เป็นที่ประจักษ์ในความรู้สึกนึกคิดของคนไทยทั่วไปว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ไม่มีทีท่าจะ “เล่นงาน” รัฐบาล “ตระกูลฮุน” แห่งกัมพูชา ให้เต็มที่ ตามความจริงและศักยภาพที่ประเทศไทยมีอยู่
เป็นคนประเภท “พูดไม่สุดคำ รำไม่สุดแขน”
เป็นมวยประเภท “ชกไม่สมศักดิ์ศรี”
โชคดีที่ยังมี “กองทัพ” เป็นเสาหลักยืนยันให้ราชอาณาจักรไทย ยังมุ่งมั่นที่ปกป้องอธิปไตย เขตแดน และชีวิตเลือดเนื้อของประชาชน
1) ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรีในยุครัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ในประเด็นไทยยังเหลือโจทย์หินอีก 1 อย่างในการต่อสู้กับเขมร โดยอดีตรองนายกฯ ได้ระบุข้อความว่า
“ศึกเขมรชนะไปแล้ว 5 ด้าน เหลือโจทย์หินอีก 1
กรณีไทยกับเขมรขณะนี้ ไม่ว่าผมจะพูดว่า เป็นการ “ปะทะหรือทำศึก” มันก็คือความหมายเดียวกัน เมื่อตรองดูขณะนี้ เรากำลังเผชิญอยู่ 6 ด้านพร้อมๆ กัน ชนะก็มี เสมอก็มี และกำลังเพลี่ยงพล้ำก็มี ดังนี้
1. ทางการทหาร เราชนะแน่นอน เรายึดพื้นที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ได้ 10 แห่งครึ่ง (ปราสาทตาควายได้ครึ่งเดียว) เราทำลายคลังอาวุธหลายแห่ง ทำลายรถติดจรวดหลายลำกล้อง ปืนใหญ่และรถถังได้จำนวนมาก เรื่องนี้ต้องรักษาสถานะเอาไว้ให้ได้แต่สิ่งที่น่าสงสารคือ ทหารเขมรเสียชีวิตมากถึง 2,000-5,000 นาย
2. ทางการทูต ในระยะยาวเราชนะแน่นอน เพราะความจริงมีหนึ่งเดียว แต่กระทรวงการต่างประเทศก็ต้องเร่งเครื่องหน่อย ปล่อยวางความเป็นสุภาพบุรุษหรือที่เขาประชดกันว่า ลดความเป็น ฯพณฯ หัวเจ้าท่านลงบ้าง เราต้องทำทั้งแบบคู่คือทีละประเทศ ทั้งแบบหมู่ในองค์กรระหว่างประเทศในภูมิภาคและนอกภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ UN
3. ทางเศรษฐกิจ เราต้องยอมเจ็บในระยะต้น ต้องบีบให้เขาตายอย่างเขียด เขาค้าขายจริงๆ ได้แค่กับเราและเวียดนามเท่านั้น อย่าเพิ่งเปิดด่านง่ายๆ และที่สำคัญคือ กระทรวงพาณิชย์ที่มีความคิดจะไปขอให้ลาวส่งสินค้าจากไทยไปกัมพูชานั้น อย่าได้ทำเด็ดขาด เป็นความคิดที่เลอะเทอะ มีอย่างที่ไหนอยากได้เงินแต่กลับไปช่วยศัตรู
4. ทางด้านสื่อ สื่อไทยนั้นทุกคนรักชาติ แต่กับสื่อต่างประเทศต้องออกแรงและเผลอๆ ต้องเสียเงินซึ่งประเทศไทยก็ได้เปรียบเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว คือมีสื่อต่างประเทศใหญ่ๆ ตั้งอยู่ในเมืองไทยมากมาย ติดต่อกับเขาทุกวันสิครับ ส่วนเรื่องหลุดปากไปเชิญสื่อปลอมชาวอเมริกันที่ไปทำข่าวให้เขมรอยู่ในขณะนี้นั้น ผมว่าคิดผิด ที่ควรคือห้ามมันเข้าประเทศไทยจะดีที่สุดคนแบบนี้เชื่อไม่ได้ เชิญมันมาแล้วมันหักหลัง เราจะทำอย่างไร
5. ประจานความชั่วของเขมร เขมรไม่ยอมเจรจากับเราในเรื่องการกำจัดทุ่นระเบิดบุคคล และการปราบคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ ที่หลอกคนไปทั่วโลก เราต้องทุ่มเทประณามให้เต็มที่คนเขาเกลียดและช่วยประณามไปทั่วโลก ด่าซึ่งๆ หน้าเลย ก่อนประชุมทุกครั้งบอกเขาให้ไปล้างมือ “เพราะอำมหิต มือเปื้อนเลือด” และให้ถามว่า อยากเป็นมาเฟียการพนันหรือไงจึงมีบ่อนเต็มบ้านเต็มเมือง และเป็นคนพุทธแบบไหนเที่ยวไปพูดปดหลอกคนเขาไปทั่ว
6. เรื่องสร้างศรัทธาและความเชื่อมั่นกับประชาชนของตัวเอง เรื่องนี้สำคัญมาก พูดตรงๆ ตอนนี้คนจำนวนมากไม่ค่อยไว้ใจรัฐบาล ควรทบทวนการพูด การแสดงออกทางสาธารณะเสียหน่อย รัฐบาลก็จะแก้ไขเรื่องนี้ได้
วันนี้ผมไปงานเลี้ยงเตรียมอุดมศึกษารุ่น 23 ไปกัน 30 คน รวมอายุได้ 2,400 ปี เราร้องเพลงปลุกใจสมัยคุณหลวงวิจิตรวาทการกันตลอด กรณีผมได้ปรารภว่า จะซื้อทุ่นระเบิดเขมรลูกละ 10,000 บาท ก็มีคนอยากร่วมลงขันด้วย คนไทยรักชาติทุกคนครับ รัฐบาลต้องใช้ความรักเหล่านี้เป็นฐาน เรามีกัน 67 ล้านคน เราคิดเหมือนกันอยู่แล้ว เพียงแต่ดันคิดคนละเวลา คนละทิศทาง และคนละมุมมอง รัฐบาลจึงต้องทำตัวเป็นวาทยกร (Conductor) ที่สามารถผสมผสานเนื้อเพลงและดนตรีแห่งความรักให้ไปในทิศทางเดียวกันเราก็จะชนะแน่นอน”
2) วิเคราะห์ : เห็นด้วยกับ ดร.ปลอดประสพ โดยเฉพาะข้อ 2 ข้อ 4 และข้อ 5 กล่าวคือ ไทยยังเปิดเกมรุกทางการทูต สื่อ และการประจานความชั่วของกัมพูชา โดยเฉพาะ “ผู้นำชั่ว” ของเขา ที่มีชนักปักหลัง เรื่อง ดินแดนสีเทา ธุรกิจสีเทา และการกดขี่ข่มเหงประชาชน ให้โลกรับรู้ น้อยเกินไป ขาดความกล้า ขาดการเปิดเกมรุก รบกับเขาอย่างอ่อนแอ หวาดกลัว เหมือน “วัวสันหลังหวะ” มีแผลที่คอยแต่จะกังวลว่า กัมพูชา โดย ฮุนเซน, ฮุน มาเนต จะขยี้กลับให้ต้องเจ็บปวด จนนำมาสู่ความเชื่อของผู้คนว่า รัฐบาลไทยภายใต้การนำของ “ตระกูลชินวัตร” (พ่อ ลูกสาว และขี้ข้า) ออมมือ หมอบราบอยู่ปลายตีนตระกูลฮุน อาจเพราะมีผลประโยชน์ร่วมกันให้ต้องระวังกังวล หรือเพราะฝ่ายตระกูลฮุน กุมความลับของตระกูลชินเอาไว้ จนทำให้ “ชกลมโชว์” ไปวันๆ ไม่มีการเอาจริงตามศักยภาพในการชกที่มีอยู่ เป็น “มวยล้มต้มคนดู”ที่น่าทุเรศ นำพาประเทศสู่ความตกต่ำ อัปยศ
3) นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรมว.คลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “กรณ์ จาติกวณิช - Korn Chatikavanij” แนะรัฐบาลคว่ำบาตรเขมร หากยังตอแยไทยไม่เลิก
โดยอดีต รมว.คลังได้ระบุข้อความไว้อย่างน่าสนใจว่า
“จากที่ไปต่างประเทศมาสิบวัน พูดคุยกับคนที่โน่นและติดตามสื่อนอกมองไทย ทำให้เห็นสัจธรรมว่า ในสายตาคนนอก เขาเห็นแค่ “ไทยมีเรื่องกับกัมพูชา” ไม่มีใครใส่ใจมากนักว่าใครผิดใครถูก ถ้ามีคำถามก็แค่ “หยุดยิงกันหรือยัง”
ปัญหาไม่ใช่เขาไม่เชื่อเรา แต่เพราะเขาไม่รู้ว่าจะเชื่อใคร และที่สำคัญกว่านั้น คือ เขาไม่สนใจด้วยว่าใครเป็นฝ่ายผิด
เหมือนเราวันนี้ ขนาดรัสเซียเป็นผู้รุกรานยูเครนชัดๆ ยังมีคนไทยจำนวนมากโทษยูเครนว่าไปยั่วเขาก่อน และอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่สนใจว่าใครผิด แต่แค่อยากให้หยุดรบกัน (แถมยังเชื่อว่ายูเครนควรหยวนๆ ยอมยกแผ่นดินบางส่วนให้รัสเซียด้วย)
อิสราเอล-ปาเลสไตน์ ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ตัวอย่างที่อื่นมีอีกมากมายว่าปัญหาที่คนสนใจไม่ใช่เรื่องผิดเรื่องถูก จะเป็นข่าวให้เขาเห็นก็เพียงเมื่อมีการใช้ความรุนแรง
ที่เล่าไม่ใช่อะไรหรอกครับ แค่จะสื่อว่านอกจากเรากับกัมพูชาแล้ว ไม่มีใครคนอื่นเขาสนใจว่าใครเริ่มก่อนอย่างไร เขาแค่เหมารวมว่า “เป็นความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมายาวนาน”
ความจริงนี้ทำให้เราเสียเปรียบฮุนเซน เพราะในขณะที่ฮุนเซนได้ประโยชน์จากการสร้างสถานการณ์เรามีแต่เสียทั้งในส่วนของเลือดเนื้อ ความเดือดร้อนชาวบ้าน การท่องเที่ยว และบรรยากาศการลงทุน
การรักษาความสงบดีที่สุด แต่หากมีการละเมิดเราอีก เราต้องพร้อมตอบโต้ในทุกมิติเพื่อให้ฮุนเซนมีต้นทุนที่สูงขึ้น ผมไม่ได้พูดเพียงแต่การทหารแต่หมายถึงมาตรการควํ่าบาตรในทุกด้าน รวมไปถึงการเจรจากำหนดเงื่อนไขกับ ASEAN ไว้ด้วยว่า การกระทำเช่นใดจะนำไปสู่การ sanction โดยกลุ่มประเทศสมาชิกทั้งหมด
การ sanction แม้มีผลทำให้ประชาชนที่บริสุทธิ์ของประเทศเป้าหมายต้องเดือดร้อน แต่ก็ถือเป็นเครื่องมือที่ใช้ในโลกสากล ไม่มีใครอยากต้องใช้แต่หากมีผลช่วยระงับไม่ให้มีการใช้ความรุนแรงก็ถือว่าดีกว่า”
4) วิเคราะห์ : สิ่งที่นายกรณ์ฉายภาพออกมา นั่นแปลว่า ไทยต้องกดดันไปโดยตรงที่ “ผลประโยชน์ของฮุนเซน” ผู้สร้างสถานการณ์เลวร้ายนี้ให้เกิดขึ้น บ่มประชาชนกัมพูชาให้ร้อนระอุด้วยความยากลำบากและการถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้นำ จนลุกฮือขึ้นโค่นล้มผู้นำด้วยตัวของเขาเอง ในเวลาเดียวกันก็ต้องใช้แรงกดดันจากกลุ่มอาซียน ซึ่งดูว่าจะเข้าใจ ใกล้ตัว และได้รับผลกระทบมากกว่านานาชาติในเวทีใหญ่
คำถามคือ สติปัญญาและหัวใจ ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย จะกล้าทำอะไรที่กระทบโดยตรงกับ “ตระกูลฮุน” จริงๆ อย่างนั้นหรือ?
จิตกร บุษบา
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี