วันอาทิตย์ ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ในแวดวงการเมืองต่างๆ เรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นแทบจะเป็นของคู่บ้านคู่เมือง เพราะเมื่อใครมีอำนาจ สิ่งเย้ายวนใจก็ระดมเข้ามา ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็มิอาจจะต้านทานได้ ก่อนจะหลงใหลเคลิบเคลิ้มไปกับการแอบฉกแอบฉวย ไปกับทรัพย์สินเงินทองของบ้านเมือง ซึ่งเป็นการบ่อนทำลายชาติ และทรยศต่อประชาชนพลเมือง ที่ได้มอบอำนาจให้ดูแลบ้านเมืองและฝากผีฝากไข้ไว้
ส่วนการจะต่อสู้กับการทุจริตคอร์รัปชั่นนั้นก็คงต้องขึ้นอยู่กับจิตสำนึก ความรู้สึกผิดชอบ และความละอายใจ หรือไม่ก็มีอุดมคติ อุดมการณ์ ที่จะมุ่งแก้ไขประเด็นปัญหาของการทุจริตและการขจัดมันไป บางส่วนบางคนก็ยอมรับการคงอยู่ของการทุจริตคอร์รัปชั่น เพราะเชื่อว่าไม่สามารถที่จะแก้ไขอะไรได้ ก็อยู่กับมันแล้วก็ประคับประคองมันต่อไป บางส่วนบางคนก็กลับเห็นว่าการทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นหนทางที่จะต่อยอดหรือสานต่อซึ่งอำนาจและอิทธิพล ที่จะอำนวยให้อยู่เหนือเงื้อมมือของกฎหมายบ้านเมืองและศีลธรรมอันดีงาม
ณ วันนี้ ชาวโลกกำลังจับตามองไปที่ประเทศจีน และประเทศเวียดนามอย่างสนอกสนใจ ด้วยความน่าทึ่งเร้าใจ แม้ว่าประเทศทั้งสองจะมีระบบระบอบการเมืองการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ มีพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียวเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในการกำหนด ชี้ทาง และควบคุมความเป็นไปในสังคม และเพื่อที่จะให้พรรคประสบความสำเร็จในการบริหารบ้านเมือง พรรคจะต้องมีความเข้มแข็ง เอาจริงเอาจังกับภาระหน้าที่ เพื่อเสริมสร้างความน่าเกรงขามและความน่าเชื่อถือให้กับประชาชนพลเมืองด้วยผลงานของการนำมาซึ่งความสงบเรียบร้อยและความเจริญก้าวหน้า
พรรคคอมมิวนิสต์จีน และพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามนั้น ไม่มีคู่ต่อสู้ทางการเมืองใดๆ ไม่ว่าจะเป็นไปในรูปแบบของพรรคการเมืองอื่นๆ หรือขบวนการเคลื่อนไหวทางการเมือง หรืออุดมการณ์ลัทธิความเชื่อทางด้านชาติพันธุ์ หรือความเชื่อถือทางศาสนา จัดได้ว่าพรรคการเมืองทั้งสองไม่มีคู่ต่อสู้แต่อย่างใด
แต่สิ่งหนึ่งที่พรรคการเมืองทั้งสองต่างตระหนักเหมือนกันก็คือ ภยันตรายที่กัดกร่อนจากภายใน ที่สามารถจะทำลายความมั่นคง และความขลังของพรรคได้ และคู่ขนานกันไปก็เป็นการบ่อนทำลายสังคมไปในตัวด้วย นั่นคือเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งหากไม่แก้ไขให้ทันการทันท่วงทีอย่างเด็ดขาด ก็จะนำมาซึ่งความล่มสลายของพรรค และความปั่นป่วนโกลาหลในสังคมบ้านเมืองด้วย และฉะนั้นทั้งสองพรรคการเมืองโดยผู้นำ เช่น สี จิ้นผิง เลขาธิการพรรค ในกรณีของจีน และเหงียน ฟู้ จ่อง เลขาธิการพรรค ในกรณีของเวียดนาม ก็ได้ตั้งปณิธานอันแน่วแน่ที่จะขจัดการทุจริตคอร์รัปชั่นภายในพรรคเป็นการเฉพาะ และภายในสังคมเป็นการทั่วไป ชาวโลกจึงได้เห็นปรากฏการณ์ของการปลดเจ้าหน้าที่ตำแหน่งในระดับสูง ไปจนถึงระดับล่างๆ อย่างมากมาย ทั้งในประเทศจีน และในประเทศเวียดนาม
การทุจริตคอร์รัปชั่นจึงเป็นศัตรูของพรรคและของสังคมประเทศชาติ และความสำเร็จในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นก็คือ การคงอยู่อย่างยั่งยืนถาวรของพรรค
เมื่อมองผ่านประเทศจีน และประเทศเวียดนามไปยังประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่ก็จะมีระบบการมืองแบบหลายๆ พรรคแข่งขันกัน เพื่อเข้าสู่อำนาจรัฐโดยพรรคใหญ่พรรคเดียวที่ได้คะแนนเกินกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนที่นั่งในรัฐสภา หรือเป็นหลายๆ พรรคร่วมกันเป็นรัฐบาลผสม แต่ข่าวคราวเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่นกลับมีอยู่อย่างค่อนข้างมากและสม่ำเสมอ ซึ่งก็ยังไม่มีพรรคการเมืองใดๆ ได้ออกมาประกาศเป็นนโยบายพรรคและคำมั่นสัญญาต่อประชาชนพลเมืองว่า จะมุ่งขจัดการทุจริตคอร์รัปชั่น อย่างเก่งก็แค่พูดจาบอกกล่าวว่า จะบริหารประเทศด้วยหลักธรรมาภิบาล ไม่มีพรรคการเมืองใดๆ ดูจะเด็ดเดี่ยวเท่ากับพรรคคอมมิวนิสต์จีนและพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามดังกล่าว
ก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้?
คำตอบก็คงประมาณได้ว่า พวกพรรคการเมืองและผู้นำเหล่านั้นยังไม่ได้คิด ไม่เคยคิด ไม่อยากคิด และไม่กล้าที่จะคิดเพื่อผูกมัดตนเอง แต่ถ้าจะเดาความกันจริงๆ แล้ว ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า พรรคการเมืองทั้งหลายนั้น ภายใต้จิตสำนึกก็อยากจะเปิดช่องเล็กๆ น้อยๆ ไว้ เพื่อหาประโยชน์ หาเบี้ยบ้ายรายทางแบบตามน้ำ ที่อาจไม่ขัดต่อข้อกฎหมาย แต่อาจขัดกับหลักธรรม ซึ่งก็พอจะทำไม่รู้ไม่ชี้ไปได้ และไม่ต้องเผชิญกับการลงโทษ เพราะไม่มีผู้ที่จะลงโทษ
บางพรรคการเมืองก็อาจจะมีความคิดชั่วร้ายอยู่ในตัว เพราะการคิดที่จะเข้ามาหาประโยชน์ด้วยการทุจริตคอร์รัปชั่นจากอำนาจ ตำแหน่งหน้าที่ จะได้เพิ่มพลัง และต่อยอดผลประโยชน์ให้กับตัวเองได้
แต่พวกเราประชาชนพลเมืองก็มีสิทธิและหน้าที่ที่จะต้องร่วมกันขจัดการทุจริตคอร์รัปชั่น เพราะเป็นประโยชน์ต่อตัวพวกเราเอง ซึ่งก็เริ่มต้นด้วยการที่พวกเราทุกคนไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น ไม่โอนอ่อนต่อการทุจริตคอร์รัปชั่น และการสอดส่อง เรียกร้อง และบีบคั้น ให้ผู้ที่อยู่ในแวดวงการเมืองและแวดวงราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ ประพฤติตนที่ชอบที่ควรเป็นสำคัญ เราควรมาร่วมกันแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองและพัฒนาบ้านเมืองในบริบทของเสรีภาพและการมีส่วนร่วม ซึ่งจะดีกว่าการไปตกอยู่ในอาณัติของพรรคเดียวเผด็จการ ซึ่งมีนัยว่าต้องปราบการทุจริตคอร์รัปชั่นเพื่อการอยู่รอดของตนเองเป็นอันดับแรก มากกว่าการเสริมสร้างความดีงามและความเจริญก้าวหน้าให้กับสังคมประเทศชาติ
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com

‘คุณน้ำผึ้ง’เที่ยวเจาะลึก Unseen สามพันโบก
‘หนุ่ม-แท่ง’ พาทัวร์ ‘วัดสารนารถธรรมาราม’ สักการะคุณแม่บุญเรือน อร่อยกับอาหารทะเล จ.ระยอง
‘ลุค อิชิคาว่า’ นำทีมนักแสดง ‘Rock and Soul จังหวะร็อก ปาฏิหาริย์รัก’ เปิดคาแรกเตอร์ในจอ สู่ตัวจริงนอกจอ
‘มิตรรัก ทั่วไทย’ พาเที่ยวเมืองโอ่งมังกร จ.ราชบุรี
'อ.เจษฎ์'มาเอง! เปิด7ข้อเคลียร์ความเชื่อผิดๆปมดื่มนมไทย เปิดวาร์ปนมไทยที่เป็นนมโคแท้

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี