วันอังคาร ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
การอภิปรายเรื่องเงินเดือนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพราะจะมีสมาชิกฯที่มาจากการเลือกตั้งดังนั้นในการประชุมเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมพ.ศ. 2476 นั้น หลวงวิจิตรวาทการ ได้ลุกขึ้นอภิปรายเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งว่า “…พระราชบัญญัติว่าด้วยการเลือกตั้ง ที่รัฐบาลเก่าแก้ไขให้ได้เปลี่ยนแปลงมาก” ในวันนั้นหม่อมเจ้าวรรณไวทยากร วรวรรณ ที่ปรึกษานายกฯได้ลุกขึ้นมาชี้แจงในสภาฯ ว่า “พระราชบัญญัติเลือกตั้งที่ออกใหม่ ได้แก้ไขพระราชบัญญัติฉบับเดิม และเกี่ยวกับเรื่องสิทธิของประชาชนในการเลือกตั้ง เช่นในเรื่องจำกัดอายุ และการแบ่งจังหวัดใหม่ก็เกี่ยวกับสิทธิของราษฎร…” การอภิปรายในวันนั้น จึงทำให้ทราบว่าพระยามโนฯได้แก้ไขกฎหมายเลือกตั้งที่ถือว่าสำคัญที่ ท่านวรรณไวทยากร ยกมาให้เห็น คือเรื่องจำกัดอายุ และเรื่องการแบ่งจังหวัดใหม่ ว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสิทธิของราษฎร
การประชุมสภาเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2476 พระยาพหลฯ นายกรัฐมนตรีจึงได้เสนอแก้ไขพระราชบัญญัติการเลือกตั้งพ.ศ. 2475 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2576โดยประธานคณะกรรมาธิการสำรวจและพิจารณากฎหมาย คือหม่อมเจ้าวรรณไวทยากรวรวรรณ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีได้เป็นผู้ชี้แจง แต่ประชุมกันจนเลิกประชุมในวันนั้นก็แก้ไขไม่ได้เลย และ นัดประชุมสามัญในวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 1 สิงหาคม
การประชุมวิสามัญในวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2576 นี้ ก่อนที่จะเข้าสู่การพิจารณาร่างกฎหมายแก้ไขกฎหมายเลือกตั้งปรากฏว่านาย เล้ง ศรีสมวงศ์ สมาชิกสภาประเภทที่ 2 ที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่มาเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมนี้เอง ได้ขออนุญาตประธานฯอ่านข้อความในจดหมายของหลวงประดิษฐ์มนูธรรม ซึ่งยังเดินทางกลับมาไม่ถึงประเทศไทยให้ที่ประชุมทราบ จากข้อความในจดหมายนี้เองทำให้ที่ประชุมมีโอกาสได้ทราบว่าหลวงประดิษฐ์มนูธรรม กับพระยามโนฯได้มีความคิดขัดแย้งกันเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้ง ความในจดหมายของหลวงประดิษฐ์ มีว่า
“พระราชบัญญัติใหม่นี้ได้แก้ไขพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง พ.ศ. 2475 ในข้อความสำคัญโดยที่พระยามโนฯกับพวกได้นำเอาข้อความที่ตนเถียงแพ้ในขณะที่ร่าง กับที่ตนจำนนในทางปฏิบัติมาใส่ไว้เกือบทั้งสิ้น”
ข้อความในจดหมายยกถึงประเด็นต่างๆมากกว่า 10 ประเด็น ได้ชี้ให้เห็นว่าพระยามโนฯเคยนำร่างไปถวายให้พระเจ้าอยู่หัวทอดพระเนตรด้วย ความที่ว่า
“ข้าพเจ้าจำได้ว่า เมื่อได้ร่างพระราชบัญญัติการเลือกตั้งพ.ศ. 2575 เสร็จแล้ว พระยามโนฯได้นำร่างนั้นไปถวายพระมหากษัตริย์ให้ทอดพระเนตร ครั้นแล้วพระยามโนฯได้มาบอกกับข้าพเจ้าว่า พระมหากษัตริย์ทรงชมเชยข้าพเจ้าว่า ร่างกฎหมายนี้ทรงเห็นว่าเป็นหลักประชาธิปไตย…”
จากนั้นความในจดหมายของหลวงประดิษฐ์ก็ได้ตั้งคำถามทิ้งท้ายไว้ว่า
“แต่เหตุไฉนรัฐบาลอันมีพระยามโนฯเป็นนายก จึงได้จัดการแก้พระราชบัญญัตินี้เสียเล่า”
การแก้ไขกฎหมายเลือกตั้งในสภาฯครั้งหลังนี้ใช้เวลาประชุมหลายครั้ง มีผลการแก้ไขที่สรุปประเด็นที่สำคัญได้ 5 ประเด็น
1. เปลี่ยนไปให้ทุกจังหวัดมีผู้แทนราษฎรได้อย่างน้อยจังหวัดละหนึ่งคน
2. เปลี่ยนไปให้จังหวัดที่มีราษฎรเกินกว่า 100,000 คน มีผู้แทนเพิ่มขึ้นได้อีก 1 คน ทุก 100,000 คน
3. เปลี่ยนให้อายุผู้เลือกตั้งเริ่มตั้งแต่20 ปีบริบูรณ์
4. เปลี่ยนไปให้อายุผู้สมัครเข้ารับเลือกตั้งเริ่มตั้งแต่ 23 ปีบริบูรณ์
5. เปลี่ยนไปให้ข้าราชการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎรนอกจังหวัดที่ตนมีตำแหน่งประจำทำงานอยู่ได้
นรนิติ เศรษฐบุตร

'บิ๊กเล็ก' ลั่น สบายใจ หลัง 'ฮุน เซน' ท้าปิดด่าน 100 ปี ยันไม่ปล่อย 18 เชลยศึก
'พล.อ.ทรงวิทย์' บวชอุทิศส่วนกุศล ให้กับทหารที่เสียชีวิต
'สีหศักดิ์'เชื่อญี่ปุ่นฟันกฎหมาย หลังโซเชียลจี้ถอดพาสปอร์ต แจ็กแปปโฮ
เปิดคำพิพากษาฉบับเต็ม! ศาลฎีการะบุชัด 'ทักษิณ'เป็นตัวการให้ลูกถือหุ้นชินฯ ต้องจ่ายภาษี 1.7 หมื่นล้าน
จ่อ3หมื่นล้าน! MotoGPวงรอบใหม่มูลค่ามหาศาล

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี