ครม.เศรษฐา 2 บ้างก็เรียก“เศรษฐา 1/1” เฉพาะในส่วนของพรรคเพื่อไทยที่เรียบร้อย“นักโทษเทวดา”แห่งทำเนียบบ้านจันทร์ส่องหล้า จากการดูโผครั้งสุดท้ายที่โรงแรม“โรสวูด กรุงเทพฯ” โรงแรมหรูระดับห้าดาวของตระกูลชินวัตรเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะนำรายชื่อรัฐมนตรีทั้งหมด 12 คนขึ้นทูลเกล้าฯ และรายชื่อก็ออกมาเป็นไปตามคาดดังที่ปรากฏในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา
ในจำนวน 12 คนนี้ ที่ไม่ใช่เหล้าเก่าจากขวด“เศรษฐา 1” แต่เป็นเหล้าใหม่ที่เพิ่งถูกนำผสมในขวดที่เปลี่ยนสลากเป็น“เศรษฐา 1/1” ก็มี 1.นายพิชัย ชุณหวชิร เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (เพื่อไทย) 2.นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (เพื่อไทย) 3.นางสาวจิราพร สินธุไพร เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (เพื่อไทย) 4.นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (เพื่อไทย) 5.นายอรรถกร ศิริลัทธยากร เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (พลังประชารัฐ) และ 6.นายสุชาติ ชมกลิ่น เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (รวมไทยสร้างชาติ)
เท่ากับว่ารัฐมนตรีใหม่เอี่ยมอ่อง 6 คนที่ถูกนำมาผสมในครั้งนี้ เป็นหัวเชื้อของพรรคเพื่อไทย 4 คน ของพรรคพลังประชารัฐ 1 คน และของพรรครวมไทยสร้างชาติ 1 คน ซึ่งในส่วนของพรรคเพื่อไทยนี้ ได้ผ่านมาตรฐานการรับรองจาก“หัวหน้าคอก”เป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยประการทั้งปวง ส่วนจะถูกปากถูกใจผู้บริโภคหรือไม่ เป็นเรื่องที่นายเศรษฐา ทวีสิน และนายภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะผู้นำรัฐบาลและผู้จัดการรัฐบาลต้อง“รับหน้าเสื่อ”เอง
ขณะเดียวกันในจำนวนรัฐมนตรีที่ได้รับการแต่งตั้งในครั้งนี้นั้น มี 6 คน ซึ่งถือว่าเป็นน้ำเชื้อเก่าจาก“รัฐบาลเศรษฐา 1” และเป็นน้ำเชื้อของพรรคเพื่อไทยล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับพรรคอื่น นั่นก็คือ 1.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรองนายกรัฐมนตรีอีกตำแหน่งหนึ่ง ควบเก้าอี้เดิมที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 2.นายสมศักดิ์ เทพสุทิน พ้นจากเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรีไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข 3.นายปานปรีย์ พหิทธานุกร เหลือตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยพ้นจากรองนายกรัฐมนตรี
4.นายจักรพงษ์ แสงมณี โยกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทวงการต่างประเทศ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 5.นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และ 6.นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ส่วนรัฐมนตรีที่ร่วมวงกับรัฐบาล“เศรษฐา 1” มาเป็นเวลา 7 เดือนกว่า นับตั้งแต่วันถวายสัตย์ปฏิญาณเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566 ถูกให้พ้นจากตำแหน่งแบบไปแล้วไปลับนั้น มีทั้งหมด 4 คน จากพรรคเพื่อไทย 3 คน และพรรครวมไทยสร้างชาติ 1 คน คือ 1.นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว พ้นจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (เพื่อไทย) 2.นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (เพื่อไทย) 3.นายไชยา พรหมา พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (เพื่อไทย) และ 4.นายอนุชา นาคาศัย พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ (พรรครวมไทยสร้างชาติ)
ในกรณีของนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว และนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียดจากพรรคเพื่อไทยนั้น ถือว่าจบแบบ “สยดสยอง” เข้าตำรา“เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล” ด้วยเหตุผลสั้นๆ ง่ายๆ ที่อธิบายได้ หากนึกถึงภาพนายแพทย์ชลน่าน วัย 62 ปี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยืนกุมมือโค้งคำนับ“คุณหนูอุ๊งอิ๊ง-แพทองธารชินวัตร” วัย 37 ปี ที่มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เดินขึ้นโพเดียมในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง เพียงภาพเดียวก็บอกเรื่องราวได้ทั้งหมด ว่ายอมถวายหัวรับใช้คนในตระกูลนี้ทั้งชีวิตจิตใจ ดังนั้น “นายทาส” ผู้เป็นเจ้าของคอก จะปฏิบัติต่อเขาอย่างไรก็ได้
น่าเศร้าก็ตรงที่ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว เป็นความภูมิใจของชาวน่านเป็นสส.จังหวัดน่าน ติดต่อกันมาถึง 6 สมัย ตั้งแต่ลงสมัครครั้งแรกในนามพรรคไทยรักไทยในปี 2544 และเรื่อยมาเป็นพรรคพลังประชาชนในปี 2550 จนกระทั่งพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน เป็นรัฐมนตรีที่สังคมเห็นว่าไม่ผิดฝาไม่ผิดตัว และเป็นทาสบริวารที่ไม่ต่างจากกระโถนท้องพระโรงของเจ้าของคอก
เช่นเดียวกับนางพวงเพ็ชรชุนละเอียด หรือ“เจ๊แจ๋น-เจ้าแม่สายมู” วัย 66 ปี ปูมหลังนั้นใครก็รู้ว่า เจ้าแม่สายมูผู้นี้มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับครอบครัวชินวัตร เป็น สส.สมัยแรกที่จังหวัดเลย ในปี 2539 สังกัดพรรรคชาติพัฒนา ของ“พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก” และย้ายมาอยู่พรรคไทยรักไทยในปี 2548 เป็นสส.ระบบบัญชีรายชื่อ ก่อนพรรคเพื่อไทยจะถูกยุบในปี 2550 และเป็นหนึ่งใน 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย (บ้านเลขที่ 111) ซึ่งถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี อีกทั้งในช่วงที่“ทักษิณ ชินวัตร”หลบหนีคดีอยู่ในต่างประเทศ นางพวงเพ็ชรก็เป็นผู้หนึ่งที่เดินทางไปพบอยู่บ่อยครั้ง นับได้ว่าเป็นขุนพลการเมืองที่ครอบครัวชินวัตรไว้วางใจมากที่สุดอีกคนหนึ่ง
คนอย่างนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร นั้น ใครก็รู้ว่า“อำมหิต” ผลประโยชน์ของตนย่อมมาก่อน ใครจะเคยทำคุณหรือทอดตัวทำงานให้อย่างทุ่มเทสุดตัวแค่ไหนก็ตาม หากเมื่อหมดประโยชน์แล้ว สามารถสลัดทิ้งได้ทุกคน
การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ “พิชิต ชื่นบาน” เจ้าของฉายา “ทนายถุงขนม” คือตัวเลือกใหม่ของนักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเคยถูกดึงชื่อออกจากการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีครั้งแรกในรัฐบาล“เศรษฐา 1” เพราะมีแผลเรื่อง“คดีถุงขนม”ติดตัวอยู่ หากดันทุรังจะให้เป็นรัฐมนตรีตั้งแต่คราวแรกก็จะเสียงานใหญ่ เนื่องจากเกี่ยวพันกับการกลับเข้ามาในประเทศไทยของ“ทักษิณ”โดยไม่ติดคุก เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผน นายพิชิตก็ไม่ใช่อุปสรรคต่อไปอีกแล้ว
นายพิชิต ชื่นบาน นั้น เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะมือกฎหมายของตระกูลชินวัตร ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าทีมทนายความของ“ทักษิณ ชินวัตร” กับคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ต่อสู้“คดีที่ดินรัชดา” และเคยตกเป็นข่าวดัง เมื่อศาลมีคำสั่งจำคุก 6 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล จากกรณีมีข่าวหิ้วถุงขนมใส่เงินสด 2ล้านบาทไปมอบให้เจ้าหน้าที่ธุรการศาล ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อันเป็นคดีเดียวกับที่ทักษิณถูกศาลฯพิพากษาจำคุก 2 ปี ไม่รองลงอาญา ส่วนคุณหญิงพจมานศาลฯสั่งยกฟ้อง
ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร-นายพิชิต ชื่นบาน ซึ่งนอกจากจะเป็นสส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยแล้ว ก็ยังเป็นมือกฎหมายให้แก่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ในการกลั่นกรองระเบียบกฎหมาย และยังเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญเกี่ยวกับการออกกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับ“เหมาเข่ง-สุดซอย”เพื่อช่วยทักษิณที่เป็นนักโทษหนีคดีให้พ้นผิด จนเป็นที่มาของการล่มสลายของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ในปี 2557
การปรับคณะรัฐมนตรีเป็น“เศรษฐา 1/1”ครั้งนี้ ก็เพื่อความเหมาะสมและบังเกิดประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดินของพรรคเพื่อไทย โดยความเห็นชอบของ“นักโทษเทวดา”ที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร เท่านั้นเอง-หาใช่เรื่องอื่นใดไม่ !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี