เมื่อวานนี้ ได้สรุปจังหวะก้าวเดินสอดรับกัน ของสภาผู้แทนราษฎรและรัฐบาล ในการขับเคลื่อนเพื่อเปิดกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย
พร้อมเนื้อหารายงานข้อเสนอแนะจากสภาฯ ซึ่งชัดเจนว่า มีธงในการสนับสนุนตั้งสถานกาสิโนถูกกฎหมาย แถมชี้นำให้รัฐลงทุนร่วมกับเอกชน หรือใช้วิธีให้สัมปทานเอกชน และสถานที่ตั้งกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจรนั้น ก็เจาะจงจะเปิดใกล้ๆ สนามบินนานาชาติเลย โดยรายงานฯ ยอมรับถึงผลกระทบต่อสังคม แต่กล่าวถึงมาตรการป้องกันเยียวยาน้อยมาก
สุดท้าย จึงสรุปได้ว่า กาสิโนถูกกฎหมาย ประเทศชาติมีได้-เสีย แต่ทุนเอกชนที่ได้ทำกาสิโน “กินรอบวง” เพราะไม่ต้องรับต้นทุนผลกระทบที่เกิดแก่ส่วนรวม
วันนี้ เพิ่มเติมมุมมองของนักวิชาการ และภาคประชาชน เพื่อให้ครอบคลุมชัดเจน
1. ตัวอย่าง มุมมองสนับสนุน เปิดกาสิโนถูกกฎหมาย
ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมลํ้า วุฒิสภา ระบุว่า ฐานะทางการคลังของรัฐบาล จำเป็นต้องหารายได้-หาเงินหาทองเข้ามาใช้ในเรื่องการพัฒนาประเทศ ก็มีเหตุผลความจำเป็นที่ต้องทำเรื่องนี้ โดยที่สส.ในสภาฯชุดปัจจุบัน ก็ให้การสนับสนุนมาก ทั้งหมดจึงเป็นสถานการณ์ที่เอื้ออำนวยให้รัฐบาลสามารถทำเรื่องนี้ได้
“...การที่จะทำแล้วบอกว่าต้องใช้เวลา 5-10 ปี มันจะช้าเกินไป ควรทำให้เสร็จภายใน 2 ปี
... เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเม็ดเงินจำนวนมาก ใหญ่กว่าหวยใต้ดินเยอะ เรื่องหวยใต้ดินคนอาจคิดว่ามีเม็ดเงินเกี่ยวข้องเยอะ แต่ต้องเข้าใจว่าเงินจะมาทุกสองอาทิตย์ไม่เหมือนกับกาสิโน โดยกาสิโน เงินเข้ามาทุกห้านาที สิบนาที
อย่างสมมุติ กาสิโนแห่งหนึ่ง มีโต๊ะเล่นอยู่ห้าโต๊ะ สิบโต๊ะ เงินมันเข้ามาอยู่ตลอดเวลา เรียกได้ว่าทุกนาทีเลย เงินมันจะหมุนเข้ามาเร็วมาก เพราะฉะนั้น เงินกาสิโนจะมีเม็ดเงินใหญ่กว่าหวยใต้ดินเยอะ
ผมจึงเห็นว่า ความโปร่งใส ในกระบวนการดำเนินงาน ในกระบวนการทำนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล ต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่สุดของกระบวนทั้งหมดของการทำกาสิโน
ผมมีข้อสังเกต
เรื่องแรก ที่รัฐบาลหากจะทำต้องพิจารณาให้รอบคอบ คือ ตามร่างฯ ที่บอกว่าจะให้เฉพาะบริษัทคนไทยเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์เข้าประมูล โดยต้องเป็นบริษัทที่มีทุนจดทะเบียนซึ่งชำระเต็มไม่น้อยกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท ผมคิดว่าคนไทยมีความสามารถที่จะทำเรื่องกาสิโนแน่ ผมมั่นใจ แต่การจะไปกำหนดว่าตลาดนี้ จะเป็นตลาดผูกขาดเฉพาะคนไทย ที่ไม่ให้ธุรกิจของต่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง อันนี้จะเริ่มไม่ค่อยมีความโปร่งใสแล้ว เพราะธุรกิจในโลก ที่เขาบริหารงานกันเก่ง ๆ มีเป็นจำนวนมาก เขามีประสบการณ์มากกว่าคนไทยเยอะ เพราะฉะนั้น ผมเห็นว่าควรเป็นตลาดที่เปิดให้มีการแข่งขันกันระหว่าง นักธุรกิจคนไทยกับนักธุรกิจต่างชาติใครที่จะสามารถเสนอเงื่อนไขตอบแทนให้กับรัฐบาลได้ดีที่สุด ให้แก่ประชาชนคนไทยได้ดีที่สุด เสนอเงื่อนไขที่จะทำให้คนไทยได้สวัสดิการตามผลตอบแทนที่ดีที่สุดผมคิดว่าต้องนำเรื่องนี้มาพิจารณาด้วย
คือ หากเอาแต่คนไทย ผมคิดว่ามันเหมือนกับตลาดมันผูกขาด อาจจะเหลือแค่หนึ่งรายหรือสองราย แบบนี้ไม่ดี
ควรเปิดตลาดเลย ไม่ว่าจะเป็นทุนจากสหรัฐอเมริกา ทุนจากยุโรป ทุนจากมาเก๊า ให้มาแข่งกันเลย แล้วเรามาดูเงื่อนไขกัน ใครที่ให้ผลตอบแทน ใครที่ให้ผลประโยชน์ ที่ดีที่สุด เราก็เลือกอันนั้น แล้วเราค่อยมาดูว่า ที่เขาประมูลได้แล้วทำงานไปยี่สิบปีมันโปร่งใส น่าเชื่อถือหรือไม่ มันก็จะมีเวลาตัดสินใจได้ แต่ตอนเริ่มทำ มันต้องมีความโปร่งใส
อีกประเด็น คือ ข้อเสนอที่บอกว่า สถานที่ตั้งกาสิโน ต้องอยู่ไม่ห่างจากสนามบินหนึ่งร้อยกิโลเมตร ผมคิดว่าอย่าเอาเงื่อนไขนี้มาใส่ไว้เลย เพราะมันจะอยู่ที่ไหน ต้องให้ภาคธุรกิจเอกชนเขาเป็นฝ่ายลองคิดดู เพราะหากทำแล้ว ต้องทำให้สำเร็จ ไม่ใช่ไปตั้งแล้ว ผลออกมาไม่ประสบความสำเร็จ รัฐบาลก็เสียหาย ธุรกิจก็เสียหาย อันนี้ต้องยึดถือผลประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง เพราะฉะนั้น ผมเห็นว่าเงื่อนไขแบบนี้ไม่ควรออกมาเพื่อจำกัดตัวเราเอง..” – ดร.สังศิตให้ข้อเสนอแนะ
2. ตัวอย่าง มุมมองคัดค้านการเปิดกาสิโนถูกกฎหมาย
นักวิชาการ คณาจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิ 99 คน อาทิ รศ.แล ดิลกวิทยารัตน์ ศ.สุริชัยหวันแก้ว นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ศ.สุภา เพ่งพิศ รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ รศ.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง รศ.จุมพล รอดคำดี ฯลฯ ได้เข้าชื่อกันออกแถลงการณ์ความห่วงใยและข้อเสนอแนะต่อการผลักดันกาสิโนถูกกฎหมายของรัฐบาล ระบุว่า
“1. ในทางเศรษฐศาสตร์ การพนันไม่ถือเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ก่อให้เกิดผลผลิต
เพราะเป็นเพียงการยักย้ายถ่ายโอนเงินจากกระเป๋าของผู้แพ้พนันไปสู่กระเป๋าของผู้ชนะพนัน ซึ่งในกรณีของกาสิโนนี้ผู้ชนะคือเจ้าของสถานกาสิโน การส่งเสริมให้มีกาสิโนจึงเท่ากับเป็นการสนับสนุนให้กลุ่มทุนดูดซับเงินจากภาคครัวเรือน โดยเฉพาะครัวเรือนชั้นกลาง ผู้ใช้แรงงาน ผู้มีรายได้น้อย และชนชั้นล่างของสังคม แม้คณะ
กรรมาธิการฯ จะเสนอให้เริ่มต้นที่ไซส์ XL ก่อน แต่รายงานของคณะกรรมาธิการฯ ก็เปิดช่องให้สามารถมีแหล่งพนันที่มีขนาดเล็กรองลงมา ที่น่าจะเข้ามาเปิดใกล้ชุมชนมากขึ้น และลดกฎเกณฑ์ความเข้มงวดให้คนไทยได้เข้าเล่นง่ายขึ้น ถึงวันนั้นกาสิโนจะเป็นสิ่งถ่างขยายความเหลื่อมล้ำในสังคมให้มากขึ้น และซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่รัฐบาลพร่ำบอกมาตลอดว่ากำลังอยู่ในภาวะวิกฤต
แม้รัฐบาลอาจมองเห็นว่า การมีกาสิโน รวมถึงสถานบันเทิงครบวงจรอื่น ๆ จะก่อให้เกิดการจ้างงาน การกระจายรายได้และการหมุนเวียนของเงินตราในระบบเศรษฐกิจ แต่หากนับเฉพาะส่วนของกาสิโนที่คณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่ามีสัดส่วนเพียงร้อยละ 5 ของกิจการทั้งหมด กิจการกาสิโนจึงอาจก่อให้เกิดผลดีต่าง ๆ ที่กล่าวมาได้ไม่มาก แต่อาจก่อให้เกิดผลกระทบทางสังคมที่รุนแรงมากกว่า การได้ไม่คุ้มเสียจึงเป็นข้อห่วงใยที่สำคัญ และกิจการอื่น ๆ ที่เป็นส่วนประกอบของสถานบันเทิงครบวงจร อาจจะเป็นแหล่งสร้างรายได้ที่รัฐบาลพึงคาดหวังมากกว่า โดยอาจไม่จำเป็นต้องมีกาสิโนก็ได้
2. ในทางการแพทย์ การอยู่ในสถานพนันเป็นเวลาต่อเนื่องครั้งละนานๆ กับกิจกรรมพนันที่รู้ผลแพ้-ชนะรวดเร็ว และเมื่อเสียก็เปิดโอกาสให้แก้มือได้ในทันทีทันใด จะมีผลต่อการกระตุ้นอารมณ์ให้เกิดการเล่นพนันจนเกินขีดความเหมาะสม และนำมาสู่การเล่นพนันจนเป็นปัญหาที่ขยายผลไปสู่การเป็นผู้เสพติดการพนัน ซึ่งเท่ากับการเป็นผู้ป่วยที่ยากต่อการบำบัดรักษาด้วยตนเอง และจำเป็นต้องอาศัยการรักษาทางการแพทย์ที่ต่อเนื่องเป็นปีจึงจะหาย
ผู้ป่วยจะตกอยู่ในภาวะที่ทุกข์ทรมานในการต่อสู้กับอาการอยากเล่นพนัน ที่พยามยามจะฝืนทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตนได้เล่นพนันแม้จะไม่มีเงินก็ตาม และเกิดเป็นภาระต่อครอบครัวและชุมชนในการดูแลผู้ประสบปัญหาตลอดช่วงของการรักษาเยียวยา กาสิโนจึงอาจเป็นสาเหตุของการเซาะกร่อนบ่อนทำลายสุขภาพของสังคมโดยรวม
3. ในด้านการบังคับใช้กฎหมาย เป็นที่ทราบกันดีว่ากิจกรรมการพนันสามารถถูกใช้เป็นช่องทางการฟอกเงินของธุรกิจผิดกฎหมาย รวมทั้งเป็นช่องทางทำมาหากินของเจ้าหน้าที่รัฐหรือนักการเมืองที่ทุจริตคอร์รัปชั่น สถานกาสิโนจึงอาจโยงใยกับการกระทำความผิด การฝ่าฝืนกฎหมาย และการประพฤติมิชอบได้มากมาย โดยเฉพาะในประเทศที่การบังคับใช้กฎหมายยังไม่มีประสิทธิภาพมากพอ ความหวังที่ว่าการนำธุรกิจใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดินจะทำให้ธุรกิจผิดกฎหมายและการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐมีน้อยลงจึงอาจไม่เป็นจริง และกลับกลายเป็นการสร้างโอกาสให้เหล่าผู้กระทำความผิดมีช่องทางใช้ประโยชน์ที่มากขึ้น ตราบใดที่หน่วยงานการบังคับใช้กฎหมายยังอ่อนแอและไม่ใสสะอาด คงเป็นการยากที่จะให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นต่อความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตได้หากมีแหล่งอบายมุขขนาดใหญ่มาอยู่ใกล้ชุมชนและบุคคลในครอบครัวของตนมากขึ้น
ด้วยเหตุผลที่กล่าวอ้างมา จึงนำมาสู่ข้อเสนอแนะต่อนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้
1. รัฐบาลควรเร่งเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น โดยการปฏิรูปองค์กรตำรวจ และการปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง เพราะนี่คือด่านท้าทายที่สำคัญหากรัฐบาลมีแนวทางจะเปลี่ยนกิจการผิดกฎหมายต่างๆ ให้มาอยู่บนดินได้ทั้งหมด
2. รัฐบาลควรมีข้อเสนอที่ชัดเจนต่อสังคมถึงสิ่งที่ตนต้องการผลักดันทั้งขนาดและจำนวนของกาสิโน พื้นที่เป้าหมาย กลุ่มเป้าหมาย และอื่นๆ
และทำการศึกษาอย่างรอบด้านให้ครบทุกมิติ ทั้งการศึกษาความเป็นไปได้ทางธุรกิจ การศึกษาผลกระทบทางสังคม การวางมาตรการและกลไกในการกำกับดูแลผู้ประกอบการกาสิโนอย่างละเอียด รอบคอบ และรัดกุม การกำหนดมาตรการและกลไกในการป้องกันปัญหาและผลกระทบอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน โดยไม่เร่งรัดหรือเข้าแทรกแซงกระบวนการศึกษา และให้มีการเผยแพร่ผลการศึกษาในทุกด้านอย่างเปิดเผย อย่างไรก็ตาม การศึกษาทุกเรื่องที่กล่าวมาล้วนต้องใช้งบประมาณ
จำนวนไม่น้อย ฉะนั้น สิ่งสำคัญจึงอยู่ที่การมีจุดเริ่มต้นที่ชัดเจนตั้งแต่แรก
3. เมื่อทำการศึกษาครบถ้วนทุกมิติ รัฐบาลควรนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการประชามติ เพื่อรับฟังความเห็นของประชาชนทั้งประเทศ โดยสนับสนุนการรณรงค์ให้ความรู้ของทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายที่เห็นต่าง ด้วยความตระหนักว่าการมีสถานกาสิโนหรือบ่อนพนันถูกกฎหมายเป็นแหล่งรวมอบายมุขที่มีความสลับซับซ้อน จึงมิอาจใช้วิธีรับฟังความเห็นจากประชาชนเพียงบางส่วนได้
การหวังพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศด้วยธุรกิจอบายมุข เป็นแนวนโยบายที่พึงตรึกตรองอย่างรอบคอบให้กว้างไกลกว่าการคำนึงถึงเพียงมูลค่าทางเศรษฐกิจ เพราะอาจเป็นการเปลี่ยนแปลงบรรทัดฐานของความถูกต้องและชอบธรรมทางสังคมอย่างยากจะถอดถอนให้กลับมาดังเดิมได้ รัฐบาลจึงพึงสังวรและตัดสินใจบนฐานความเชื่อมั่นที่มากพอ....”
กาสิโนถูกกฎหมาย เป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติ ที่จะเปลี่ยนแปลงค่านิยมของลูกหลานไทยไปชั่วกัลปาวสาน
พึงตรึกตรองให้ถี่ถ้วน
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี