วันเสาร์ ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันพฤหัสบดี ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2567, 02.00 น.
คลายปมรถไฟฟ้าสายสีเขียว ยังเหลืออีก 3 หมื่นกว่าล้านบาท !!!

ดูทั้งหมด

  •  

มีรายงานข่าวจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) ระบุว่า กทม.ได้ชำระหนี้ค่างานติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกล (E&M) รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ให้กับบีทีเอสแล้ว จำนวน 23,091,937,361 บาท เมื่อช่วงเย็นวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา

1. ปัญหาหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย เป็นปัญหาเรื้อรัง หมักหมมมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ยังแก้ไม่สำเร็จ


กระทั่งยุคผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นำเสนอเรื่องขออนุมัติต่อสภา กทม.

เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2567 สภากรุงเทพมหานครได้ลงมติเห็นชอบ อนุมัติจ่ายเงินสำหรับงานติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกล (E&M) รถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยนำเงินสะสมจ่ายขาดที่มีอยู่ 40,000-50,000 ล้านบาท มาชำระหนี้ให้กับ BTSC ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า BTS ดังกล่าว

ต่อมา เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2567 ราชกิจจานุเบกษา ประกาศ ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 2567 จำนวน 23,488,692,200 บาท เพื่อใช้จ่ายหนี้ให้กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพจำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส ผู้รับสัมปทานและให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต สำหรับงานติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกล (E&M)

ล่าสุด จึงมีรายงานว่า จ่ายแล้ว เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา จำนวน 23,091 ล้านบาท

มีรายงานว่า ผู้บริหารบีทีเอส ได้กล่าวขอบคุณ กทม. โดยเฉพาะนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. เชื่อว่าการได้รับเงินก้อนดังกล่าวจะช่วยเสริมสภาพคล่องให้บริษัท ซึ่งส่งผลต่อการดำเนินงาน และที่สำคัญ คือ ประชาชนจะได้รับประโยชน์ในการใช้บริการต่อไป

2. ในความเป็นจริง หนี้ค่างานติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกล (E&M) รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย เป็นเพียงก้อนหนึ่งเท่านั้น

การจ่ายหนี้ไปนั้น ชอบแล้ว เพื่อจะได้ไม่ต้องยืดเยื้อ และเสียดอกเบี้ยเพิ่มไปอีกโดยไม่จำเป็น

แต่ยังมีหนี้อีกก้อนใหญ่

นั่นคือ หนี้ค่าเดินรถสายสีเขียวส่วนต่อขยาย

ซึ่งเอกชนยังคงเดินรถตามสัญญาจ้างเดินรถอยู่ทุกวัน จนกระทั่งปัจจุบัน โดยที่ภาครัฐยังไม่จ่ายเงินค่าเดินรถให้เอกชนตามสัญญาเลย

หนี้ก้อนนี้ จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะเวลาการเดินรถตามสัญญา และยังมีดอกเบี้ยอีกต่างหาก

3. ปัจจุบัน หนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด

มูลหนี้ ประกอบด้วย

ส่วนที่ 1 ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ศาลปกครองพิพากษาให้กรุงเทพมหานครและบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) ร่วมกันจ่ายหนี้ให้กับ BTSC จำนวน 11,755.06 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.หนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 จำนวน 2,348 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย และ 2.หนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 จำนวน 9,406 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย

ส่วนที่ 2 ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) ตามที่ BTS ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางให้กรุงเทพมหานครและบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด จ่ายหนี้เพิ่มอีกประมาณ 11,068.5 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2565

รวมถึงเวลานี้ ค่าเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ยังไม่ได้จ่าย น่าจะกว่า 3 หมื่นล้านบาทขึ้นไป (ยังไม่รวมดอกเบี้ย)

สำหรับสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงอ่อนนุช-หมอชิด (สายสุขุมวิท) และ ช่วงสะพานตากสิน-สนามกีฬาแห่งชาติ (สายสีลม) จะหมดอายุสัมปทานในปี 2572 แต่บีทีเอสมีสัญญาจ้างเดินรถในส่วนต่อขยายทั้งสองฝั่งไปถึงปี 2585 หากสัญญาสัมปทานเส้นทางหลักหมดอายุ ทางกทม.ก็มีทางเลือกว่าจะเจรจากับบีทีเอสเพื่อเดินรถต่อเนื่อง หรือเปิดประมูล ซึ่งหากให้รายใหม่เข้ามาเดินรถเส้นทางหลักก็จะติดสัญญาจ้างเดินรถในส่วนต่อขยายที่เป็นสิทธิของบีทีเอส

4. นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการ BTS และ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) เปิดเผยว่า เงินค่าจ้างงานระบบเดินรถไฟฟ้าและเครื่องกลรถไฟฟ้าสายสีเขียว บริษัทจะนำไปชำระหนี้เพื่อทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลง ช่วยให้มีความสามารถกู้เงินได้เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี การรับเงินคืนจาก กทม.ยังไม่มีผลต่องบกำไรขาดทุน เพราะได้บันทึกไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่จะช่วยทำให้สภาพคล่องดีขึ้น

ส่วนหนี้คงค้างในส่วนที่เป็นงานเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุง (O&M) รวมค่าเช่าขบวนรถไฟฟ้าประมาณ 3.3 หมื่นล้านบาท BTSC ได้ฟ้องศาลปกครองครั้งที่ 1 มีจำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท และ ฟ้องเพิ่มอีกในครั้งที่ 2 อีกจำนวน 1.1 หมื่นล้านบาท และยังมีส่วนที่เหลือที่ยังไม่ได้ยื่นคำฟ้องราว 1 หมื่นล้านบาท

นายสุรพงษ์เปิดเผยด้วยว่า สำหรับการฟ้องครั้งที่ 1 ศาลปกครองกลางพิพากษาให้ กทม.และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด จ่ายหนี้และดอกเบี้ยรวม 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่ง กทม.ได้ยื่นอุทธรณ์ และศาลปกครองสูงสุดนัดไต่สวนครั้งแรกแล้ว และตุลาการแถลงมีความเห็นยืนตามศาลปกครองกลางเมื่อ 17 ส.ค.2566 ซึ่งผ่านมากว่า 6 เดือนแล้ว คาดว่าศาลน่าจะใกล้มีคำตัดสินแล้ว

หากเป็นไปตามทิศทางเดียวกับศาลชั้นต้นและตุลาการแถลงคดี กทม.ก็ต้องจ่ายให้กับบริษัทภายใน 180 วัน คาดว่าบริษัทจะรับรู้ในงวดปี 2567/2568

ส่วนคดีที่ 2 ที่ฟ้องเพิ่มหนี้ค่าจ้าง O&M นั้น ปัจจุบัน ศาลปกครองยังไม่เรียกไต่สวน คาดว่าน่าจะรอคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุด เพื่อนำมาประกอบการพิจารณา เพราะลักษณะคดีเหมือนกันต่างกันเพียงระยะเวลา ซึ่งบริษัทก็รอฟังเช่นกันเพื่อจะได้รู้ทิศทางว่าจะดำเนินการต่ออย่างไร และจะฟ้องเรียกคืนค่าจ้าง O&M ในส่วนที่เหลือด้วย

5. ทั้งหมดนี้ คือต้นทุนของปัญหาที่หมักหมมสะสมมายาวนาน

ในยุครัฐบาลพลเอกประยุทธ์พยายามหาแนวทางที่ไม่ต้องจ่าย โดยใช้มาตรา 44 ให้เจรจากับเอกชน เพื่อจะล้างหนี้ทั้งหมด แลกกับการขยายสัญญาสัมปทานแก่เอกชน

แต่ดำเนินการไม่สำเร็จ ค้างคา

มาถึงปัจจุบัน แนวนโยบายของผู้ว่าฯ กทม. ชัชชาติ สรุปชัดเจน คือ เดินหน้าใช้หนี้ ไม่เดินตาม ม.44

ส่วนรัฐบาลเพื่อไทยจะเอาอย่างไร?

หากไม่เจรจากับเอกชน ก็ต้องใช้หนี้เอกชน แล้วรัฐบาลจะร่วมรับผิดชอบหนี้ค่าเดินรถด้วยหรือไม่? แค่ไหน? อย่างไร?

เพราะรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ว่าจ้างเอกชนเดินรถมาหลายปีนั้น เปิดให้บริการฟรี ประชาชนทั้งใน กทม.และปริมณฑลได้ประโยชน์จากการนั่งฟรีอย่างต่อเนื่อง

ถึงคราวต้องจ่ายเงิน รัฐบาลจะร่วมรับผิดชอบด้วยอย่างไร?

มิฉะนั้น ปัญหาคงไม่จบ ค้างคา และหมักหมม สะสม เพิ่มภาระดอกเบี้ยพอกพูนต่อไปเรื่อยๆ ใครจะรับผิดชอบ?

จะไม่มีเงินจ่ายอีกประมาณ 3 หมื่นล้านบาท จะต้องกลับไปเจรจากับเอกชนหรือไม่ อย่างไร?

จะจบ หรือไม่จบ มหากาพย์รถไฟฟ้าสายสีเขียว อยู่ที่รัฐบาลปัจจุบัน

สารส้ม

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
21:54 น. 'อนุทิน'โพสต์เนื้อเพลงบ้านเรา 'ทรุดกายลงจูบดิน ไม่ถวิลอายใคร'
21:44 น. เชิดชูเกียรติ 'จ.ส.อ.พลพร' นักรบภูมะเขือ รู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ขอสู้เพื่อประเทศชาติถึงที่สุด
21:28 น. ถอนแล้ว! 'กัมพูชา'โชว์ถอนปืนใหญ่อัตตาจร-รถยิงจรวด พ้นแนวหน้าฝั่งอุดรมีชัย
21:22 น. 'ในหลวง-พระราชินี'ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ พระพันปีหลวง
21:20 น. ‘ตม.อุบลราชธานี’จับชายชาวลาว อยู่เกินอนุญาต‘โอเวอร์สเตย์’ 50 วัน
ดูทั้งหมด
สื่อเขมรตีข่าว! คนกัมพูชาเมินท่องเที่ยวเมืองไทย เทใจแห่ไป2ประเทศนี้แทน
มิติใหม่! 'หน้าเหมือนองค์หญิงมาก องค์หญิงจ๊ะ' สมเด็จเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี ทรงไลฟ์สดแต่งพระพักตร์ครั้งแรก (ชมคลิป)
พร้อมกันหรือยัง!!! เปิดภาพพยากรณ์อากาศ 12-13 พ.ย. อุณหภูมิเย็นลงอีกครั้ง
มาแล้ว!!! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 28 ต.ค.-3 พ.ย.68
'พี่ดี้'ถึงกับห่อเหี่ยวอดสู เห็นประกาศรับสมัครครูปฐมวัย เงินเดือน6,000บาท
ดูทั้งหมด
สังคมไทยสมัยใหม่ช่างอาภัพผู้นำทางการเมือง
ซังกะบ๊วย
บุคคลแนวหน้า : 1 พฤศจิกายน 2568
เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
กองทัพไทยไม่มีงบฯ ซื้ออาวุธหรือ
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'อนุทิน'โพสต์เนื้อเพลงบ้านเรา 'ทรุดกายลงจูบดิน ไม่ถวิลอายใคร'

เชิดชูเกียรติ 'จ.ส.อ.พลพร' นักรบภูมะเขือ รู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ขอสู้เพื่อประเทศชาติถึงที่สุด

สิ้น 'น.ต.ฐิติ'อดีตเลขาพรรคสามัคคีธรรม พ่อของ'อนุดิษฐ์ นาครทรรพ'

'จี-ดรากอน'ขึ้นแสดงงานเลี้ยงต้อนรับประชุมผู้นำเอเปค 'สี จิ้นผิง-อนุทิน'ร่วมชมโชว์

'ธัญญ่า' ยันลดสถานะ 'เป๊ก สัณณ์ชัย' ไม่ได้สร้างกระแส เคลียร์กันด้วยดี

'อินเดีย'สลด! ผู้แสวงบุญเหยียบกันตายในงานบุญ ดับแล้วอย่างน้อย9ศพ-เจ็บอื้อ

  • Breaking News
  • \'อนุทิน\'โพสต์เนื้อเพลงบ้านเรา \'ทรุดกายลงจูบดิน ไม่ถวิลอายใคร\' 'อนุทิน'โพสต์เนื้อเพลงบ้านเรา 'ทรุดกายลงจูบดิน ไม่ถวิลอายใคร'
  • เชิดชูเกียรติ \'จ.ส.อ.พลพร\' นักรบภูมะเขือ รู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ขอสู้เพื่อประเทศชาติถึงที่สุด เชิดชูเกียรติ 'จ.ส.อ.พลพร' นักรบภูมะเขือ รู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ขอสู้เพื่อประเทศชาติถึงที่สุด
  • ถอนแล้ว! \'กัมพูชา\'โชว์ถอนปืนใหญ่อัตตาจร-รถยิงจรวด พ้นแนวหน้าฝั่งอุดรมีชัย ถอนแล้ว! 'กัมพูชา'โชว์ถอนปืนใหญ่อัตตาจร-รถยิงจรวด พ้นแนวหน้าฝั่งอุดรมีชัย
  • \'ในหลวง-พระราชินี\'ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ พระพันปีหลวง 'ในหลวง-พระราชินี'ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ พระพันปีหลวง
  • ‘ตม.อุบลราชธานี’จับชายชาวลาว อยู่เกินอนุญาต‘โอเวอร์สเตย์’ 50 วัน ‘ตม.อุบลราชธานี’จับชายชาวลาว อยู่เกินอนุญาต‘โอเวอร์สเตย์’ 50 วัน
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

อย่ากลัว MOU แรร์เอิร์ธไทย

อย่ากลัว MOU แรร์เอิร์ธไทย

31 ต.ค. 2568

สันติภาพ ย่อมดีกว่าสงคราม  และต้องเป็นสันติภาพที่มีศักดิ์ศรี

สันติภาพ ย่อมดีกว่าสงคราม และต้องเป็นสันติภาพที่มีศักดิ์ศรี

30 ต.ค. 2568

ราคาทองคำปรับฐาน  วิกฤตหรือโอกาส?

ราคาทองคำปรับฐาน วิกฤตหรือโอกาส?

29 ต.ค. 2568

มะเร็งร้าย  กัดกินระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า

มะเร็งร้าย กัดกินระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า

28 ต.ค. 2568

ค่ารถแห่โดนัลด์ ทรัมป์

ค่ารถแห่โดนัลด์ ทรัมป์

27 ต.ค. 2568

บอลไทยเปลี่ยนโค้ช

บอลไทยเปลี่ยนโค้ช

24 ต.ค. 2568

เพื่อไทยเปลี่ยนหัว  ยกเครื่อง หรือศัลยกรรมการเมือง?

เพื่อไทยเปลี่ยนหัว ยกเครื่อง หรือศัลยกรรมการเมือง?

23 ต.ค. 2568

พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ สำเร็จได้  สส.ทุกพรรค และสว.เห็นชอบ

พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ สำเร็จได้ สส.ทุกพรรค และสว.เห็นชอบ

22 ต.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved