นายลี แจ-มยอง ชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ ได้เป็นประธานาธิบดี คนที่ 21 ของสาธารณรัฐเกาหลี ท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมือง และปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้า แต่ชาวเกาหลีใต้เลือกเขา เพราะความประสงค์คงไว้ ซึ่งการปกครองเสรีประชาธิปไตย
การเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน นายลี แจ-มยอง จากพรรคประชาธิปไตย หรือ ดีพี (Democratic Party - DP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ได้คะแนน 50% จากผู้ออกมาใช้สิทธิ์เกือบ 80% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวเกาหลีใต้ 44 ล้านคน นายลีได้คะแนนทิ้งห่าง นายคิม มูน-ซู คู่แข่งคนสำคัญ จากพรรคพลังประชาชน (People Power Party =PP ) ที่ได้เพียง 39%
นายลี ซึ่งเคยแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดี ปี 2022 ให้กับ ยุน ซุก-ยอล แห่งพรรค PP แบบเฉียดฉิวเพียง 0.71% และพลิกกลับมาชนะพรรค PP ซึ่งเป็นพรรคอนุรักษ์ด้วยคะแนนขาดลอย จากความผิดพลาดอดีตประธานาธิบดียุน ที่ผลีผลามประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อธันวาคม 2567
การประกาศภาวะฉุกเฉินของยุน ได้สร้างความวุ่นวายทางการเมือง เมื่อประชาชนหลายหมื่นคนลุกฮือต่อต้าน และ สส.พรรคฝ่ายเสี่ยงตายปัดปืนทหาร ลุยผ่านทหารติดอาวุธที่ปิดล้อมสภา เข้าประชุมเพื่อลงมติยกเลิกกฎอัยการศึกได้สำเร็จ
ในเวลาเดียวกัน ชาวเกาหลีใต้หลายพันคนผู้สนับสนุนประธานาธิบดี ยุน ซุก-ยอล ปิดล้อมขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการ เข้าควบคุมตัวยุน ตามหมายศาล ในข้อหาประกาศ
กฎอัยการศึกที่ผิดกฎหมาย
การเผชิญหน้า ระหว่างผู้สนับสนุน และกลุ่มต่อต้านประธานาธิบดียุน และการเผชิญหน้าระหว่างตำรวจ-อัยการ กับทหารรักษาความปลอดภัยทำเนียบประธานาธิบดี สร้างความตึงเครียด สับสน วุ่นวายในสังคมเกาหลีใต้ ที่นักการเมืองและประชาชนแบ่งขั้วแบ่งฝ่ายเผชิญหน้ากันอยู่นานหลายเดือน
จนกระทั่ง สส.ฝ่ายค้าน และกลุ่มประชาชนต่อต้านนายยุน ประสบความสำเร็จในการผลักดันให้สภาลงมติถอดถอนลงประธานาธิบดี ยุน ซุก-ยอล ออกจากตำแหน่ง และรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้กำหนดให้จัดเลือกตั้งภายใน 60 วันจากการถอดถอนประธานาธิบดี
จึงกล่าวได้ว่า นายลี แจ-มยอง ชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดี เพราะความโกรธแค้นและหวงแหนเสรีประชาธิปไตยของผู้มีสิทธิเลือกตั้งเกาหลีใต้ ที่ยึดมั่นเสรีประชาธิปไตยเหนือสิ่งอื่นใด มอบอาณัติให้เขาเป็นผู้ปกป้องการปกครองแบบประชาธิปไตย
นายยูน แด-ฮยง วัย 58 ปี ให้สัมภาษณ์ อัล-จาซีราว่า “การเลือกตั้งครั้งนี้ ผมไม่ให้ความสำคัญกับพรรคการเมือง ผมเลือกคุณสมบัติผู้สมัคร ผมเลือกคนที่คิดว่า ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดสำหรับผู้นำ เนื่องจากว่าประเทศเราอยู่ในวิกฤตการเมือง และผมต้องการผู้นำที่พาเราออกจากวิกฤตินี้” นายยูน กล่าว และเสริมว่า“การแบ่งขั้วการเมืองและโจมตีกันในแง่ลบ แทนที่จะบอกว่า
ทำอะไรเมื่อได้เป็นประธานาธิบดี ผู้สมัครทุกคนพูดแต่แง่ลบของกันและกัน”
คู่แข่งนายลี โจมตีเขาระหว่างหาเสียงว่า นายลี มีปัญหาทางกฎหมายมากมาย รวมทั้งข้อหาคอร์รัปชั่นที่เกี่ยวพันการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และ ละเมิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยการเผยแพร่เอกสารปลอม
นายลี ปฏิเสธข้อกล่าวหา และโจมตีคู่แข่งกลับไปว่า เป็นพวก อนุรักษ์นิยมขวาจัด พยายามใช้ทหารคุกคามการเมือง เขาหมายถึงประธานาธิบดียุน ซุก-ยอล จาก PP ที่ถูกถอดถอน เพราะประกาศกฎอัยการศึกใช้ทหารปิดล้อมสภานำรถถังออกสู่ถนนอย่างผิดกฎหมาย
นายพาร์ค ซุง-มิน ประธานบริษัท Min Consulting กล่าวกับสำนักข่าวบีบีซี ว่า “การลงคะแนนเป็นการแสดงออกถึงความโกรธแค้นผู้ทำลายประชาธิปไตย โดยประกาศกฎอัยการศึก
ประชาชนไม่ได้สนใจวาระนายลี เขาชนะเลือกตั้งเพราะ#ชาวเกาหลีใต้ ยึดมั่นเสรีประชาธิปไตยเหนือสิ่งอื่นใด”
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือประเด็นการเมืองผู้ลงคะแนนเลือกประธานาธิบดีก็ให้ความสำคัญกับปัญหาเศรษฐกิจเช่นกัน สำนักข่าวอัล-จาซีรา สัมภาษณ์ผู้ลงคะแนนต่างวัยว่า หวังอะไรจากผู้นำคนใหม่
นายชา คัง วัย 21 ปี กล่าวว่า “ผมหวังว่าประธานาธิบดีคนใหม่จะทำตามสัญญา ช่วยให้เราจ่ายค่าเช่าบ้านที่พอรับได้ และให้พวกเรามีเงินเหลือเก็บไว้ใช้จ่ายบ้าง”
แดนนี่ จู วัย 21 ปี กล่าวว่า “ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เศรษฐกิจจะดีขึ้น นี่เป็นสิ่งที่ผมกังวลสำหรับอนาคตของพวกเรา”
ลี ยู-จิน วัย 23 ปี มาลงคะแนนพร้อมกับแฟนหนุ่มกล่าวว่า “หวังว่าคะแนนเสียงของฉันผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ฉันรู้สึกได้ล่วงหน้าว่าใครเป็นผู้ชนะ แต่อดไม่ได้ต้องกลับไปนั่งลุ้นนับคะแนนหน้าจอทีวี”
อัล-จาซีรา สัมภาษณ์ผู้ลงคะแนนในเขตเซบู-ดอง นางอิม เชจุง แม่บ้านวัย 50 ปี กล่าวว่า “สิ่งที่ฉันกังวลมากที่สุด คือเศรษฐกิจตกต่ำในฐานะแม่บ้านฉันรู้สึกว่าค่าครองชีพสูงขึ้นๆ
ทุกวัน แต่เงินเดือนสามีฉันยังเท่าเดิม ค่าเช่าบ้าน ข้าวของราคาสูงขึ้นมาก”
ว่าที่ประธานาธิบดี ลี แจ-มยอง กล่าวในเวทีปราศรัยก่อนวันเลือกตั้งว่า หากชนะเลือกตั้งเขาจะฟื้นฟูการสื่อสารระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้รวมทั้งการสื่อสารผ่านฮอตไลน์ทางโทรศัพท์
การสื่อสารระหว่างสองเกาหลี หยุดชะงักในรัฐบาลที่ผ่านมาเมื่อเปียงยางไม่รับสายตั้งแต่ปี 2023 ท่ามกลางความเสื่อมทรามความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน
นายลี โพสต์บนเฟซบุ๊กด้วยว่า จะจัดการอย่างมั่นคง ต่อความสัมพันธ์กับจีน ซึ่งเขากล่าวว่า อยู่ในภาวะเสื่อมทรามภายใต้การนำของรัฐบาลก่อน นายลีสัญญาว่า จะพัฒนาความสัมพันธ์สหรัฐ-เกาหลีใต้ให้เป็น “ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่ครอบคลุม” และสนองตอบต่อหลักการประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ในประเด็นที่เกี่ยวกับเขตแดนต่อญี่ปุ่น
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กำหนดภาษีศุลกากรตอบโต้เกาหลีใต้พันธ์มิตรใกล้ชิด 25% ในประเด็นนี้ ว่าที่ประธานาธิบดี ลี แจ-มยอง กล่าวว่า “เราต้องอดทนต่อการขึ้นภาษีของสหรัฐ เราต้องใช้เวลาพิจารณาศึกษา เร่งรีบเจรจาทำข้อตกลงเร็วไปอาจผิดพลาดได้” นายลีกล่าว
สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า ประธานาธิบดี ลี แจ-มยอง เผชิญกับความท้าทายในการสร้างสมดุลจีน-สหรัฐ ในขณะที่เสริมสร้างความร่วมมือเกาหลีใต้-สหรัฐ-ญี่ปุ่นให้เข้มแข็งขึ้น”
ซินหัวให้รายละเอียดว่า นับเป็นความท้าทายที่ยากลำบากเพราะทรัมป์ประกาศนโยบาย “America First” และเรียกเก็บภาษีศุลกากร ร้อยละ 25 จากสินค้าเกาหลีใต้ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเกาหลีใต้ที่พึ่งพาการส่งออกอย่างหนัก ประกอบการเจรจากับทรัมป์ที่ไม่เคยง่าย ด้วยท่าทีแข็งกร้าวและคาดเดายาก ประธานาธิบดีคนใหม่ต้องหาทางรักษาความเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคง ขณะเดียวกันก็ต้องปกป้องผลประโยชน์ทางการค้าจากนโยบายกีดกันของสหรัฐฯ
สำนักข่าว CNA ของสิงคโปร์ รายงานว่า การเลือกครั้งนี้ดูผิดปกติ จากการเลือกเกาหลีใต้ที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เนื่องจากการเมืองเกาหลีใต้ ยังคงอยู่ในช่วงฟื้นตัวจากวิกฤตกฎอัยการศึกเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว หลังจากประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล พยายามวางแผนให้กองทัพเข้ายึดอำนาจ
CNA รายงานด้วยว่า ภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ ยังคงเป็นประเด็นที่ประธานาธิบดีคนใหม่ต้องจัดการอย่างระมัดระวัง แม้ว่าปี 2568 จะค่อนข้างสงบ แต่ในปี 2567 คิม จอง-อึน เคยยกระดับความตึงเครียดด้วยวาทศิลป์ที่แข็งกร้าว รวมถึงการส่งบอลลูน และโดรนบรรจุใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อข้ามพรมแดนซึ่งเกาหลีใต้ตอบโต้ด้วยวิธีการที่คล้ายกัน
ผู้นำคนใหม่ต้องตัดสินใจว่าจะใช้แนวทางการทูตเพื่อลดความตึงเครียด หรือจะรักษาท่าทีแข็งกร้าวด้วยการเพิ่มการซ้อมรบร่วมกับสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลต่อความมั่นคงในคาบสมุทรเกาหลีและความเชื่อมั่นของประชาชน
จึงต้องจับตาว่า ประธานาธิบดีที่ชนะเลือกตั้ง เพราะชาวเกาหลีใต้ยึดมั่นในเสรีประชาธิปไตย เกลียดชังการใช้ทหารเป็นฐานอำนาจประกาศกฎอัยการศึก จะนำพาเกาหลีใต้ใช้เสรีประชาธิปไตยฟันฝ่าปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ และความมั่นคงไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี