ถกแถลงเรื่องเศรษฐกิจกันอย่างไรในสมัยรัฐบาลพระยามโนฯ 1
การกล่าวถึงหลักที่ 6 ของคณะราษฎร คือเรื่องเศรษฐกิจมีขึ้นในสภาฯครั้งแรก หลังจากมีสภาฯได้ประมาณสองเดือน สมาชิกสภาฯที่เป็นสมาชิกคณะราษฎร นายบรรจง ศรีจรูญ ได้ถามรัฐบาลเมื่อมีการประชุมครั้งที่ 20 ในวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2475
“ตามที่เราได้ประกาศไว้ว่าเราจะพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจแห่งชาติ และหางานให้ราษฎรได้มีงานทำนั้น บัดนี้เราได้ทำอะไรไว้แล้วบ้าง”
พระยามโนฯชี้แจงว่า รัฐบาลไม่ได้ลืมคำประกาศ แต่รัฐบาลเพิ่งเข้ามาทำงานเพียงสองเดือนเท่านั้น จึงขอร้องว่าอย่าใจร้อน ครั้งนั้นมีสมาชิกสภาฯท่านอื่นได้อภิปรายอีกในประเด็นนี้ เช่น พระยานิติศาสตร์ฯ นายจรูญ สืบแสง และนายมังกร สามเสน รายหลังนี้ แนะนำรัฐบาลว่าให้อัญเชิญพระเจ้าอยู่หัวทรงดำรงตำแหน่งนายกกิตติมศักดิ์ของสภาในเรื่องนี้
“เห็นว่าโครงการเศรษฐกิจที่ได้เสนอไว้ต่อสภานั้นเป็นโครงการใหญ่ ควรจะลงมติพิจารณาว่าควรจะตั้งเป็นสภาเรียกว่าสภาบำรุงเศรษฐกิจแห่งชาติ… จึงอยากขอแนะนำให้คณะกรรมการราษฎรร่างพระราชบัญญัติสภาการเศรษฐกิจแห่งชาติ อัญเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงดำรงตำแหน่งนายกกิตติมศักดิ์ของสภานี้ สุดแท้แต่จะช้าหรือเร็ว และหวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ชาติมากทีเดียว เพราะชาติจะเจริญก็ต้องอาศัยการเศรษฐกิจ”
เมื่อมีคนอภิปรายกันมาก หลวงประดิษฐ์มนูธรรม จึงได้ลุกขึ้น ช่วยชี้แจงแทนพระยามโนฯ
“ตามที่นายมังกร สามเสน ได้แถลงมานั้น ได้เคยทำความเข้าใจให้นายมังกรทราบแล้วว่า ในการที่จะดำเนิรโครงการเศรษฐกิจก็ดีหรือกิจการใดอื่นๆก็ดี เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการราษฎรจะดำเนิร เพราะฉะนั้นโครงการเศรษฐกิจที่นายมังกรนำมาเสนอ จึงขอตรวจดูก่อน อีกอย่างหนึ่งการที่ตั้งสภาเศรษฐกิจแห่งชาตินี้เป็นความประสงค์ ที่ทางคณะกรรมการราษฎรคิดอยู่แล้ว แต่การที่ที่จะตั้งขึ้นโดยทันทีโดยวางทางการยังไม่สำเร็จ ก็จะดำเนินไปไม่ไม่สะดวก เพราะฉะนั้นเมื่อถึงโอกาสสมควรที่ทางฝ่ายคณะกรรมการราษฎรและผู้ที่เริ่มก่อการในชั้นต้น มอบหมายให้เรื่องนี้ได้ไปจัดการแล้ว ก็จะได้จัดการตั้งสภาเศรษฐกิจขึ้นภายหลัง”
ก่อนหน้านี้นายมังกร ได้นำความเห็นโครงการเศรษฐกิจของตนที่เสนอต่อสภาผู้แทนออกเผยแพร่ในหน้าหนังสือพิมพ์มาแล้ว จึงเป็นที่รู้กันอย่างทั่วไป ที่น่าสังเกตก็คือ นายมังกร มิได้เป็นสมาชิกคณะราษฎร ในการอธิบายเรื่องต่อสภาครั้งนี้ หลวงประดิษฐ์ฯได้อภิปรายอย่างกว้างขวาง
“อีกข้อหนึ่งที่สมาชิกบางท่านได้เรียนถามประธานคณะกรรมการราษฎร ถึงเรื่องที่ว่าไม่ได้คิดที่จะบำรุงการเศรษฐกิจนั้น ถ้าระลึกดูในชั้นต้นแล้ว เราได้แบ่งระยะเวลาของเราเป็น 3 ระยะ คือสมมุติว่าเราได้อำนาจแล้ว เราจะพยายามวางหลักของเราก่อน เช่นเด็กกำลังนอนอยู่เมื่อลุกขึ้นมาก็ต้องยืนอยู่กับที่ เมื่อยืนกับที่ได้แน่นอนแล้ว จึงจะก้าวต่อไป เราเพิ่งดำเนินการมาได้เพียง 2 เดือน แต่เราได้ทำกิจการไปแล้วหลายอย่างที่มองไม่เห็นก็มีที่มองเห็นก็มี แต่สิ่งที่มองเห็นนั้นเกี่ยวกับกฎหมาย ส่วนที่มองไม่เห็นและคิดทำอยู่ เราก็ได้ปรึกษาสำหรับผู้ที่เริ่มก่อการและเป็นผู้ที่ได้เล่าเรียนการเศรษฐกิจด้วย เพื่อวางหลักหัวข้อ หลักหัวข้อที่เราได้คิดวางแล้วก็คือ การสหกรณ์ซึ่งไม่เหมือนกับสหกรณ์ดังที่เป็นอยู่ทุกวันนี้”
หลวงประดิษฐ์ฯ ยังกล่าวต่อไปถึงรูปแบบสหกรณ์ที่ได้คิดไว้
“สหกรณ์ที่คิดใหม่ได้วางหลักไว้ครบรูปเป็นสหกรณ์ทั้งในการที่จะทำให้เกิดทรัพย์ หมายความว่า เราจะหาเครื่องมือช่วยเหลือทั้งในทางเทคนิคในการกสิกรรมด้วย และช่วยจนการเคลื่อนที่ หมายความว่าช่วยในการให้สินค้าจำหน่ายไป ตลอดจนการที่จะหาของรับประทานด้วย ซึ่งหมายความว่าเป็นสหกรณ์ที่หมุนรอบตัวโดยครบรูป และตั้งใจไว้ว่าผู้ไม่มีงานทำก็จะหมุนลงไปอยู่ในสหกรณ์ ซึ่งนับว่าเป็นความประสงค์ของเรา”
การถกถามถึงเรื่องเศรษฐกิจในสภาฯ สมัยรัฐบาลพระยามโนฯ สมัยที่ 1 จึงมีอยู่เท่านี้
นรนิติ เศรษฐบุตร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี