ต้องยอมรับความจริงว่า ประเทศไทยวุ่นวายอยู่ทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ของ ขุนศึก 3 ป. ที่เปิดทางให้สัมภเวสีหนีคุก กลับมาสร้างความวุ่นวายให้ประเทศไทย จากความตั้งใจว่าจะให้กลับมาปราบปรามส้มเน่าที่กำลังห้าวเกินเบอร์
เชื่อว่า ขุนศึก 3 ป. ที่อยู่ในอำนาจเวลานั้นไม่รู้เท่าทันสัมภเวสีหนีคุก ที่ส่งไส้ศึกเข้ามาแฝงตัวในรัฐบาลคอยเป่าหูว่า นอกจากสัมภเวสีหนีคุกแล้วไม่มีใครสามารถปราบส้มเน่า ที่กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดดได้
ขุนศึก 3 ป. ที่ได้รับการบ่มเพาะให้เป็นผู้ซื่อสัตย์ สละชีพเพื่อชาติมาตั้งแต่เรียนเตรียมทหารจบออกมารับราชการก่อนผันตัวทำงานการเมืองโดยไม่รู้ล่วงหน้าว่า การเมืองเต็มไปด้วยเล่ห์เพทุบาย
นักการเมืองบางคนเปลี่ยนสี เป็นรัฐมนตรีได้ในทุกรัฐบาลตลอดเวลานานกว่าสองทศวรรษ นักการเมืองพวกนี้จึงใช้เล่ห์เพทุบายหลอกใช้ขุนศึกเป็นเครื่องมือทางการเมืองได้ง่าย
การเลือกตั้งสองครั้งที่ผ่านมา พรรคส้ม ได้รับเสียงสนับสนุนอย่างมีนัย จากได้ สส. 81 คน ในปี 2563 เพิ่มขึ้นเป็น 145 คน ในการเลือกตั้งปี 2566 เป็นเหตุให้หลายฝ่ายหวั่นไหว โดยเฉพาะฝ่ายอนุรักษ์เกิดความกลัวพรรคส้มจะเปลี่ยนประเทศไทยไปสู่จุดที่ไม่สามารถหวนกลับได้
ไส้ศึก ข้าสองเจ้าบ่าวสองนายที่ฝังตัวในรัฐบาลขุนศึก 3 ป. เลยใช้โอกาสนี้เป่าหูปั่นหัวขุนศึกว่า มีแต่สัมภเวสีหนีคุกเท่านั้น ที่สามารถปราบปรามส้มเน่า เอาไปทำปุ๋ยได้ ด้วยความซื่อขุนศึก 3 ป.เลยจัดฉากลากสัมภเวสีหนีคุกกลับบ้าน จนประเทศชาติวุ่นวายเกินการแก้ไขในเวลานี้
หากขุนศึก 3 ป. ได้ศึกษาบริบทการเมืองไทยในวงกว้าง จะพบความจริงว่า ความหวือหวาของพรรคส้ม เป็นความนิยมฉาบฉวยของคนไทย ที่บ้าคลั่งพรรคการเมืองไหนไม่เกินสองวาระการเลือกตั้ง หรือในเวลาเพียงสามสี่ปีผู้สิทธิเลือกตั้งในประเทศไทยก็รู้เช่นเห็นชาติ รู้ธาตุแท้ของนักการเมืองรุ่นใหม่ โดยเฉพาะพรรคการเมืองที่มีพฤติกรรมต่อต้านสถาบัน มักได้รับความนิยมไม่เกินสองสมัย
ประวัติการเลือกตั้งในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2518 ที่ผู้เขียนเริ่มคลุกคลีการเมืองไทย และจากประสบการณ์ตรงในฐานะคนทำข่าวพบว่า ไม่เคยมีพรรคการเมืองไหนได้รับความนิยมเกินสองสมัยเลือกตั้ง ไม่ว่าจะพรรคสังคมนิยม อนุรักษ์นิยม ประชาธิปไตยก้าวหน้า ตลอดถึงพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย
พรรคประชาธิปัตย์ ได้ชื่อว่า พรรคอนุรักษ์นิยมก้าวหน้า ได้รับความนิยมสูงสุดหลังเหตุการณ์ 16 ตุลาคม 2516 ปชป. ชนะเลือกตั้งได้ สส.เข้าสภามากที่สุดในการเลือกตั้ง 2518 และเลือกตั้ง 2519 หลังจากทหารยึดอำนาจจากเหตุการณ์นองเลือดในธรรมศาสตร์ 6 ตุลาคม 2519 นายสมัคร สุนทรเวช สส.ปชป.แปรพักตร์ไปอยู่ฝ่ายเผด็จการทหาร และ ตั้งพรรคประชากรไทย ขึ้นมา ปี 2522 ประชากรไทยชนะเลือกตั้ง สส. กทม. 30 คน เหลือให้ ปชป.ที่นั่งเดียว
ผู้ตั้งพรรคพลังธรรม พลตรีจำลอง ศรีเมือง ชนะเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ด้วยคะแนนท่วมท้น และกวาด สส. กทม.เกือบหมดทุกเขตในการเลือกตั้ง ปี 2528 แต่การเลือกตั้งปี 2531
พรรคพลังธรรมได้ สส.กทม.เพียงคนเดียว
เลือกตั้งทั่วไปปี 2531 พรรคชาติไทยชนะเลือกตั้ง พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรีไม่ถึงสามปี ถูกยึดอำนาจเดือนกุมภาพันธ์ 2534
ปี 2535 หลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ปชป. กลับมาชนะเลือกตั้งอีกครั้ง นายชวน หลีกภัย ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 20 ของประเทศไทย
ปี 2538 พรรคชาติไทยชนะเลือกตั้งอีกครั้งนายบรรหาร ศิลปอาชา ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 21 แต่ลาออกและยุบสภา วันที่ 17 กันยายน 2539
พรรคความหวังใหม่ของพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ชนะ ปชป. 95 ต่อ 93 เสียงในการเลือกตั้ง 17 พฤศจิกายน 2538 พลเอกชวลิต เป็นนายกฯได้เพียง 9 เดือน ลาออกวันที่ 9 พฤศจิกายน 2540 จากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยตัดสินใจลอยค่า (ลดค่า) เงินบาท
หลังพลเอกชวลิตลาออก นายชวน หลีกภัย เข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่สองและสัญญาจะยุบสภาก่อนหมดวาระ นายชวน ยุบสภา 9 พฤศจิกายน 2543 และ จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ 6 มกราคม 2544
พรรคไทยรักไทย นำโดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กวาดต้อน สส.จากพรรคชาติไทย พรรคความหวังใหม่ พรรคพลังธรรมและอื่นๆ มารวมไว้ในค่าย ทรท.ชนะเลือกตั้ง 6 มกราคม 2544 ได้ สส. 247 ที่นั่ง และในการเลือกตั้ง 2548 ทรท. ได้ สส. 377 คน จากสภา 500 คน ทักษิณเป็นนายกฯตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2544 จนถูกยึดอำนาจ 19 กันยายน 2549
หาก ขุนศึก 3 ป. ศึกษาประวัติการเลือกตั้งในรอบ 50 ปีก็จะพบว่า พรรคการเมืองในประเทศไทยไม่เคยมีพรรคไหน ได้รับความนิยมเกินสองสมัย โดยเฉพาะพรรคที่มีสนิมกินเนื้อใน และพรรคที่มีเป้าหมายโจมตีทำร้ายเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ แม้แต่พรรคสังคมนิยม และพรรคคอมมิวนิสต์ก็อยู่ไม่ได้เกินสองสมัยเลือกตั้ง
พรรคส้ม อุบัติขึ้นจากคนสอนหนังสือระดับอุดมศึกษา ที่คลั่งไคล้การปล้นพระราชอำนาจและพระราชทรัพย์ปี 2475 พรรคส้มก่อตั้ง โดยผู้ต้องการสืบทอดภารกิจ 2475 ให้สำเร็จในรุ่นเรา และดึงเอาคนรุ่นใหม่จากรั้วมหาวิทยาลัยเป็นตัวเปิดหน้า และคละเคล้ากับคนจรจัดกักขฬะหยาบช้าโจมตีสถาบัน
จากการสนับสนุนอย่างบ้าบิ่นของคนรุ่นใหม่ปี 2563 พรรคอนาคตใหม่ได้รับเลือกตั้ง 81 ที่นั่ง แต่ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบไป เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นพรรคก้าวไกลยังคงได้รับการสนับสนุนจากคนรุ่นใหม่ชนะเลือกตั้งได้ 145 ที่นั่ง จากเลือกตั้งปี 2566 นับว่าเติบโตแบบก้าวกระโดด
เนื่องจากนิสัยถาวรในการเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันที่ถูกใจคนรุ่นไร้สติ พรรคก้าวไกลก็ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค แล้วก็แปลงร่างใหม่กลายเป็นพรรคประชาชน พรรคส้มถูกยุบสามครั้ง ผู้ก่อตั้งและแกนนำคนสำคัญถูกศาลฯตัดสิทธิทางการเมืองนานสิบปีเกือบหมด สมาชิกที่ยังเหลือในนาม ปชน. ก็เป็นนักการเมืองเกรดบี เกรดซี ที่ไม่มีอุดมการณ์มั่นคงเหมือนรุ่นก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่
ปชน.จึงอุดมไปด้วยสส.และสมาชิกที่มีข้อครหา ละเมิด ก.ม.อาญา ม.112 ค้ายาเสพติดล่วงละเมิดทางเพศ ปลอมแปลงเอกสาร หนีเกณฑ์ทหาร และอื่นๆ จนประชาชนเอือมระอา พรรคส้มจึงไม่อยู่เหนือกฎเกณฑ์ความรักง่ายหน่ายเร็วของคนไทย คือ ได้รับความนิยมไม่เกินสองสมัย
สัญญาณความถดถอยพรรคส้มปรากฏให้เห็นชัดเจน มีการเลือกตั้งในทุกระดับพรรคส้มแพ้ขาดทุกสนาม ตั้งแต่เลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด พรรคส้มชนะจังหวัดลำพูนหนึ่งเดียวจากนายก อบจ.75 จว.การเลือกตั้งวุฒิสภา 200 คน พรรคส้มได้ สว.ไม่ถึง 10% ล่าสุดการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี นับเฉพาะเทศบาลนคร พรรคส้มไม่ได้นายกเทศมนตรีแม้แต่ที่นั่งเดียว
สัญญาณเสื่อมสลายของพรรคส้มเกิดขึ้นพร้อมๆกับการเสื่อมถอยพรรคเพื่อไทย แต่แตกต่างกันตรงที่พรรคเพื่อไทยมีนักการเมืองบ้านใหญ่ประคับประคองยังพอไปต่อได้ แต่ผู้สนับสนุนพรรคส้มคือขบวนการคนรุ่นใหม่ได้ล่มสลายไปแล้ว แกนนำคนรุ่นหลายรายติดคุกหรือไม่ก็ถูกดำเนินคดีอาญา ม.112 แกนนำคนรุ่นใหม่หลายคนหนีศาลตัดสินจำคุกไปพึ่งนายฝรั่ง
พรรคส้มปฏิเสธไม่ได้ว่า เคยรับปัจจัยรับงานมาจากอเมริกัน ที่บ้าเสรีประชาธิปไตย วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปประธานาธิบดี ทรัมป์ ไม่สนใจประชาธิปไตยไม่ใส่ใจสิทธิมนุษยชน ตัดท่อนำเลี้ยงทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย นอกจากท่อน้ำเลี้ยงเหือดหาย การช่วยเหลือด้านยุทธวิธีก็ไม่มีให้ ไร่ส้มจึงยืนต้นเฉาตาย
เชื่อว่า พรรคส้มจบสิ้นเพียงวาระสภาชุดนี้ ดังนั้นผู้นำตัวสัมภเวสีกลับมาปราบส้มจึงเป็นการผิดพลาดทางยุทธวิธีไม่น่าให้อภัย ที่นำสัมภเวสีหนีคุกกลับมาทำร้ายประเทศในวันนี้
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี