“บุคคลแนวหน้า ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า, แนวหน้าออนไลน์/www.naewna.com สื่ออุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้“ไม้หน้าสามย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้างทำความจริงให้ปรากฏ ให้สังคมไทยรู้เท่าทันเล่ห์ทันเหลี่ยม นักการเมืองเสียชาติเกิด, นักเลือกตั้งชังชาติ ส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสี สลิ่มติ่งแดงด้อมส้ม อุปกรณ์ทำการเกษตรที่พร้อมถูกสนตะพายอย่างเท่าเทียม”...
nn มีประกาศในราชกิจจาฯ พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่ ร่วมสองสัปดาห์แต่ยังไม่มีท่าทีจะเดินหน้าปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินอย่างมีระบบระเบียบได้เสียที ล่าสุด “กฤษฎา จีนะวิจารณะ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (โควตาพรรครวมไทยสร้างชาติ) ก็ลาออกจากเก้าอี้ หลัง“กฤษฎา จีนะวิจารณะ” เป็นเฟืองจักรสำคัญในการจัดหารายได้ให้รัฐบาล “หนูน้อยถุงเท้าแดงอย่าง เศรษฐา ทวีสิน”กลับไม่ “สำเหนียก” โดยเฉพาะในห้วงเวลาที่สถานการณ์เศรษฐกิจโลกไม่สู้ดีนัก ทั้ง “จักรวรรดินิยมอินทรี” ทั้ง “หลังม่านไม้ไผ่–สาธารณรัฐประชาชนจีน”...
nn สภาพ “เศรษฐกิจอเมริกัน” มีแนวโน้มชะลอตัวลงตามการลงทุน ภาคเอกชนที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง มีแนวโน้มชะลอตัวลงตามการลงทุนภาคเอกชนที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วน “เศรษฐกิจจีน” มีแนวโน้มชะลอตัวลงตามการลงทุนภาคเอกชนที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มได้รับแรงสนับสนุนจากการดำเนินนโยบายทางการคลัง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการออกพันธบัตรรัฐบาลขณะที่ “เศรษฐกิจไทย” ยังมะงุมมะงาหรากับความพยายามกู้เงิน 500,000 ล้านบาท มาหาผลประโยชน์กับการสร้าง “พายุหมุนทางเศรษฐกิจ” ซึ่งที่สุดแล้วจะกระตุ้น “จีดีพี” ได้แค่1–1.5% เท่านั้นท่ามกลางความดื้อด้านไม่ฟังใครของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งได้รับการติติงเสนอแนะจากธนาคารกลาง (ธนาคารแห่งประเทศไทย), นักวิชาการ, ภาคเอกชน จนคนในรัฐบาลที่ไม่เคย“ตักน้ำใส่กะโหลก”ออกมาวิพากษ์ประณาม “ธนาคารกลาง” ว่าเป็นอุปสรรคมากในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ พร้อมชี้ช่องที่จะแก้ไขกฎหมายลดความเป็นอิสระของธนาคารกลาง...
nn กลัวทัวร์จะพา “นางปราชญ์แสนรู้เพื่อไทย” ลงนรก…“บิ๊กอ้วน–ภูมิธรรม เวชยชัย”ผู้อาวุโสพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน…ติ่งสัมภเวสีผู้ภักดี “นายใหญ่” พลีชีพจัดการ “ถอดสูทมูฟออน” สังคมไทยไป สาละวนดราม่าเพื่อไทยการละครกับ “การยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว” หยิบ “ข้าวการเมือง”ออกมาให้สังคมไทยได้ “แอ๊กชั่น” ข้าวขาวเก่าเก็บ 10 ปี หุงกินได้นุ่มอร่อย จะนำออกขายให้ประเทศแถบแอฟริกาใต้สร้างได้เข้ารัฐอย่างน้อยๆ 400 ล้านบาท ทำงี้ได้จริงหรือ ไม่ใช่ยืนแล้วเห็นชนชาติแอฟริกาใต้ในกระจก เลยคิดว่าเขาเขลาแบบเดียวกับ “หัวหน้าพรรคเพื่อไทย” จะซื้อขายเก่าเก็บ 10 ปีฉีดยาป้องกันแมลงไร้กระดูกสันหลังและป้องกันเชื้อราแบบ “เกลือจิ้มเกลือ” โดยฉีด “อะฟลาท็อกซิน”ไม่น้อยกว่า 60 ครั้ง ซึ่งเป็นเชื้อราที่ผลิตสารตัวนี้ออกมา เป็นสารก่อมะเร็งที่ไม่แสดงในระยะเริ่มต้นแต่จะแสดงในระยะสุดท้าย “ไม้หน้าสาม”คิดว่าประชากรในทวีปแอฟริกาใต้ไม่ได้ดำรงชีวิตจากการกินหญ้าอย่างที่นักการเมืองบ้านเรามีพฤติกรรม…แค่มีข่าวว่ารัฐบาลสติปัญญาบรรเจิดจะนำข้าวเก่าเก็บนี้ออกสู่ตลาดไม่คิดว่าต่างประเทศจะตรวจสอบคุณภาพข้าวลอตนี้อย่างนั้นหรือ หากเกิดกรณี “ปลาร่วมข้อง” ตายแค่ตัวเดียวหม็นเน่าทั้งระบบ จะรับผิดชอบ ตลาดข้าวไทยที่เคยเสียหายจาก “โครงการจำนำข้าวทุกเม็ด” มาแล้วกันอย่างไร?? หนีออกนอกประเทศรอเวลากลับมาอย่างเท่ๆ เยี่ยงนั้นหรือ...
nn เมื่อรู้อยู่ว่า “ข้าวเก่าเก็บเกินปกติ…กินไม่ได้เสี่ยงต่อสุขภาพร่างกาย” รัฐบาลควร “สำเหนียก/เลิกตะแบง” ตั้งสติแล้วคิดอีกทีว่าควรจะดำเนินการอย่างกับข้าวลอตนี้จึงจะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคมไทย…ข้อเสนอนำไปผลิตเป็น “แอลกอฮอล์” นั้นน่าสนใจยิ่งในภาวะที่ราคาพลังงานเชื้อเพลิงในประเทศมีราคาสูง รัฐบาลยังไม่สมรรถภาพในการแก้ไขปัญหาโครงสร้าง การมีแอลกอฮอล์ตุนไว้เพื่อผลิตเอทานอล ซึ่งมีค่าออกเทนสูงนำไปผสมกับน้ำมันเบนซินเป็น “น้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์”, ผสมกับน้ำมันดีเซล เรียกว่า “น้ำมันดีโซฮอล์” ใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ เพื่อใช้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง, ก๊าซโซลีน, ใช้ในการผลิตยา, เป็นตัวทำละลาย, ใช้เป็นตัวกลางในการถ่ายเทความร้อน, ใช้ในการผลิตเครื่องสำอาง น่าจะช่วยให้ราคาน้ำมันในประเทศปรับตัวลดลงได้ ไม่ดีกว่าหรือ...
nn เอาให้เท่ครับ “บิ๊กอ้วน ยอดมะพร้าว/ภูมิธรรม เวชยชัย” ในฐานะผู้อาวุโสในพรรคเพื่อไทย ในพรรคร่วมฝ่ายค้าน รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 สมควรอย่างยิ่งที่จะเอาข้าวเก่าเก็บคุณภาพเลิศที่ท่านนำมาหุงกินโชว์สาธารณะไปบรรจุถุงจำหน่ายถุงละ 15 กิโลกรัมนำมาบังคับขายแก่ท่านผู้ทรงเกียรติพรรคเพื่อไทยและ พรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ รายละ 3 ถุง ในสนนราคาที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดขึ้นเฉพาะนำไปให้ร้านค้าสวัสดิการรัฐสภานำมาหุงหาให้ท่านผู้ทรงเกียรติได้รับประทานในวันที่มาปฏิบัติหน้าที่ “อัฐยายซื้อขนมยาย” ก็น่าจะสร้างความมั่นใจได้อีกระดับว่า “ข้าวเก่าเก็บคุณภาพพิเศษนี้ ทานได้จริงสร้างคุณประโยชน์แก่สังคมไทยในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทยได้เป็นอย่างดี”… “ไม้หน้าสาม” ว่าดีกว่าแนวคิด “สุทิน ชินแล้ว” ที่มองเห็นคุณค่าคนไทยที่เข้ามาใช้ชีวิตในค่ายทหารตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญต่ำเกินความเป็นจริง จะให้นำ “ข้าวลอตนี้” ไปแบ่งสรรตามค่ายทหารให้ทหารเกณฑ์รับประทานใจร้ายไปไหมท่านรัฐมนตรี...
nn ทิ้งท้ายฉบับนี้“ไม้หน้าสาม” ฝากไว้ว่า “อารมณ์ คือ ปัญหา…สติปัญญา คือ ทางออก” การใช้อารมณ์ มักเป็นตัวเริ่มต้นปัญหาต่างๆ ของมนุษย์ การใช้สติปัญญา ก่อนที่จะเกิดอารมณ์ไม่ดีต่อกัน ย่อมจะเป็นหนทางที่ดี ทั้งในการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาและการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างถูกต้อง รัฐบาลจงสำเหนียกเถิดว่า “ชีวิต” มีค่ากว่า “อารมณ์”...nn
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี