มีมาเฟียอยู่ในวงการสลากกินแบ่งรัฐบาลของคนพิการ-คนตาบอด หรือไม่?
กรณีสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จัดสรรสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นโควตาให้กลุ่มคนตาบอด-คนพิการ ด้วยเจตนาดี ต้องการให้คนพิการ-คนตาบอดมีรายได้จากการขายสลาก
กฎกติกาสำคัญ คือ ห้ามนำสลากกินแบ่งรัฐบาลไปจำหน่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกลุ่มบุคคลอื่น และห้ามขายช่วง
แต่ที่ผ่านมา ก็มีข่าวระแคะระคายมาโดยตลอดว่า มีคนบางกลุ่มทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล เป็นมาเฟียหากินกับโควตาสลากฯที่จัดสรรให้คนตาบอด-คนพิการ
นำสลากฯ ที่ได้รับจัดสรรในราคาถูกพิเศษ เอาไปบริหารจัดการผลประโยชน์ ส่งให้นายทุน แลกเงินก้อน
ในที่สุด สลากฯไม่ได้ไปถึงมือคนตาบอด-คนพิการอย่างแท้จริง
1. นายกสมาคมเกี่ยวกับคนตาบอดแห่งหนึ่ง มีเงินในบัญชี 220 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 4 ก.ย. สื่อมวลชนรายงานว่า ที่ ทนายตั้ม-ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายเพื่อประชาชน นำอดีตนักกีฬาคนพิการ และผู้พิการที่ยึดอาชีพขายสลากกินแบ่งรัฐบาล กว่า 150 คน รวมตัวร้องขอความเป็นธรรมต่อ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ระบุว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม จากสมาคมนักกีฬาคนตาบอดแห่งหนึ่ง ได้มีพฤติกรรมลิดรอนสิทธิการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล
พร้อมขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ตรวจสอบเส้นทางการเงินนายกสมาคมฯ แห่งนี้ด้วย
ทนายตั้ม ระบุว่า นำเรื่องมาร้องเรียน เพราะต้องการให้ดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และประวัติการเสียภาษีของสมาคมที่เกี่ยวกับคนตาบอดแห่งหนึ่ง กับผู้บริหารสมาคมด้วย
เนื่องจากพบความผิดปกติว่า สมาคมดังกล่าวนั้น มีโควตารับสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 2,647 เล่มต่องวด
แต่ทว่าเล่มสลากฯดังกล่าว ไม่ถึงมือนักกีฬาที่เป็นสมาชิกสมาคมเลย แต่กลับไปเข้ามือใครบางคน
อีกทั้ง พบว่าสมาชิกสมาคมหลายคนนั้นถูกตัดชื่อออกจากสมาคม และบางส่วนถูกเอาชื่อไปแอบอ้างรับเล่มสลากฯ ไปจำหน่าย โดยที่คนพิการทางสายตาไม่ได้รับเล่มสลากฯ ไปจำหน่ายจริง ซึ่งสมาคมดังกล่าวมีพฤติกรรมเช่นนี้มาตั้งแต่ปี 2561
ประการสำคัญที่น่าตกใจมาก พบว่า มีเงินหมุนเวียนเข้าบัญชีของนายกสมาคมฯ
หลักสิบล้านบาทต่อเดือน
รวมถึงนายกสมาคมรายนี้ มีเงินฝากในบัญชีกว่า 220 ล้านกว่าบาท!!!
ย้ำ นี่คือสมาคมคนตาบอดแห่งหนึ่ง !!!
นายกสมาคมรายนี้ มีเงินในบัญชีเงินฝากชื่อตนเองกว่า 220 ล้านบาท!!!!
โอ้ววว พระเจ้าช่วย !!!
เงินมาจากไหน ไม่ปรากฏว่าประกอบธุรกิจอะไร เป็นคนตาบอดที่ได้เป็นนายกสมาคมบางสมาคม ร่ำรวยอะไรขนาดนั้น?
ทนายตั้มระบุว่า อยากให้ทางกระทรวงส่งเรื่องไปยัง DSI ตรวจสอบเส้นทางเงินจำนวนเหล่านี้ด้วย เพราะเชื่อว่าสมาคมดังกล่าวมีพฤติกรรมฮั้วโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ต้องมอบให้แก่คนพิการทางสายตา และอาจจะเข้าข่ายการฟอกเงินด้วย ตนเองจึงต้องการที่จะลงมาช่วยเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ซึ่งเชื่อมั่นว่า หากสามารถช่วยคนพิการกลุ่มนี้ได้ ก็จะสามารถหารายได้จากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลได้อย่างถูกกฎหมาย ตามสิทธิที่ตนเองควรได้รับ
2. นับเป็นข้อมูลที่น่าตกใจ
โดยเฉพาะไม่ได้เป็นการพูดลอยๆ ทว่าปรากฏหลักฐาน เป็นสเตทเมนท์ เผยให้เห็นรายละเอียดชัดเจน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เอกสารที่กลุ่มคนพิการคนตาบอดยื่นให้กระทรวงยุติธรรมช่วยตรวจสอบนั้น ประกอบด้วย บัญชีธนาคารกรุงไทย/งบการเงินสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทยปี 2564-2566 / รายชื่อคนที่ได้รับสลากจากสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย
เนื่องจากบัญชีธนาคารกรุงไทยของนายกสมาคมรายหนึ่ง ปรากฏว่า มีรายการฝากถอนเงิน และมีเงินเข้าบัญชีประมาณ เดือนละ 20 ล้านบาท
มีเงินรายได้เข้าบัญชีมาจากที่ใด?
เมื่อตรวจสอบจนถึงเดือนมิถุนายน พบว่ามีเงินเพิ่มมารวมกว่า 220 ล้านบาท !!!
จึงขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ตรวจสอบการเสียภาษี
รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงินบุคคลตามบัญชีรายชื่อผู้ขอรับการจัดสรรสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้จ่ายเงินค่าสลากฯ ให้แก่สมาคมฯ จริงหรือไม่
หากจ่ายด้วยเงินสด สมาคมฯได้จัดทำบัญชีรายชื่อและลงชื่อผู้จ่ายเงินไว้หรือไม่
รวมทั้งได้จัดทำบัญชีการซื้อขายระหว่างสมาชิกกับสมาคมฯ และลงรายการไว้ในงบการเงินประจำปี สำหรับตรวจสอบทางราชการ และแสดงรายได้ต่อสรรพากรหรือไม่
นอกจากนี้ ในปี 2561-2566 ได้ลงรายการซื้อขายสลากฯ ให้กับสมาชิกไว้ในงบการเงินประจำปีหรือไม่
นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงยุติธรรม ฝ่ายการเมือง นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม และร้อยตำรวจเอก ธรรมวิทย์ แต่งภูมิ ผู้อำนวยส่วนกองกิจการอำนวยความยุติธรรม 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นตัวแทนรับเรื่อง
ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า จะนำคำร้องที่ยื่นในวันนี้เรียนต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมโดยเร็วที่สุด ส่วนเรื่องการดำเนินการสืบสวนสอบสวน ขณะนี้กระทรวงยุติธรรมได้มอบหมายให้ DSI เป็นผู้รับผิดชอบรับเรื่องดังกล่าวไปดำเนินการสืบสวนสอบสวน หากพบพฤติการณ์ ที่เข้าข่ายจะเป็นคดีพิเศษ ก็จะดำเนินการเสนอเรื่องตั้งเป็นคดีพิเศษดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม บอกว่า เบื้องต้น DSI จะตรวจสอบเอกสารหลักฐานทั้งหมด ซึ่งอำนาจของ DSI สามารถสืบสวนสอบสวนได้ และถ้าหากพบว่าเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ ก็จะรับทำคดีโดยมีอำนาจเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล หรือสอบปากคำทั้งหมด แต่ถ้าสืบสวนแล้วพบว่าไม่ใช่เขตอำนาจการสอบสวนของ DSI ก็จะส่งข้อมูลทั้งหมดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ปปง. / ป.ป.ช. / หรือหน่วยงานอื่นๆ มารับเรื่องตรวจสอบต่อไป
3. ก่อนหน้านี้ เคยมีเรื่องแพร่งพรายออกมาบ้าง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มีหลักฐานสเตทเมนท์ เงินในบัญชีคนตาบอดที่เป็นนายกสมาคม มีเงินกว่า 200 ล้านบาท
เคยมีอดีตนักกีฬากรีฑาคนพิการทีมชาติ ซึ่งมีปัญหาพิการทางสายตา เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า เคยตรวจสอบข้อมูล พบว่า สมาคมได้เล่มโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลมา 2,647 เล่มต่องวด ตกเฉลี่ยเล่มละ 7,040 บาท หรือหากคิดราคาไปก็ตกใบละ 70.40 บาท ซึ่งแต่ละเล่มนั้นจะมีจำนวน 100 ใบ เมื่อรวมมูลค่าทั้งหมดแล้ว ทางสมาคมต้องซื้อโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดละ 18 ล้านกว่าบาท
ทว่ารายชื่อสมาชิกในสมาคมที่ได้รับการจัดสรรเล่มสลากกินแบ่งจากสมาคม พบเพียงแค่ว่ามีส่วนน้อยที่เป็นผู้พิการจริงๆ และได้รับโควตาคนละประมาณไม่เกิน 5 เล่มไปจำหน่าย
แต่กลับพบชื่อของบุคคลอื่น หรือชื่อของผู้พิการบางรายที่อาจถูกแอบอ้าง มาขอซื้อโควตาจากสมาคมหลักสิบกว่าเล่ม
บางรายสูงถึง 50 กว่าเล่ม ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่กลุ่มคนเหล่านี้จะมีเงินมาซื้อเล่มสลากต่อจากสมาคม
ตนเชื่อว่า นี่คือพฤติกรรมการฮั้วโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลในสมาคม เพราะทางสมาคมได้ตั้งม้ามาเป็นผู้สมอ้างรับเล่มสลากไปจำหน่ายเกือบ 100 กว่าคนในบัญชีรายชื่อโควตาของสมาคม
และเชื่อว่า ตัวผู้บริหารสมาคมน่าจะมีการรับเงินจากตัวแทนที่นำสลากกินแบ่งไปจำหน่ายต่อ
จึงทำให้สลากกินแบ่งที่ควรจะต้องอยู่ภายใต้โควตาของผู้พิการทางสายตา กลับไม่ถึงมือพวกเขาจริงๆ
ส่งผลทำให้ผู้พิการทางสายตาต้องไปหาซื้อสลากกินแบ่งด้วยโควตาของสมาคมอื่นๆ หรือหาซื้อจากผู้ขายรายอื่นที่อาจจะโก่งราคาสูงกว่าเดิม ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มต้นทุนโดยใช่เหตุ
และตัดโอกาสที่ผู้พิการทางสายตาจะหารายได้
ข้อมูลความร่ำรวยของผู้บริหารสมาคมคนพิการบางแห่ง จึงเจือสมกับข้อมูลที่คนพิการได้เคยแฉให้เห็นความผิดปกติก่อนหน้านี้
4. ในภาพรวม ประเทศไทยมีคนพิการทั้งหมด 2,165,127 คน
ในจำนวนนี้ มีคนพิการทางสายตา 184,288 คน
เมื่อไปดูข้อมูลสมาคมหรือสหกรณ์คนพิการทางสายตาทั่วประเทศที่ได้รับโควตาสลากจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลแต่ละงวด พบว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 162 สมาคมหรือสหกรณ์
ทั้งหมดได้รับสลากแต่ละงวดจำนวนรวมทั้งสิ้น 18,827 เล่ม
หรือคิดเป็นสลากจำนวน 1,882,700 ใบ
ปัจจุบัน ผู้พิการทางสายตาได้รับโควตาคนละ 5 เล่ม ก็จะมีคนพิการทางสายตานำสลากมาจำหน่ายเกือบ 4 พันคน แต่ข้อเท็จจริงขณะนี้กลับพบว่าคนพิการทางสายตาจำนวนมากเข้าไม่ถึงโควตา
บางคนต้องไปรับมาจากยี่ปั๊ว แทนที่จะได้รับการจัดสรรจากสมาคม
ที่ถูกต้อง สมาคมจะต้องจัดสรรให้สมาชิกได้นำไปขาย เป็นอาชีพเสริม และเป็นรายได้ของคนตาบอด-คนพิการ
เพราะฉะนั้น ควรจะตรวจสอบให้ชัดเจนว่า มาเฟียคนตาบอด มีพฤติกรรมนำสลากที่ได้รับมาในราคาถูกพิเศษ ไปส่งต่อให้นายทุน รับเงินผลประโยชน์มาเป็นก้อน จริงหรือไม่?
บางส่วน แบ่งเงินให้คนพิการที่มีชื่อในบัญชี
ส่วนที่เหลือ ก็เข้ากระเป๋าตัวเอง
งวดละกี่ล้าน เดือนละ 2 งวด ?
ปีละกี่ล้าน?
ถ้าแบบนี้ ไม่รวยยังไงไหว?
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี