วันศุกร์ ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ผลสำรวจความคิดเห็นผู้ประกอบการ SME ที่มีต่อนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาทครั้งที่ 2 หลังจากการสำรวจครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2566 โดยการสำรวจครั้งนี้เป็นการสอบถามจากผู้ประกอบการ SME 2,704 ราย ใน 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 19-30 เมษายน พบว่า สัดส่วนความสนใจเข้าร่วมโครงการของผู้ประกอบการ SME อยู่ที่ร้อยละ 75.2 ลดลงจากการสำรวจครั้งก่อนที่มีสัดส่วนความสนใจในการเข้าร่วมมากถึงร้อยละ 82.9
มีสาเหตุมาจากความกังวลเรื่องการใช้สิทธิ และการเบิกจ่ายเงิน เงื่อนไขของโครงการที่ให้ธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่สามารถเข้าร่วมได้ ทำให้ธุรกิจรายเล็กกังวลต่อยอดผู้ที่จะมาใช้บริการ และบางกลุ่มธุรกิจประเมินว่าธุรกิจของตนไม่เหมาะกับโครงการ รวมถึงการขาดความพร้อมด้านอุปกรณ์/เครื่องมือหรือทักษะความรู้ในการใช้งาน Super App
ขณะเดียวกัน การกลัวโดนเรียกเก็บภาษี ย้อนหลัง ในด้านข้อเสนอแนะ ผู้ประกอบการ SME ต้องการให้ปรับรูปแบบการเบิกจ่ายเป็นเงินสดเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจของตนเอง เช่น กลุ่มธุรกิจร้านอาหารที่ต้องการหมุนเงินแบบวันต่อวัน รองลงมาคือ อยากให้มีการใช้สิทธิในแอปฯเป๋าตังเหมือนเดิม เนื่องจากมีความกังวลต่อการเรียนรู้การใช้งาน Super App ของโครงการ และผู้ประกอบการSME ยังเสนอให้ลดเงื่อนไขจำกัดพื้นที่การใช้งานให้สามารถใช้งานได้ทั่วประเทศ เนื่องจากผู้ประกอบการ SME ต้องการความหลากหลายของสินค้าที่ให้บริการ จึงต้องการซื้อสินค้า/วัตถุดิบจากตลาด/ร้านค้าภายในและนอกอำเภอ
ผลสำรวจดังกล่าวยังมีอีกหลายประเด็นที่บงชี้ว่า เอือมระอากับวิธีการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ที่ไม่รู้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ หรือมีจริงแล้วจะมีผลกระทบมากน้อยแค่ไหน ในขณะที่ประชาชนเองก็เบื่อที่จะรอคอย 10 เดือนมาแล้วยังต้องรอกันต่อไป
สอดคล้องกับความเห็นของ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช ที่มองว่า และนโยบายที่ประกาศบนเวทีหาเสียง ก็ไม่สามารถทำได้ตามที่โฆษณาหาเสียงไว้ในหลายอย่าง เช่น
1.การไม่จับมือกับ 3 ป.คนทำรัฐประหารร่วมรัฐบาล,2.จะปิดสวิตช์ สว. แก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยภายในหนึ่งปี,3.แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตให้กับคนไทย อายุ 16 ปีขึ้นไป คนละ 10,000 บาททุกคน,4.ค่าไฟฟ้าครัวเรือนที่แพงอยู่ จะถูกลงทันที,5.ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิด จะไม่มีการขึ้นราคา,6.ครอบครัวที่มีรายได้ไม่ถึง 20,000 บาท จะเติมให้ครอบครัวละ 20,000 บาททันที,7.จะขึ้นค่าแรง 600บาท และ เงินเดือนปริญญาตรี เดือนละ 25,000 บาท, 8.จะแก้ปัญหายาเสพติดให้หมดไปทันที แต่ตอนนี้ยาเสพติดแพร่ระบาดไปทั้งเมือง
ซึ่งนโยบายที่หาเสียงไว้ทั้งหมด ยังไม่มีนโยบายใดทำสำเร็จได้เลย การโฆษณาว่าเป็นรัฐบาลมืออาชีพในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ก็ไม่ได้เป็นจริง สินค้าก็ขึ้นราคาทุกวัน ประชาชนก็ไม่มีรายได้เพิ่ม สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน จนมีกระแสของแพงทั้งแผ่นดินดังกระหึ่มสื่อโซเชียล
ล่าสุด กลับนำเอานายวิษณุ เครืองาม มาใช้งานเป็นที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย ยิ่งเป็นการตอกย้ำความตระบัดสัตย์ของพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง การกลับไปกลับมา กลับกลอกเหมือนลิงหลอกเจ้า ยิ่งทำให้พรรคเพื่อไทยล้มละลายในเรื่องคำพูด ขาดความเชื่อถือจากประชาชนโดยสิ้นเชิง
ข้อมูลเหล่านี้เชื่อว่ารัฐบาลเศรษฐา ทวีสินก็รู้อยู่เต็มอก ว่าที่หาเสียงไปนั้นแทบทำอะไรไม่ได้สักอย่าง อีกทั้งยังมาเจอมรสุม นายใหญ่ถูกดำเนินคดี ตัวนายกฯเองยังสุ่มเสี่ยงต่อการถอดถอนออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ประชาชนเราๆ ท่านๆ ต้องทนไปก่อน อีกไม่ช้าไม่นานเชื่อว่าอาจมีพระเอกขี่ม้าขาวกลับมากอบกู้และสถานการณ์ต่างๆ คงดีขึ้น

นายกฯ ทำบุญตักบาตรพระ 189 รูป วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพในหลวง ร.9 (ประมวลภาพ)
'มือเต็ง-แชมป์เก่า' พาเหรด 32 คนคิวลีโอฟีโน่
รัฐบาล คาดช่วงวันพ่อหยุดยาว คนไทยแห่เที่ยว เงินสะพัดกว่า 10,000 ล้านบาท
อัยรินทร์ ย้ำ ไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพร้อยเปอร์เซ็นต์ กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33
อรรถกร โอด รับดราม่าซีเกมส์คนเดียว เผยอาจผิดธรรมชาติไปนิดนึง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี