วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / เส้นใต้บรรทัด
เส้นใต้บรรทัด

เส้นใต้บรรทัด

จิตกร บุษบา
วันอาทิตย์ ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2567, 02.00 น.
ปริศนาการมาของ ‘วิษณุ เครืองาม’

ดูทั้งหมด

  •  

ในที่สุด นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ก็ตั้ง “นายวิษณุ เครืองาม”เจ้าของฉายา “เนติบริกร” เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ท่ามกลางความกังขาของสังคมการเมืองและประชาชน ตลอดจนนักวิชาการและนักวิเคราะห์ทั้งหลายว่า อะไรคือน้ำหนักสำคัญที่ทำให้นายวิษณุถึงกับยอมลากสังขารที่อ่อนล้ากับการฟอกไต มาทำงานให้รัฐบาลนี้ในตอนนี้

1) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลกล่าวถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีว่า ต้องมองว่าที่ผ่านมาคืออะไร ซึ่งมีข้อท้วงติงมาตลอดของปัญหาด้านกฎหมายต่างๆ แสดงว่าสิ่งที่หลายฝ่ายตั้งคำถามว่าพรรคเพื่อไทยขาดมือกฎหมาย ขาดคนที่จะให้ความเข้าใจในเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อผลักดันนโยบาย


“มันอาจจะขาดจริงๆ เป็นเรื่องที่เข้าใจถูกต้อง สุดท้ายไม่รู้จะเอาใคร ต้องไปยืมมือนายวิษณุเหมือนเดิม พูดง่ายๆ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยืมมือนายวิษณุ รัฐบาลนายเศรษฐาก็ยืมมือนายวิษณุ สุดท้ายไหนบอกว่ามีความพร้อมในการบริหารงานบริหารประเทศ ผมมองว่าเป็นเรื่องของเหล้าเก่าในขวดใหม่ ไม่มีอะไรแตกต่างจากเดิม ในเรื่องนี้ทำให้เห็นว่ารัฐบาลนายเศรษฐาขาดเอกภาพ ไม่มีความพร้อมในด้านการบริหารงานจริงๆ สุดท้ายต้องใช้บริการในวิษณุที่มีส่วนช่วยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเป็นแบบนั้น”นายรังสิมันต์ ระบุ

เมื่อถามว่า มองว่าเป็นเรื่องใหญ่ของรัฐบาลหรือไม่ที่ขาดมือกฎหมาย นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เป็นเรื่องใหญ่ ทำให้เกิดคำถามว่าที่ผ่านมา ปัญหาข้อกฎหมายมีอยู่จริงหรือไม่ ถือเป็นประเด็น แต่ที่เป็นประเด็นใหญ่ คือ รัฐบาลนายเศรษฐา โดยเฉพาะนายเศรษฐาวิพากษ์วิจารณ์นายวิษณุในหลายโอกาส แต่ถึงเวลาทำเหมือนว่า เรื่องเหล่านั้นไม่เคยเกิดขึ้น ไปบอกว่าเป็นเรื่องของความไม่ใช่เรื่องของคน ตนบอกว่าเป็นวิธีการที่จะหลบเลี่ยง สุดท้ายอาจจะไม่ใช่ ให้มาดูแค่เรื่องกฎหมายในคณะรัฐมนตรี แต่นายเศรษฐาจะถูกดำเนินคดีหรือไม่ ตนเองกำลังถูกแขวนอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ ที่ตนพูดแบบนี้ไม่ใช่ว่าสนับสนุนในสิ่งที่นายเศรษฐาโดน การเมืองควรแก้ด้วยการเมือง แต่ปัญหาคือจุดนั้นหรือไม่ที่ทำให้ต้องเชิญนายวิษณุเข้ามา ตนเชื่อว่าสังคมจำนวนไม่น้อยก็จะตั้งคำถามว่า การที่นายวิษณุ เข้ามาคือมีภารกิจทำให้ นายเศรษฐา รอดจากคดีในศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อถามย้ำว่า มองว่าไม่ใช่ให้นายวิษณุเข้ามาเพื่อกลั่นกรองกฎหมายก่อนเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใช่หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่าทางปฏิบัติจะทำได้แค่ไหน เพราะนายวิษณุก็สุขภาพไม่ดี ซึ่งอาจจะช่วย แต่ช่วยร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่ ตนตอบไม่ได้

“แต่สิ่งที่มองคือ นายเศรษฐา ไม่ไว้วางใจฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทยอีกแล้ว จึงทำให้ไม่รู้จะไปหาทางออกอย่างไรจึงต้องไปยืมเนติบริกรที่มีผลงานในหลายรัฐบาล คือนายวิษณุ พูดง่ายๆ ก็คือการันตีของแทร่” นายรังสิมันต์ ย้ำ เมื่อถามว่า จะกระทบกับเครดิตของพรรคเพื่อไทยและนายเศรษฐาหรือไม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายรังสิมันต์ กล่าวว่าต้องดูว่านายเศรษฐายังมีเครดิตมากแค่ไหน ตนขอให้ชวนคิดตนไม่อยากจะให้ความเห็นตรงนั้นมาก วันนี้สังคมก็มองรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจับมือกับหลายพรรคการเมืองที่เคยร่วมรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ มาก่อนและเป็นพรรคของ พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยซ้ำ

“พอมาวันนี้มาตั้งนายวิษณุ แม้จะไม่ได้เป็นรองนายกรัฐมนตรี แต่ต้องยอมรับว่ามีบทบาทคล้ายรองนายกรัฐมนตรี ทำให้คนในสังคมมองว่า คนในรัฐบาลนี้ไม่ต่างจากรัฐบาลเดิมสักเท่าไหร่ แล้วที่เคยพูดว่ามีความพร้อมในการบริหารงาน ยังพร้อมบริหารงานอยู่หรือไม่ สุดท้ายจะเกิดคำถามเรื่องความเป็นเอกภาพภายในพรรคเพื่อไทยว่า นายเศรษฐา ไม่เชื่อมือนายชูศักดิ์ ศิรินิล มือกฎหมายของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ จึงต้องนำนายวิษณุเข้ามาเป็นเนติบริกร” นายรังสิมันต์ กล่าว

2) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่าก่อนหน้านี้นายกฯไปทาบทามให้เป็นรองนายกรัฐมนตรี ว่า อย่างที่ตนเรียนการคุยกันระหว่างตนกับท่านให้อยู่ระหว่างตนกับท่านดีกว่า ซึ่งตนได้ไปหาท่านจริง

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลต้องหารองนายกรัฐมนตรี เข้ามาเพิ่มหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คนละประเด็น ไม่เกี่ยว

เมื่อถามถึงกรณีที่ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล มองว่าการที่นายกฯเชิญนายวิษณุ มาเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย เป็นเพราะไม่เชื่อมั่นทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ใช่หรือไม่ ซึ่งยังมีนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เป็นมือกฎหมาย

นายกฯ ย้อนถามว่า “ถามผมหรือถามใคร” ก่อนกล่าวอีกว่า แต่ก็เป็นเรื่องของเขาไป ถ้าถามตนในสภาก็จะตอบในสภา แต่ถ้าเป็นคอมเมนท์แบบนี้ ตนไม่ขอตอบ ถือว่าเป็นความเห็นส่วนตัว

เมื่อถามว่าให้นายวิษณุ มาดูกฎหมายทั่วไปใช่หรือไม่นายกฯ กล่าวว่า เป็นไปตามที่คำสั่งได้ออกไปทุกอย่าง

3) นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีว่าในฐานะที่ตนเป็นนิสิตเก่าคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คือเป็นลูกศิษย์ของนายวิษณุซึ่งตนสอบได้คะแนน 98 คะแนนจาก 100 คะแนน ในวิชากฎหมายของนายวิษณุ จนนายวิษณุให้เกียรติโดยเอาชื่อของตนไปใส่ในปัญหาตุ๊กตา ในตำรากฎหมายที่นายวิษณุแต่งเล่มหนึ่ง และในสมัยนั้นตนก็เป็นกรรมการนิสิตคณะนิติศาสตร์ โดยนายวิษณุเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา และตนได้ปรึกษากับนายวิษณุบ่อยครั้ง

“ผมเห็นท่านในจอสื่อ ผมก็อดเป็นห่วงสุขภาพท่านไม่ได้ผมก็ไม่ทราบจะหาช่องทางติดต่อท่านทางใด เบอร์โทรหรือไลน์ท่าน ผมก็ไม่มี จึงขอฝากสื่อมวลชนไปถึงอาจารย์วิษณุในฐานะศิษย์เก่าของท่าน ว่า ขอร้องให้อาจารย์วิษณุปล่อยวางทางการเมืองเสียที ในโลกนี้ทุกเรื่องไม่มีใครที่ขาดใครคนใดคนหนึ่งไปไม่ได้ ต้องมีคนรุ่นใหม่แทนจนได้ อาจารย์วิษณุอย่าไปเชื่อหากมีคนมาบอกท่านว่ารัฐบาลนี้ขาดท่านไปไม่ได้” นายจุลพงศ์ กล่าว

และว่า นายวิษณุ ชอบยกคำบาลีในพระพุทธศาสนามาให้ข้อคิดแก่ผู้อื่น ตนจึงขอยกเรื่องที่ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าเคยตอบคำถามว่าอะไรคือสิ่งที่เมื่อคนย้อนนึกถึงอดีตแล้ว จะทำให้คนเสียใจมากที่สุด พระพุทธเจ้าทรงตอบว่า สิ่งที่ทำให้คนเสียใจมากที่สุดคือการที่คนคิดว่าตนเองนั้นมีเวลา “เวลาของอาจารย์วิษณุยังไม่หมด แต่ผมขออนุญาตเรียนไปยังอาจารย์วิษณุว่าแม้ท่านจะลงเรือแป๊ะมาแล้ว ตอนนี้ผมไม่ได้ห่วงว่าท่านจะล่มไปพร้อมกับเรือนิด แต่ผมเป็นห่วงสุขภาพของท่าน จึงขอให้อาจารย์วิษณุใช้เวลาในปัจจุบัน ไปรักษาสุขภาพให้แข็งแรงจะดีกว่า และหาความสุขเดินทางท่องเที่ยวที่ท่านชอบตามวัยของท่าน” นายจุลพงศ์ กล่าว

4) นายวิษณุ เครืองาม ชี้แจงว่า ที่ผ่านมานายกฯมาพบตน มาขอให้ไปช่วย ตนก็ได้บอกไปว่าสุขภาพไม่ดีเปิดพุงให้นายกฯดูด้วยและที่สำคัญ 3 ข้อที่ตนปฏิเสธไป 1.คือปัญหาสุขภาพ เมื่อก่อนเป็นแค่ไตอย่างเดียว วันนี้มีปัญหาเรื่องตาด้วยเพิ่งไปลอกตามา 2.ช่วง 10 เดือนที่ตนห่างหายไปก็ไปรับงานอื่นหลายอย่าง หากต้องลาออกไปงานเขาก็จะเสีย นอกจากนี้ 3.มีเรื่องที่เกี่ยวกับปัญหาในบ้านที่ต้องจัดการเลี้ยงหลานเลี้ยงลูกเดิมวางแผนไว้อย่างนั้น แต่นายกฯบอกว่าถ้าเป็นอย่างนั้นให้ตนมาเป็นที่ปรึกษาก็ได้ โดยไม่ต้องทำอะไรมากมาย ตนก็ได้แจ้งไปว่าไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวกับการยื่นบัญชีทรัพย์สิน นายกฯเลยบอกว่าไม่ต้องเป็นที่ปรึกษานายกฯตามตำแหน่ง โดยที่ปรึกษามี 2 แบบ คือที่ปรึกษาโดยเจาะจงที่มี 5 คนและตั้งไปครบแล้วตนไม่ยอมเป็นอันนั้นแน่เพราะการเป็นข้าราชการการเมืองต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน แต่มีที่ปรึกษาอีกเยอะที่สามารถตั้งได้ อย่างที่นายกฯเคยตั้งนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และอีกหลายคน

นายกฯ เลยบอกให้มาเป็นที่ปรึกษาแบบนี้ ที่ไม่มีห้องทำงาน ไม่มีรถประจำตำแหน่ง ไม่มีเงินประจำตำแหน่งมีแต่เบี้ยประชุม และได้ขอให้ช่วยทำในบางเรื่องที่รัฐบาลมีปัญหาซึ่งตนก็ได้ถามไปเหมือนกันว่าทุกวันนี้มีปัญหาอะไรก็เห็นทำได้ดีอยู่ แต่นายกฯบอกว่ามีปัญหาอยู่เหมือนกันเพราะบางทีเกิดความไม่แน่นอนขึ้นมา และในคณะรัฐมนตรีไม่มีนักกฎหมาย บางทีก็มีการทักท้วงกันระหว่างผู้ไม่รู้กับผู้ไม่รู้ หรือบางครั้งก็มีการทักท้วงจากคนข้างนอก เพราะฉะนั้นนายกฯ เลยบอกว่าอาจจะส่งประเด็นที่มีการทักท้วงการให้ตนดูก่อนซึ่งตนก็บอกว่าหากเป็นเช่นนั้นก็ได้ ให้เป็นที่ปรึกษาสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้วกันจะได้ไม่โลว์โปรไฟล์ และตนจะช่วยดูวาระคณะรัฐมนตรีที่สำคัญบางเรื่องซึ่งนายกฯ บอกว่าก็ได้

นายวิษณุกล่าวต่อว่า ตอนหลังมีคนมาบอกตนว่าได้ไปคุยกับบรรดาหัวหน้าพรรคการเมืองทั้งหลายและเขาอยากให้ตนเข้ามานั่งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีด้วย คอยยกมือ
อาจจะท้วงหรือแถมในระหว่างประชุมจะได้ไม่เสียเวลาไม่เช่นนั้นหากมีมติไปก่อนแล้วไปเช็คทีหลัง ตนก็ทักท้วงไปว่าในที่ประชุมมีกฤษฎีกา มีกระทรวงยุติธรรมอยู่ก็น่าจะช่วยได้ รัฐมนตรีหลายคนก็เป็นนักกฎหมาย เช่นนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและรมว.พลังงาน นายกฯ บอกว่าบางเรื่องเป็นอย่างนั้นได้ แต่บางเรื่องรัฐบาลต้องการความเห็นที่กลางๆกรณีนายพีระพันธุ์ ถ้าพูดอะไรในขณะที่เป็นรมว.พลังงาน ด้วยมันจะลำบาก ตนจึงบอกว่าแล้วแต่นายกฯไปจัดการแต่ได้แจ้งไปว่า หากนายกฯ สามารถหารองนายกฯที่ช่วยดูเรื่องนี้ได้เมื่อไหร่ตนก็จะขอกลับไปทำงานอย่างเดิม

เมื่อถามว่าสรุปแล้วตำแหน่งที่รับเป็นที่ปรึกษาสลค. หรือที่ปรึกษาของนายกฯ นายวิษณุกล่าวว่า ตอนแรกเป็นที่ปรึกษาสลค.แต่มีอุปสรรคหลายอย่าง เช่น จ่ายเบี้ยประชุมไม่ได้ และไม่มีสิทธิเข้าไปดูเอกสารและเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี ตนก็เลยได้ยินว่าจะให้ตนเป็นที่ปรึกษาของนายกฯ ความจริงการเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีไม่มีปัญหาใครเข้าก็ได้ แต่ถ้าเป็นที่ปรึกษาสลค.จะพูดอะไรไม่ได้ แต่การเป็นที่ปรึกษาของนายกฯสามารถพูดได้

เมื่อถามว่าการเข้ามาครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับการที่ 40 สว.ยื่นสอบคุณสมบัตินายกฯใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวอะไรเลย เมื่อถามย้ำว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่นายกฯจะปรึกษาเรื่องนี้ นายวิษณุกล่าวว่า เป็นไปได้ และคงต้องทำอยู่แล้ว เพราะเวลาเขามีอะไรเขาก็ต้องปรึกษา สมัย พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา เป็นนายกฯมีคดีความก็ส่งมาให้ตนดู แต่ยืนยันกรณี 40 สว. ตนไม่เป็นหัวขบวน นายพิชิต ชื่นบาน อดีตรมต.ประจำสำนักนายกฯ เป็นเจ้าของเรื่อง มีทนายมีกฤษฎีกา อัยการ ช่วยทำให้ แต่การที่มีหลายทีมอาจทำให้มีความคิดเห็นขัดกัน จึงให้ตนเข้าไปช่วยดูด้วยว่าแต่ละคนที่มีความเห็นคนละด้านจะนำมาผสมกลมกลืนอย่างไร

เมื่อถามว่าเท่าที่ดูคิดว่านายเศรษฐาจะสู้คดีได้หรือไม่นายวิษณุกล่าวว่า ยังไม่อยากตอบตอนนี้เพราะยังไม่เห็นคำร้องของ 40 สว.ว่าเป็นอย่างไร แต่ถ้าจะพูดให้สื่อมีความหวังก็ขอตอบว่ามันก็มีหนทางที่จะสู้คดีอยู่ สู้แล้วชนะหรือไม่ ไม่รู้ แต่เอาเป็นว่ามีโอกาสที่จะสู้คดีได้แต่จะฟังขึ้นหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าการที่เข้ามาอาจต้องดูเรื่องที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯจะกลับมา และคดีของนายทักษิณด้วย นายวิษณุ กล่าวว่าไม่จริง เพราะ
ความจริงการจะเอาน.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับมาไม่ยากเลย ซื้อตั๋วส่งไปให้แกก็กลับมาได้แล้ว ปัญหาคือมาแล้วต้องถูกจำคุก 5 ปีตามที่ศาลตัดสินไว้ แล้วตนจะไปช่วยอะไรตรงนี้ได้ หรือกรณีของนายทักษิณก็ไม่มีใครช่วยอะไรได้ ที่ผ่านมาเพราะนายทักษิณ ได้รับพระราชทานอภัยลดโทษแล้วตนจะไปช่วยอะไรได้เขาก็ต้องทำของเขาเอง

เมื่อถามว่า การประสานให้เข้ามาทำงานกับรัฐบาลครั้งนี้ มีกระแสข่าวว่ามาจากขั้วอำนาจเดิมโดยเฉพาะจาก“ปลัด ฉ.” นายวิษณุกล่าวว่า ไม่เกี่ยวเลย เมื่อถามว่ารู้จักปลัด ฉ. หรือไม่ นายวิษณุตอบว่าปลัดฉิ่ง (นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย) หรือตนรู้จักดีแต่ไม่ได้เป็นคนประสาน เพราะคนที่ประสานคือนายกฯ โดยนายกฯโทรศัพท์มาตั้งแต่อยู่ที่อิตาลีว่ากลับมาแล้วจะมาพบ แต่ไม่รู้ว่ามีใครไปบอกกับท่านหรือไม่ ที่สำคัญเรื่องนี้ไม่เคยติดต่อกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรีเพราะท่านไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแล้ว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ไม่ได้ติดต่อ

เมื่อถามอีกว่าหลังมีข่าวออกมา โซเชียลได้ไปขุดคำพูดของนายกฯ ที่กล่าวถึงนายวิษณุว่าไม่มียางอาย นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่ติดใจอันนี้เหมือนที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯก็เคยพูดถึงตนไว้ ตอนนั้นตนก็แลกไปคนละหมัดแล้ว เมื่อถามอีกว่านายเศรษฐาระบุว่าเป็นการว่าที่ความไม่ใช่ว่าที่คนนายวิษณุกล่าวว่า “อันนี้จริง นายกฯก็พูดกับผมแบบนี้เช่นกันนายกฯบอกว่าเราเอาความเป็นใหญ่ และผมรู้จักนายเศรษฐามาก่อน นานแล้ว”

เมื่อถามอีกว่าทำไมถึงใจอ่อน เพราะคนในโซเชียลก็โจมตีว่าเป็นการตระบัดสัตย์ นายวิษณุกล่าวว่า “ก็ผมไม่รับไงเพราะถ้าผมตระบัดสัตย์ผมก็เป็นรองนายกฯ ไปแล้ว ผมอุตส่าห์เขียนหนังสือ “ทะเลกับหาดทราย” วันหนึ่งทะเลซึ่งก็คือการเมืองมันคงขึ้นมาซัดทรายอยู่เรื่อยๆ ที่หมอดูเคยทายเอาไว้วันนี้ก็มาถึง แต่ให้เป็นรองนายกฯผมไม่เป็น เพราะเคยบอกแล้วว่าใครมาชวนจะเปิดสะดือให้ดูแล้วก็เปิดให้ดูจริงๆ และผมไม่หนักใจการวิจารณ์ในโซเชียล ระบอบประชาธิปไตยใครจะว่าอะไรก็ว่าไปข้อสำคัญ สุทธิ อสุทธิ ปัจจัตตัง บริสุทธิ์ ที่ไม่บริสุทธิ์ใจ ย่อมรู้อยู่แก่ตัวเอง”

เมื่อถามว่าถ้ายังไม่มีรองนายกฯด้านกฎหมายก็จะนั่งตำแหน่งนี้ยาวเลยใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ไปถึงจังหวะพอสมควร ถ้านานไปตนก็มีเหตุผลร้อยแปดที่จะบอกนายกฯ

สรุป : ปฏิสธไม่ได้ว่า นายวิษณุนั้นเชี่ยวชาญทั้งกฎหมาย การเมือง และการชี้แจง หาคนครบเครื่องและชั่วโมงบินอย่างท่านยาก แม้ท่านจะเคยทำงานกับ “ทักษิณ ชินวัตร” มาก่อน แต่ท่านก็ทำงานกับคนอื่นๆ ด้วย รวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงถูกตีความว่า นอกเหนือจากมาช่วยในเรื่องกฎหมายและการเมืองแล้ว มาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยม ยังไม่ตัดหางปล่อยวัด “นายทักษิณ ชินวัตร”รวมถึงหุ่นเชิดอย่างนายเศรษฐาด้วย-นั่นเอง!!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
15:41 น. แอดมิทด่วน! 'เอ๊ะ จิรากร'เล่าประสบการณ์หัวใจเต้นผิดปกติ
15:40 น. 'อนุสรณ์'แนะเปิดใจรับฟังเหตุผลงบรีโนเวตสภาฯ ไม่ใช่ตัดสินไปก่อน
15:35 น. สองผัวเมียอารมณ์ดี! ‘ขายหอยครก 6 ราง’ ทำขายแทบไม่ทัน-ลูกค้าเพียบ
15:20 น. ป่วนใต้หลายจุด! จุดไฟเผากล้อง-แขวนป้าย-วางวัตถุต้องสงสัย 3 อำเภอในยะลา
15:14 น. 'ทวี'เผย'กกต.'ประสาน'ดีเอสไอ'แปะหมายเรียกหน้าบ้าน 6 สว. คดีฮั้ว
ดูทั้งหมด
ภาพอบอุ่นใจความรักที่งดงามของ 'กษัตริย์จิกมี-สมเด็จพระราชินี-เจ้าชาย-พระธิดา' ในยามค่ำคืนของทะเลทรายโกบี
(คลิป) 'ฐปณีย์' เละคาบ้าน! ด้อยค่าคนไม่เห็นด้วย 'เมียจ่าปืน' ออกโรงตอกกลับไม่ใช่ IO
‘ลาออก’ไปเถอะ! ฉะ‘นายกฯ’มีสติปัญญาแค่นี้ แผ่นเสียงตกร่องชู‘กาสิโน’แก้เศรษฐกิจ
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 4-10 พ.ค.68
หยามเกียรติธงชาติไทย! ทนายแจ้งเอาผิด โพสต์เฟสบุ๊คดูหมิ่น'ธงคือผ้าเช็ดเท้า'
ดูทั้งหมด
อวสาน‘ทักษิณ’คุกรออยู่
ความต่างของ สิงคโปร์ กับ ไทย
คุกนรก (1)
นักการเมือง ‘ส้มสารพิษ’
บุคคลแนวหน้า : 9 พฤษภาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'อนุสรณ์'แนะเปิดใจรับฟังเหตุผลงบรีโนเวตสภาฯ ไม่ใช่ตัดสินไปก่อน

แอดมิทด่วน! 'เอ๊ะ จิรากร'เล่าประสบการณ์หัวใจเต้นผิดปกติ

เศร้า! ช้างป่ากุยบุรีขาเจ็บล้มแล้ว สะเทือนใจผลชันสูตร

ปตท. ลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติส่วนเพิ่มแหล่งอาทิตย์เสริมความมั่นคงพลังงานไทย

'ทวี'เผย'กกต.'ประสาน'ดีเอสไอ'แปะหมายเรียกหน้าบ้าน 6 สว. คดีฮั้ว

วัฒนธรรมโบราณ! พิธีล้างพระธาตุศรีสองรัก สักขีพยานสัมพันธไมตรีสองแผ่นดิน 465 ปี

  • Breaking News
  • แอดมิทด่วน! \'เอ๊ะ จิรากร\'เล่าประสบการณ์หัวใจเต้นผิดปกติ แอดมิทด่วน! 'เอ๊ะ จิรากร'เล่าประสบการณ์หัวใจเต้นผิดปกติ
  • \'อนุสรณ์\'แนะเปิดใจรับฟังเหตุผลงบรีโนเวตสภาฯ ไม่ใช่ตัดสินไปก่อน 'อนุสรณ์'แนะเปิดใจรับฟังเหตุผลงบรีโนเวตสภาฯ ไม่ใช่ตัดสินไปก่อน
  • สองผัวเมียอารมณ์ดี! ‘ขายหอยครก 6 ราง’ ทำขายแทบไม่ทัน-ลูกค้าเพียบ สองผัวเมียอารมณ์ดี! ‘ขายหอยครก 6 ราง’ ทำขายแทบไม่ทัน-ลูกค้าเพียบ
  • ป่วนใต้หลายจุด! จุดไฟเผากล้อง-แขวนป้าย-วางวัตถุต้องสงสัย  3 อำเภอในยะลา ป่วนใต้หลายจุด! จุดไฟเผากล้อง-แขวนป้าย-วางวัตถุต้องสงสัย 3 อำเภอในยะลา
  • \'ทวี\'เผย\'กกต.\'ประสาน\'ดีเอสไอ\'แปะหมายเรียกหน้าบ้าน 6 สว. คดีฮั้ว 'ทวี'เผย'กกต.'ประสาน'ดีเอสไอ'แปะหมายเรียกหน้าบ้าน 6 สว. คดีฮั้ว
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

‘พีระพันธุ์’ จะรอดหรือจะร่วง

‘พีระพันธุ์’ จะรอดหรือจะร่วง

7 พ.ค. 2568

‘ทักษิณ’ จะต้อง ‘ติดคุก’ หรือไม่?

‘ทักษิณ’ จะต้อง ‘ติดคุก’ หรือไม่?

4 พ.ค. 2568

ไอ้นี่มัน ‘เหวง’ ไม่หาย

ไอ้นี่มัน ‘เหวง’ ไม่หาย

30 เม.ย. 2568

‘กฎหมาย’ หรือ ‘ชะตา’ ที่ไล่ล่า ‘แพทองธาร’

‘กฎหมาย’ หรือ ‘ชะตา’ ที่ไล่ล่า ‘แพทองธาร’

27 เม.ย. 2568

เรื่องของ ‘ทราย สก๊อต’

เรื่องของ ‘ทราย สก๊อต’

23 เม.ย. 2568

‘ไชยชนก ชิดชอบ’ ปิดจ๊อบได้สวย

‘ไชยชนก ชิดชอบ’ ปิดจ๊อบได้สวย

20 เม.ย. 2568

เอา ‘ทักษิณ’ ไปเก็บซะ!

เอา ‘ทักษิณ’ ไปเก็บซะ!

16 เม.ย. 2568

‘กาสิโน’ กับการ ‘ทิ้งไพ่’ ของภูมิใจไทย

‘กาสิโน’ กับการ ‘ทิ้งไพ่’ ของภูมิใจไทย

13 เม.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved