“ดิฉันพร้อมที่จะทำให้ประเทศกลับมามีอนาคต และในวันนี้ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ก็พร้อมที่จะเดินหน้า”
มาดามแพ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีลั่นวาจากับสื่อต่างประเทศ
เธอยังกล่าวด้วยว่า “เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ก็เป็นความโชคร้ายของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ซึ่งพวกเราเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น แต่พวกเราก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อให้รัฐบาลอยู่ครบวาระ และส่งต่อนโยบายของรัฐบาลไปสู่ประชาชน”
กับสื่อไทย เธอได้แถลงหลังถวายสัตย์ปฏิญาณต่อองค์พระประมุข และประชุม ครม. นัดพิเศษแล้วว่า
“ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสแก่ดิฉันและคณะรัฐมนตรี เนื่องในวโรกาส เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี พระองค์ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งว่า “ขอให้พรด้วยความยินดี ให้คณะรัฐมนตรีมีกำลังใจ มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้ถวายสัตย์ไปแล้ว เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ และประชาชน” นับเป็นเกียรติยศ และความภาคภูมิใจสูงสุดแก่ชีวิตของดิฉัน และคณะรัฐมนตรี พร้อมน้อมนำพระราชดำรัสมาปรับใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน พร้อมจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ
ทั้งนี้ ดิฉันและคณะรัฐมนตรีทุกคน พร้อมที่จะทำงานเพื่อประเทศอย่างเต็มที่ เราจะทำงานแข่งกับเวลา ทุกนาที ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพราะเราคือผู้แทนของประชาชน ที่ได้รับการเลือกตั้งมาจากทั่วพื้นที่ของคนทั้งประเทศ เรามาจากพรรคการเมืองที่มีความแตกต่างหลากหลาย ต่างภูมิภาค ต่างช่วงวัย เพื่อทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน ซึ่งจะใช้ความหลากหลายให้เป็นจุดแข็ง ให้รู้ปัญหาที่แท้จริงของประชาชน และสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด และทันเวลา
ขอให้ความมั่นใจว่า ดิฉัน จะใช้ความสามารถในการประสานพลังกับคณะรัฐมนตรีทุกท่าน ให้ทำงานด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ความสามารถของตนเอง อย่างเต็มที่ เชื่อว่าโอกาส คือ สิ่งที่เราสามารถสร้างให้เกิดขึ้นได้และคณะรัฐมนตรี และข้าราชการทุกภาคส่วน พร้อมแล้วที่จะทำงานเพื่ออย่างแน่วแน่ และมั่นคง เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทำงานเป็นทีมสร้างโอกาสอย่างเท่าเทียมให้กับประชาชน และไม่ใช่เริ่มพรุ่งนี้ แต่จะเริ่มตั้งแต่นาทีนี้เป็นต้นไป และในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ตนได้ขอให้รัฐมนตรีทุกท่านช่วยกันดำเนินการต่อเนื่อง จากงานของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ โดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจ และขอให้ทุกกระทรวงดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องในพิธีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา6 รอบ ตลอดทั้งปี
1) เมื่อถามว่า การเมืองปัจจุบันนิติสงครามทางการเมืองจะสู้รบอย่างไร เพื่อให้การทำงานอยู่ครบ 3 ปี น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ทุกท่านความตั้งใจอยู่แล้ว เรื่องของกฎหมายเรามีทีมกฎหมาย แต่แน่นอนในคณะรัฐมนตรีมีผู้มีประสบการณ์และมีรัฐมนตรีใหม่ ฉะนั้นเราปรึกษากันและกัน ประสบการณ์เหล่านี้ บางทีต้องช่วยกันตีความหมายของกฎหมายในบางเรื่องด้วย เพราะบางเรื่องไม่สามารถตอบได้ว่าขาวหรือดำแน่นอนว่าก็ต้องมีความตั้งใจและดูทุกอย่างปรึกษาทุกหน่วยงานให้รอบคอบและรัดกุม
2) เมื่อถามว่า นโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภามีอะไรที่แตกต่างไปจากรัฐบาลของ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯบ้าง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อยากจะขอความร่วมมือว่าเราเองอยากทำงานให้ครบสามปีให้เกิดความต่อเนื่องของการทำงาน อย่างตอนนี้มีการเปลี่ยนนายกฯและคณะรัฐมนตรี เราพยายามตอกย้ำยืนหยัดว่าตั้งแต่ สมัยนายเศรษฐา เป็นนายกฯจากพรรคเพื่อไทย นโยบายที่เคยปรึกษาพรรคร่วมรัฐบาลมาแล้ว ก็ค่อนข้างที่จะคล้ายเดิม นโยบายครั้งนี้เราก็ได้ปรึกษาพรรคร่วมรัฐบาลเช่นกัน เป็นนโยบายที่ต่อเนื่องจาก นายเศรษฐา และเป็นความเห็นของพรรคร่วมรัฐบาล ว่ามีตรงไหนหรือไม่ที่จะต้องปรับแก้อย่างไรบ้างเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำปรับแก้ต่างๆ จะทำให้เราสามารถดำเนินนโยบายได้อย่างเต็มที่ และนโยบายที่เรารวบรวมในการแถลงในเล่มเป็นนโยบายที่เราใช้ตั้งแต่ตอนหาเสียง เราได้ตกลงกับพรรคร่วมรัฐบาลจนมาถึงตอนนี้ ก็อยากแย้มได้เลยว่าค่อนข้างนโยบายเหมือนเดิม มีการเป็นปรับแก้ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันและมั่นใจว่าจะสามารถทำนโยบายได้สำเร็จ
3) เมื่อถามว่า การที่ น.ส.แพทองธาร ก้าวขึ้นมาเป็นนายกฯ ด้วยความเป็นพ่อลูกกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทำให้มีการมองว่าระบอบทักษิณ กลับมาแล้ว จะลบคำปรามาสนี้อย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “จะไม่ขอตอบเรื่องนายทักษิณแล้ว เพราะว่าเราต้องเดินไปข้างหน้า วิสัยทัศน์ที่ดีไม่ว่าจะมาจากใครก็ตาม อายุเท่าไหร่ก็ตามวิสัยทัศน์ที่ดีคือสิ่งที่ดี เพราะฉะนั้นขอตอบแค่นี้แล้วกันค่ะ”
4) เมื่อถามต่อว่า โครงการดิจิทัล วอลเล็ต ในเดือนก.ย. นี้จะเห็นผลหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ในเรื่องของไทม์ไลน์ ขอให้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังเป็นคนให้รายละเอียด แต่แน่นอนว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นทันที เพราะเป็นข้อแรกที่เราได้เน้นย้ำและจะต้องทำงานกันต่อไป
5) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ครม.สืบสันดาน ถูกต้องเหมาะสมแล้ว ความว่า
“ผมเป็นคนหนึ่งที่เปิดประเด็นเรื่อง ครม.สืบทอดตำแหน่งทาง DNA หรือ ครม.สืบสันดาน จนเป็นกระแสข่าวที่สื่อมวลชนได้นำไปสอบถามความเห็นต่อ น.ส.แพทองธาร
ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์หน้าตาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าเป็น ครม.ครอบครัว ให้ลูก ให้เพื่อนให้ญาติ เป็นรัฐมนตรีแทน ลักษณะมีการวิจารณ์ใช้คำแรงว่า “ครม.สืบสันดาน” ซึ่งนายกรัฐมนตรี ถึงกับร้องโอ้ ก่อนกล่าวว่า “แรงจริงๆ ด้วย” พร้อมกับหัวเราะและกล่าวว่า “ใช้คำแรงจัง” นั้น
ผมขอเรียนให้ทราบว่า ในฐานะที่เรียนทางด้านกฎหมายมาบ้าง คำว่า ผู้สืบสันดานโดยตรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1643 หมายถึง ผู้สืบสันดาน
ในทางสืบสายโลหิตโดยแท้จริง บุตรบุญธรรมนั้นกฎหมายถือว่า เป็นผู้สืบสันดานเหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ใช่คำแรง หรือคำหยาบแต่อย่างใด เป็นคำภาษาไทยโบราณที่สื่อความหมายแบบตรงไปตรงมา เกี่ยวกับนิสัยหรือสันดานของคน ซึ่งถ้าจะให้พูดแบบภาษาผู้ดี อาจจะพูดได้ว่าเป็น “นิสัยอันถาวร” มีความหมายเดียวกันกับคำว่าสันดาน หรือจะให้เปลี่ยนเป็น ครม.สืบนิสัยอันถาวร
ส่วนการที่รัฐมนตรีบางท่านบอกว่า ครม.สืบสันดาน เป็นแค่วาทกรรมนั้น ซึ่งในข้อเท็จจริง ภาพลักษณ์ของคณะรัฐมนตรีชุดนี้ มีการสืบทอดตำแหน่งให้กับบุคคลในครอบครัวจริงๆ ไม่ได้คำนึงถึง ความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ เกี่ยวกับกระทรวงนั้นๆ เลย คำนึงถึงแต่โควตาว่าเป็นของคนในตระกูลใด เมื่อไม่สามารถดำรงตำแหน่งได้ เพราะคุณสมบัติขัดต่อจริยธรรมร้ายแรง ก็ยกให้คนในครอบครัว เป็นนอมินีรับตำแหน่งแทน ทำเหมือนกับประเทศนี้ เป็นสมบัติของครอบครัว หรือของตระกูลตัวเอง
ผมเห็นว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสมแล้ว ที่สังคมจะให้ฉายารัฐบาลชุดนี้ว่า ครม.สืบสันดาน จะได้รู้สึกสำนึกและอับอายต่อประชาชนคนไทยผู้เป็นเจ้าของประเทศบ้าง”
6) นายวันชัย สอนศิริ อดีตสมาชิกวุฒิสภา(สว.) โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “ครอบครัวเพื่อไทย..ครอบครัวทักษิณ จะอยู่หรือไป” ระบุว่า การที่เขาเอาคุณอุ๊งอิ๊งมาเป็นนายกรัฐมนตรี ถือว่าเป็นศึกและสงครามครั้งสุดท้ายของคุณทักษิณและครอบครัว ดูจากชะตาและสถานการณ์ทางการเมืองเทพยดาฟ้าดินทั้งล่างและบน พร้อมทั้งประชาชน เขากำหนดให้คุณทักษิณและครอบครัวแก้ตัวอีกครั้ง..ถ้าแก้แล้วชนะก็เกิด ถ้าแพ้ก็ดับสูญสิ้น หมดโอกาสที่จะแก้ตัวอีก..
ศึกสงครามครั้งนี้จึงใหญ่หลวงนัก ต้องสู้กับเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ สังคมที่ย่อยยับ การเมืองที่ยุ่งเหยิง เป็นการพิสูจน์ฝีมือของคุณทักษิณและครอบครัวว่าของจริง หรือแค่ราคาคุย หรือเป็นเพียงแค่ภาพในอดีต สิ่งที่เห็นบุญเก่ากำลังจะหมดไป บุญใหม่ก็ยังไม่มี
โอกาสครั้งนี้แหละ...มาด้วยตัวเอง ตัวจริงเสียงจริง เล่นเองกำกับเอง ถ้าเล่นแล้วเหมือนคุณเศรษฐา คุณยิ่งลักษณ์ คุณสมัคร และคุณสมชาย ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ไม่มีอะไรที่จะให้ประชาชนจดจำ นายกอุ๊งอิ๊งจะเหมือนนายกเหล่านั้น หรือว่าจะเหมือนนายกทักษิณในอดีต อย่าสักแต่ว่าเป็นดีเอ็นเอเดียวกันเท่านั้น เขารอกันอยู่แต่ว่าเมื่อไหร่จะอยู่ดีกินดีประเทศจะมีความเจริญรุ่งเรือง มีความสงบร่มเย็น... เขาไม่ได้รออยู่ ว่านายกอุ๊งอิ๊งจะอยู่นานเท่าไร...หรือจะไปเมื่อไร
7) นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา(สว.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า รัฐบาลใหม่กำลังจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภาและถือเป็นสัญญาประชาคม เป็นที่ทราบกันดีว่า การเขียนด้วยทีมงานคนหรือ AI หรือโปรแกรม Chat GPT ว่า วันนี้จะเขียนให้สวยหรูเพราะพริ้งอย่างไรก็ได้ สิ่งสำคัญที่จะสร้างหรือทำลายศรัทธาความเชื่อมั่น จะส่งผลให้รัฐบาลอายุสั้นหรืออายุยาวนั้น อยู่ที่การลงมือทำจริงจังด้วยความตั้งใจเป็นรูปธรรมให้สำเร็จได้ด้วยการร่วมกันของคณะรัฐมนตรีที่จะลงมือทำเอง
จึงขอเสนอแนะ 10 เรื่องที่อยากให้รัฐบาล#ควรทำ และ 10 เรื่องที่รัฐบาล #ไม่ควรทำ ด้วยความหวังดีไปยังคณะรัฐมนตรีใหม่เพื่อพิจารณาดังนี้
10 เรื่องที่รัฐบาลใหม่#ควรทำ
1.เร่งแก้ปัญหาให้ได้ผลเป็นรูปธรรมเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง เศรษฐกิจฐานรากและ SME
2.กระตุ้นเศรษฐกิจ แจกเงินสดช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง เฉพาะเจาะจงในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กลุ่มคนรายได้น้อยและจำเป็น ควบคุู่กับการกระตุ้นการใช้จ่ายทันทีในโครงการอื่นที่เคยประสบความสำเร็จ เช่น คนละครึ่ง ชิม ช้อปใช้ ฯลฯ เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้าในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐ
3.รื้อโครงสร้างพลังงาน ควบคุมลดราคาน้ำมันดีเซล แก๊สหุงต้ม ปรับลดค่าไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือน
4.แก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกร สนับสนุนงานวิจัยเทคโนโลยีเร่งพัฒนาขีดความสามารถเกษตรกรเพื่อเพิ่มผลิตภาพและมูลค่าการผลิต ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ
5.เร่งแก้ปัญหายาเสพติด สร้างกลไกควบคุมการใช้กัญชาที่รัดกุมและโปร่งใส
6.ประกาศสัญญาประชาคมขจัดทุจริตคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ
7.จัดการปัญหาธุรกิจทุนเทาข้ามชาติ แก๊งคอลเซ็นเตอร์และพนันออนไลน์
8.ปฏิรูปการศึกษา พัฒนาคน ยกระดับความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ ส่งเสริมความรักชาติและสถาบัน
9.ให้ความสำคัญกับการลงทุนเรื่องการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ การจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ เดินหน้าสู่การพัฒนาประเทศด้วยเศรษฐกิจสีเขียว (green economy)
10.ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายอำนาจ ขยายความเจริญสู่ภูมิภาค ส่งเสริมเขตเศรษฐกิจพิเศษและเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ต่อยอดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล และแก้ปัญหาแรงงานอย่างเป็นระบบ
10 เรื่องที่รัฐบาลใหม่ ไม่ควรทำ
ได้แก่ โครงการแจกเงินดิจิทัล ทุจริตคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ ออกใบอนุญาตกาสิโนบ่อนทำลายสังคม นโยบายขายชาติให้เช่าที่ดิน 99 ปี ดีลลับเจรจาพลังงานไทย-กัมพูชา เสียอธิปไตยเกาะกูด ออกกฎหมายคืนเงิน46,000 ล้าน และนิรโทษกรรมสุดซอย แก้พ.ร.บ.สภากลาโหม แทรกแซงกองทัพ แทรกแซงนโยบายธนาคารชาติ แทรกแซงบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมและองค์กรอิสระ ปล่อยต่างชาติแทรกแซงการเมืองไทย บ่อนทำลายสถาบันและความมั่นคงในชาติ
สรุป : มาดามแพ หรือคุณหนูอุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร เป็นแค่ “ผู้สืบสันดาน” และ “หุ่นเชิด” ของพ่อ คือ นายทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น ผ่านประสบการณ์การทำงานมาน้อยมาก มีคนแห่แหนแต๋นแต้ก็เพราะเป็น “ลูกนาย”บัดนี้เป็นโอกาสอันดีที่มาดามแพและโคตรพ่อโคตรแม่ จะต้องระดมสรรพกำลังกัน “อุ้มมาดามแพ” ให้พ้นคุก ให้พ้นความวิบัติ เพราะบริหารประเทศไม่รอด โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง
อาจกล่าวได้ว่า มาดามแพคือ “ตัวประกันทางการเมือง”ที่มีทั้งฝ่ายหนุน ฝ่ายหน่าย ฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้น รอ“รุมสกรัม” สองสิ่งที่จะคุ้มครองเธอได้ คือ ความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และความซื่อสัตย์สุจริตไม่ทำผิดกฎหมาย
มาดามแพ อยู่ในความอุ้มโอ๋ของขี้ข้า และภาวะ “ล้ำหน้า”ของพ่อ
ขี้ข้าก็เอาแต่สอพลอ พ่อก็เอาแต่ขโมยซีน
ถึงจุดหนึ่ง ความบรรลัยของมาดามแพ อาจไม่ได้เกิดจากตัวเอง สิ่งเดียวที่เป็นของเธอเอง คือ “ความไม่รู้” หรือจะเรียกว่า “โง่” ก็ได้
และเพราะจุดจบของคุณหนูอุ๊งอิ๊งค์ คือจุดจบของตระกูลชินวัตรในการเมืองไทย ตรงนี้เองที่ทำให้พ่อของเธอมิอาจอดใจ ทำอะไรที่ “ล้ำหน้า” และสุ่มเสี่ยงต่อการ “ผิดกฎหมาย”
ถึงที่สุด มาดามแพจะลงเอยอย่างไร ภัยใกล้ตัวที่อันตรายที่สุดก็คือ “พ่อของเธอเอง”!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี