คดีเกี่ยวข้องกับนักการเมืองและพรรคการเมือง ที่จะมีผลกระเทือนต่อสถานการณ์การเมือง และสถานการณ์บ้านเมือง มีอยู่หลายคดี
คดียุบพรรคก้าวไกลหรือไม่ ศาลรัฐธรรมนูญ
คดีความเป็นรัฐมนตรีของนายกฯเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดลงหรือไม่ศาลรัฐธรรมนูญ
คดี 112 นายทักษิณ ชินวัตร อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง รอส่งฟ้องศาลอาญา
คดีเกี่ยวกับการเลือก สว.มิชอบ ศาลปกครอง และศาลรัฐธรรมนูญ หลายคำร้อง
1. คดียุบพรรคก้าวไกล
กรณี กกต.ยื่นคำร้อง มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้อง)มีพฤติกรรมกระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิบัติต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) (2) ซึ่งข้อเท็จจริงปรากฏตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 จึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญจากยุบพรรคก้าวไกลเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของบุคคลผู้เป็นคณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล และห้ามมิให้ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล และถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ในกำหนด 10 ปี
ปรากฏว่า ฝ่ายพรรคก้าวไกลยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา 3 ครั้ง ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาทั้ง 3 ครั้ง ครั้งละ 15 วัน
เมื่อวานนี้ ศาลรัฐธรรมนูญรับคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของพรรคก้าวไกล รวมไว้ในสำนวน ส่งสำเนาคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาให้ กกต. ทราบ
กำหนดนัดพิจารณาต่อไปในวันที่ 12 มิ.ย.2567
ศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่า คู่กรณีไม่สมควรแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคดีที่เป็นการชี้นำสังคมอันอาจกระทบต่อการดำเนินกระบวนการพิจารณาของศาล
นี่เท่ากับเตือน กกต. และพรรคก้าวไกล มิให้แสดงความคิดเห็นก้าวก่าย กดดัน ชี้นำสังคม อันกระทบต่อการทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ
เชื่อว่า คดีนี้ น่าจะใช้เวลาไม่นาน ก็จะมีคำวินิจฉัยชี้ขาด
2. พรรคก้าวไกลนัดจะแถลงข่าวใหญ่วันที่ 9 มิ.ย. หากยังดำเนินการต่อไปโดยเจตนาพยายามชี้นำสังคมว่าตนเองถูกกลั่นแกล้ง ดิสเครดิตศาลรัฐธรรมนูญ หรือแม้แต่นำข้อมูลมาชี้นำสังคมฝ่ายเดียว เพื่อสร้างกระแสกดดันศาลรัฐธรรมนูญ ย่อมสมควรจะถูกดำเนินคดีฐานขัดคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ พยายามก้าวก่ายกดดันการทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ
พรรคก้าวไกล และ กกต. ต่างก็ได้ส่งข้อมูลของตนให้ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ไม่สมควรจะสร้างกระแสชี้นำสังคมเพื่อกดดันศาล
กกต.ไม่มีการเคลื่อนไหวเรื่องนี้แล้ว
แต่พรรคก้าวไกล และเครือข่าย ยังดำเนินการอยู่
ควรจะยุติเสีย ก่อนที่จะถูกดำเนินคดีในฐานความผิดอื่นอีกด้วย
3. คดีนายกฯเศรษฐา
นายกฯเศรษฐา ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์รายละเอียดในการต่อสู้คดี โดยให้เหตุผลว่าคดีอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ
นับเป็นท่าทีที่ถูกต้อง เหมาะสมแล้ว
ขณะนี้ ผู้ถูกร้อง คือ นายกฯเศรษฐาอยู่ระหว่างทำคำชี้แจงส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ
เชื่อว่า คดีนี้ น่าจะใช้เวลาไม่นาน ก็จะมีคำวินิจฉัยชี้ขาด
4. คดี 112 นายทักษิณ ชินวัตร
อัยการนัดนำตัวไปส่งฟ้องศาลอาญา วันที่ 18 มิ.ย.นี้
ล่าสุด นายกฯเศรษฐาเปิดเผยว่า ได้คุยกับอุ๊งอิ๊ง ยืนยันว่านายทักษิณพร้อมต่อสู้คดีในชั้นศาล เชื่อว่าไม่ได้หนีไปไหนแน่นอน
คดีนี้ รอดูศาลจะให้ประกันตัวทักษิณ หรือไม่?
ส่วนผลลัพธ์คดี คงต้องสู้กันสามศาล
5. คดีเกี่ยวกับการเลือก สว.
ขณะนี้ ยังไม่มีคดีใดที่มีผลกระทบ ทำให้การเลือก สว.ต้องยุติลง หรือเป็นโมฆะ
แต่ก็ไม่แน่ เพราะบางคดีอยู่ในชั้นการพิจารณาของศาล
มีทั้งศาลปกครอง และศาลรัฐธรรมนูญ
6. ปรากฏว่า ทนายวันชัย สอนศิริ สว. ได้ออกแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ว่าด้วยเรื่อง “ขบวนการ 3 ล้ม”
ระบุว่า
“...ได้รับทราบข่าวที่เป็นข้อมูลเชิงลึก เกี่ยวกับ “ขบวนการ 3 ล้ม” ที่อยากจะบอกให้สังคมได้รับทราบ เพราะเป็นเรื่องที่กระทบกับชาติบ้านเมืองและระบอบประชาธิปไตย
โดยขบวนการ 3 ล้มเกิดขึ้นนี้ เป็นการรวมการเฉพาะกิจเหมือน โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจของคณะบุคคล 3 กลุ่ม 3 พวก เพื่อกระทำการ 3 ล้มนี้ให้เกิดขึ้นให้ได้ในเร็ววันนี้
ล้มแรก คือ ล้มรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ลงให้ได้ เพราะถ้าล้มรัฐบาลเศรษฐาลงได้ก็จะมีการเซต ซีโร่ในอำนาจนั้น แล้วก็เริ่มนับหนึ่งกันใหม่ ตัวเองจะได้เข้ามามีอำนาจในครั้งใหม่นี้
ล้มที่สอง ล้มหรือยุบก้าวไกล เพราะถ้ายุบก้าวไกลไปได้ พรรคก็จะแตกกระสานซ่านเซ็น สส.ก็จะต้องหาที่อยู่ใหม่ภายใน 30 วัน ตอนนั้นพรรคตัวเองหรือพรรคพวกของตัวเองก็จะตามช้อน หรือต้อนเข้าคอก ทำให้มีเสียงเพิ่มมากขึ้น แล้วก็จะมีอำนาจต่อรองกับอำนาจใหม่นี้
ล้มที่สาม ก็คือล้มกระดานการเลือก สว. ถ้าล้มได้ สว.ชุดเก่าก็ยังอยู่เหมือนเดิม คอยปฏิบัติภารกิจได้ต่อไป
...คณะบุคคล 3 พวก ที่ประสานงานจับมือกันเคลื่อนไหวเป็นขบวนการอย่างเข้มข้นอยู่ในขณะนี้ เพื่อหวังจะทำให้ 3 ล้มดังกล่าวประสบความสำเร็จ ประกอบด้วย
1. พวกที่ผิดหวัง อกหักทางการเมือง ไม่ได้เข้ามามีอำนาจ
2. พวกที่เกลียดทักษิณเข้ากระดูกดำ
3. พวกเผด็จการ นิยมการปฏิวัติ รัฐประหาร
ทั้ง 3 พวกนี้ไม่เอาทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล รวมทั้ง ทักษิณ
การออกมาให้ข่าวกล่าวหา โจมตีในประเด็นต่างๆ เป็นระลอก การยื่นคำร้องต่อองค์กรอิสระ มีสื่อบางสำนักเป็นกระบอกเสียง
คนเหล่านี้ปฏิบัติการเป็นแบบรวมการเฉพาะกิจ ไม่เป็นไปตามวิถีประชาธิปไตยที่ควรจะเป็น
แต่ละคนแต่ละพวกอุดมการณ์ต่างกัน แต่เป้าหมายเดียวกัน นั่นคือ การล้มรัฐบาลเศรษฐา ยุบพรรคก้าวไกลและล้มกระดานการเลือกสว. เพื่อให้ สว.ปัจจุบันยังอยู่ในตำแหน่งต่อไป
ขบวนการ 3 ล้มนี้่ ทำงานแบบสอดประสานกัน เกิดขึ้น วางแผน เตรียมการและกำลังดำเนินการอยู่
ขอให้จับตาการเคลื่อนไหวต่างๆ เหล่านี้ให้ดี ความพยายามของพวกนี้เป็นวิชามารที่สกปรก หวังแต่เพียงจะสร้างความสับสนวุ่นวายเพื่อให้ตัวเองมีอำนาจต่อรองมากขึ้น
หากล้มรัฐบาลเศรษฐาได้ก็จะนับหนึ่งกันใหม่ หรือไม่ก็อาจจะไปถึงขั้นเปิดช่องให้อำนาจนอกระบบเข้ามาก่อรัฐประหาร ซึ่งประมาทไม่ได้” - นายวันชัยกล่าว
7. น่าสังเกตว่า การออกมาแสดงความคิดเห็นของ สว.วันชัย ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเมืองในขณะนี้
เป็นประโยชน์กับฝ่ายใด?
ลักษณะเหมือนการตีปลาหน้าไซ
สุ่มเสี่ยงจะเข้าข่ายดิสเครดิตคดีที่อยู่ในชั้นศาลด้วย
เพราะกล่าวหาไปถึงคดีอย่างเช่น
คดียุบพรรคก้าวไกล คดีนี้ กกต.ทำหน้าที่ร้องศาล เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมติเอกฉันท์ว่า นายพิธาและพรรคก้าวไกลล้มล้างการปกครองฯ ด้วยเหตุนี้จึงต้องนำคดีไปร้องศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อปรากฏว่ามีพรรคการเมืองล้มล้างการปกครอง จะต้องยุบพรรค หรือไม่?
ถ้า กกต.ไม่ร้อง กกต. ย่อมเสี่ยงจะโดน 157 เสียเอง
ส่วนคดีนายกฯเศรษฐา นั่นก็ สว.ที่มีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ เข้าชื่อผ่านประธานวุฒิสภาอย่างถูกต้อง ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องไว้พิจารณาแล้ว ฯลฯ
การพยายามดิสเครดิต ทำลายความน่าเชื่อถือกระบวนการและระบบตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญ ตามกฎหมาย ก็ต้องถามว่า เป็นขบวนการด้วยหรือไม่?
เข้าลักษณะ “3 แบก”
แบกทักษิณ แบกเศรษฐา และแบกพรรคล้มล้างการปกครอง หรือไม่?
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี