อาทิตย์ที่แล้วคอลัมน์นี้เสนอทรรศนะที่ดีของกระทรวงต่างประเทศไทย ที่ผลักดันให้สมัครเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มบริกส์ก่อนใครในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ส่วน บริกส์จะรับไทยเข้าเป็นสมาชิกหรือไม่เมื่อไหร่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของประธานหมุนเวียน และปัจจุบันประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียเป็นประธาน ด้วยความที่ประเทศไทยกับรัสเซีย มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมายาวนานจึงมั่นใจว่า หากรัฐบาลไทยกระตือรือร้นมากกว่านี้ไม่น่าจะมีปัญหา
เอาละก่อนที่ประเทศไทยจะเข้าไปมีบทบาทในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว วันนี้มาดูกันว่ามุมมองต่อการเป็นสมาชิกกลุ่มบริกส์ของซาอุดีอาระเบีย เศรษฐีน้ำมัน น่าสนใจอย่างไร อาหรับนิวส์เสนอมุมมอง Watcher guru ต่อการเป็นสมาชิกบริกส์ของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ว่า ..ตั้งแต่ซาอุดีอาระเบียแสดงเจตจำนงเข้ากลุ่มบริกส์(Brics) เมื่อต้นปี 2024 และ ต่อมา ซาอุดีอาระเบีย ก็ไม่ต่อสัญญาเปโตรดอลลาร์กับสหรัฐอเมริกา ทำให้เศรษฐกิจของประเทศเศรษฐีน้ำมันเติบโตขึ้นอย่างน่าตกใจโดยเฉพาะภาคธนาคาร
ธนาคารแห่งชาติซาอุดีอาระเบีย รายงานว่าเดือนพฤษภาคม 2024 ธนาคารกลางซาอุดีอาระเบียมีรายได้สุทธิ 1,960 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นรายได้มากที่สุดในรอบ 14 เดือน อาหรับนิวส์รายงานด้วยว่า ตั้งแต่ต้นปีถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมพบว่า ธนาคารกลางได้กำไรมากที่สุดในเดือนพฤษภาคม เมื่อเปรียบเทียบกับ 13 ดือนก่อนหน้า และธนาคารกลาง ได้ผลกำไรสะสมถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 34,780 ล้านริยาด กำไรสุทธิจำนวนนี้เป็นรายได้ก่อนเสียภาษีและซากาต (ภาษีเงินฝาก 2.5% เพื่อบริจาคให้มุสลิมที่ยากจนและจำเป็น) ดูจากสถิติโดยรวมระบุว่า ธนาคารชาติ มีกำไรเพิ่มขึ้น 9% เปรียบเทียบกับผลกำไร ในเดือนเมษายนปี 2023
โดยภาพรวม Watcher guru มองว่า การเติบโตเศรษฐกิจของชาติดีขึ้นตั้งแต่ ซาอุดีอาระเบียแสดงความสนใจร่วมมือกับบริกส์เมื่อต้นปีนี้....และซาอุดีอาระเบียในฐานะเป็นประเทศส่งออกน้ำมันใหญ่ในที่สุดในโลกที่กลุ่มบริกส์ทั้งหมดได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์และในเวลาเดียวกันชาติสมาชิกกลุ่มบริกส์ก็มาลงทุนในประเทศตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นด้วย..
...ซาอุดีอาระเบียตัดสินใจไม่ต่อสัญญาเปโตรดอลลาร์ อาจทำให้สหรัฐเสียหาย แต่ดูเหมือนว่ากลุ่มประเทศอาหรับไม่มีความกังวลใดๆ ในประเด็นนี้ มองจากความจริงดูเหมือนว่า ซาอุดีอาระเบียกำลังเปลี่ยนเวทีการค้าจากสหรัฐและหันไปค้าขายกับกลุ่มบริกส์มากขึ้น จึงเป็นแนวโน้มว่า เศรษฐีน้ำมัน หันหลังให้ยูเอสดอลลาร์ ธนาคารกลางซาอุดีอาระเบียถึงได้เปิดเผยตัวเลขกำไรออกมาเพียงหนึ่งเดือนหลังยกเลิกข้อตกลงเปโตรดอลลาร์
ซาอุดีอาระเบียได้ทำข้อตกลงกับสหรัฐอเมริกา เพื่อใช้เงินดอลลาร์สหรัฐเท่านั้นซื้อขายน้ำมันในระยะเวลา 50 ปี ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 1974 ซึ่งทำให้เปโตรดอลลาร์ครอบงำการค้าทั่วโลกมาครึ่งศตวรรษ
และเมื่อสัญญาเปโตรดอลลาร์สิ้นสุดลงเมื่อเดือนพฤษภาคม 2024 ซาอุดีอาระเบียจึงไม่ต่อสัญญาเปโตรดอลลาร์ เพื่อความเป็นอิสระทางการค้า ดังที่เจ้าชายโมฮาเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียผู้มีอำนาจสูงสุดฝ่ายบริหาร กล่าวไว้ว่าซาอุดีอาระเบียชะลอทำการค้ากับสหรัฐและตะวันตก เพื่อหันมาทำธุรกิจการค้ากับตะวันออกมากขึ้น ดังนั้นเมื่อสิ้นข้อผูกพันกับเปโตรดอลลาร์ และบริกส์รับซาอุดีอาระเบียเข้าร่วมกลุ่ม ธนาคารชาติถึงได้เปิดผลกำไรออกมาอย่างน่าสนใจ
BRICS เป็นการรวมตัวของประเทศกำลังพัฒนาที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว ระยะแรกปี 2549 เป็นการรวมตัวของ 4 ประเทศ ได้แก่ บราซิล (Brazil) รัสเซีย (Russia) อินเดีย (India) และจีน (China) ต่อมา ปี 2553 แอฟริกาใต้ เข้าร่วมและเดือนมกราคม 2567 บริกส์ รับ อียิปต์ เอธิโอเปีย อิหร่าน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และซาอุดีอาระเบีย เข้ากลุ่มบริกส์เป็นทางการ ดังนั้น เมื่อเอา 10 ชาติสมาชิกมารวมกัน พบว่า บริกส์มีประชากรโลก 45% เศรษฐกิจโลก 28% และ ผลิตน้ำมันดิบ 44% ของโลก
บริกส์ ได้สร้าง ธนาคารเพื่อการพัฒนาใหม่ (New Development Banks) ขึ้นเพื่อช่วยประเทศกำลังพัฒนาในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ในเวลาเดียวกับบริกส์เริ่มใช้เงินสกุลท้องถิ่นชำระซื้อ ขายแลกเปลี่ยนสินค้าหลีกเลี่ยงการใช้ดอลลาร์สหรัฐที่ทำได้ เงินหยวนของจีน เงินรูเบิลรัสเซีย เงินรูปีของอินเดีย ชำระในการซื้อขายสินค้ากันได้ โดยไม่ต้องเปิด L/C (letter of credit) เป็น US Dollars. และสำหรับพ่อค้าไทย ปัจจุบันสามารถใช้เงินบาททำการค้ากับประเทศรัสเซียและประเทศในอาเซียนได้
อาหรับนิวส์รายงานด้วยว่า รายได้จากสินค้าส่งออกของซาอุดีอาระเบียที่ไม่ใช่น้ำมันก็เพิ่มสูงขึ้นเกือบ 12.4% ในเดือนเมษายน 2024 สินค้าที่ไม่ใช่น้ำมันของซาอุดีอาระเบีย ประกอบด้วย ยางสังเคราะห์และพลาสติก รวมทั้งสินค้าเคมีภัณฑ์ รถยนต์ เรือบรรทุกอากาศยาน เครื่องจักรกล เหล่านี้เป็นสิ่งที่ซาอุดีอาระเบียส่งออก Watcher guru ระบุว่า วันนี้ทุกสายตาจับจ้องไปที่ซาอุดีอาระเบียและการตัดสินใจเข้าร่วมบริกส์ หากราชอาณาจักรเศรษฐีน้ำมันร่วมเป็นหนึ่งในพันธมิตรของบริกส์อย่างจริงจัง อุตสาหกรรมแก๊สและน้ำมันจะถึงจุดเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่เป็นคุณต่อประเทศกำลังพัฒนา
Watcher guru ระบุด้วยว่าซาอุดีอาระเบียไม่ต่อสัญญาเปโตรดอลลาร์ ส่งผลวาระลดการพึ่งพาดอลลาร์ของกลุ่มบริกส์มีผลในทางปฏิบัติมากขึ้น Watcher guru ระบุว่า..พันธมิตรบริกส์เริ่มต้นวาระลดพึ่งพาดอลลาร์ในปี 2022 หลังจากสหรัฐลงโทษแซงก์ชั่นรัสเซียฐานรุกรานยูเครน รัสเซียกับจีนเริ่มวาระลดการพึ่งพาดอลลาร์โดยการชี้นำให้ประเทศกำลังพัฒนาเห็นว่า อเมริกาใช้ดอลลาร์เป็นอาวุธคุกคามเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนา สหรัฐพร้อมแซงก์ชั่นทุกประเทศตามความพอใจได้ทุกขณะ ได้สร้างความหวาดกลัวแก่ชาติกำลังพัฒนาว่าเศรษฐกิจของพวกเขาไม่ปลอดภัยและจำเป็นต้องป้องกันสกุลเงินของพวกเขาจากดอลลาร์
Watcher guru ชี้ให้เห็นสามขั้นตอนสำคัญที่บริกส์เริ่มลดการพึ่งพาดอลลาร์
1.จัดระบบชำระด้วยสกุลเงินท้องถิ่น : สมาชิกกลุ่มบริกส์ เริ่มต้นการค้าทวิภาคีผ่านชายแดนซึ่งกันและกันโดยชำระเงินท้องถิ่น ซึ่งสมาชิกกลุ่มบริกส์แสดงให้เห็นในเบื้องต้นว่าลดการพึ่งพาดอลลาร์ได้อย่างไร
2.ชักชวนชาติอื่นๆ ให้เลิกใช้ดอลลาร์ : รัสเซียกับจีนเป็นสองมหาอำนาจชักชวนประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ให้ชำระสินค้าด้วยเงินตราท้องถิ่น และให้ความรู้ประเทศกำลังพัฒนาในการสร้างความแข็งแกร่งเศรษฐกิจและค่าเงินตัวเองในตลาดนานาชาติ
3.บูรณาการระบบการชำระเงินใหม่โดยไม่รวมดอลลาร์ : สมาชิกบริกส์ต่างก็บูรณาการระบบการชำระเงินใหม่สร้างกลไกในการถ่ายโอนเงินท้องถิ่นกันได้โดยที่ระบบชำระเงินใหม่ไม่รวมดอลลาร์ในระบบการถ่ายโอนและชำระเงิน ทำให้ดอลลาร์ไม่อยู่ในวาระชำระของประเทศกำลังพัฒนาและด้อยค่าลงไปในกลุ่มบริกส์
ทั้งหมดนี้เป็นมุมมองของ Watcher guruต่อความสำคัญของเศรษฐีน้ำมันในการเป็นพันธมิตรกลุ่ม “บริกส์” นับเป็นกรณีศึกษาที่อาจนำมาประยุกต์ใช้ในวันที่ไทยเข้าเป็นสมาชิกบริกส์อย่างเป็นทางการ
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี