในดินแดนส่วนต่างๆ ของเวสต์แบงก์กับฉนวนกาซาแต่จนบัดนี้ยังอิสราเอลยังไม่ได้รับรองรัฐปาเลสไตน์ และเมื่อเกิดสงครามอิสราเอล-ฮามาส นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศอย่างอหังการว่า อิสราเอลจะควบคุมความมั่นคงทั้งหมดในฉนวนกาซา
เอเอฟพีรายงานด้วยว่าฮามาสโจมตีตอนใต้อิสราเอล วันที่ 7 ต.ค.ปีกลาย สังหารอิสราเอลตาย 1,160 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน เอเอฟพีอ้างข้อมูลจากอิสราเอลว่า ฮามาสจับตัวประกันราว 250 คน ร้อยกว่าคนได้รับการปล่อยตัวระหว่างหยุดยิงหนึ่งอาทิตย์ในเดือน พฤศจิกายนที่ผ่านมา อิสราเอลเชื่อว่าตัวประกัน 99 คน ยังมีชีวิตในกาซาและ 31 คน เชื่อว่าตายแล้ว อิสราเอลตอบโต้ฮามาสโดยการทิ้งระเบิดถล่ม และรุกรบภาคพื้นดินสังหารปาเลสไตน์ไปแล้ว 31,112 ศพ ส่วนใหญ่เป็นหญิงและเด็กตามรายงานขอ กระทรวงสาธารณสุขกาซา
จึงเห็นได้ว่า นายอันวาร์ยึดมั่นในความสัมพันธ์กับฮามาสโดยไม่หวั่นไหวต่อการข่มขู่กดดันจากฝรั่งตะวันตกที่เป็นพ่อยกแม่ยกอิสราเอลแต่ประการใด ในเวลาเดียวกันมุสลิมมาเลเซีย ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ก็มีอุดมการณ์ต่อต้านบอยคอตต์อิสราเอล หลีกเลี่ยงการกินอินทผลัมจากอิสราเอลในเดือนรอมฎอน จึงถือได้ว่านายอันวาร์ อิบราฮิมกับพลเมืองมุสลิมซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ในมาเลเซียมีอุดมการณ์เดียวกัน
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี