หากเริ่มต้นนับถอยหลัง “คดีตากใบ”โศกนาฏกรรม เหลือเวลาอีกไม่เกิน 48 ชั่วโมง คดีประวัติศาสตร์โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ก็จะหมดอายุความ ผู้ซึ่งรับผิดชอบ-บัญชาการ-สั่งการโดยเฉพาะ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 กลับคงหายหัวเก็บตัวเงียบด้วยพฤติกรรมโจรเทวดาป่วยอย่างมีปริศนา เรื่องนี้อาจเป็นเงื่อนไขที่อาจทำให้สถานการณ์ไฟใต้ปะทุรุนแรง อีกครั้ง

โศกนาฏกรรมฝันร้าย ที่ถูกฝังจำสะสมเรื้อรังมานานกว่า 2 ทศวรรษ หรือกว่า 20 ปีเต็มแม้ว่ารัฐบาลที่ผลัดกันเข้ามาบริหารประเทศจะปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ สลับกันไปมา

ระหว่างนโยบายการเมือง-นำการทหาร หรือการทหาร-นำการเมือง เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทสถานการณ์ทว่าในนโยบายรัฐบาล“นางดอกไม้พลาสติก /- มาดามแพ - แพทองธารชินวัตร” บรรจุวาทกรรมสวยหรูตามแบบฉบับหลวงประดิษฐ์วาทกรรมไว้วรรคตอนหนึ่งว่า

“รัฐบาลจะส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม สนับสนุนการพูดคุยเพื่อสันติภาพและสันติสุข”

ทว่าตั้งแต่พรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาลไม่ว่านายกรัฐมนตรีจะหน้าตาแบบไหน ยังไม่มีความชัดเจนกับนโยบายจนออกดอก-ออกผล รวมถึงมิติความยุติธรรม ในคดีการสลายการชุมนุมในพื้นที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาสที่กำลังจะหมดอายุความ 25 ต.ค.นี้

ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ผู้ต้องหาคนสำคัญอย่าง พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี คนของรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ในฐานะสส.ระบบบัญชีรายชื่อล่องหน ในขณะที่แกนนำพรรคเพื่อไทยปัดความรับผิดชอบ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะน่าจะเป็นความรับผิดชอบของทุกฝ่าย

ต้องไม่ลืมว่า พล.อ.พิศาล ผู้นี้เป็นที่ปรึกษา คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ที่มีชื่อของตัวตึงพรรคประชาชนอย่าง “รังสิมันต์ โรม” เป็นประธานคณะกรรมาธิการ มีโจทย์คนสำคัญอย่าง “รอมฎอน ปันจอร์” สส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ร่วมเป็นกรรมาธิการไม่ได้พูดคุยหารือกันในคณะถึงคดีตากใบเลยอย่างนั้นหรือ

หากคดีหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.นี้ คงไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดการต่อต้านเชิงสัญลักษณ์อย่างเดียวหรือจะลุกลามบานปลาย แต่จะเป็นเหตุการณ์ที่สะท้อนถึงความไม่พอใจอะไรต่างๆ

ผู้บริสุทธิ์ ทั้งพระสงฆ์, ครู, กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน, อาสาสมัครทหารพราน, ทหารตำรวจ,ประชาชนเสียชีวิตแทนนักการเมืองเสียชาติเกิดแทนติ่งสัมภเวสีมามากพอแล้ว ถึงเวลาที่รัฐบาลต้องตัดเนื้อร้าย ใช้อาศัยช่องทางอำนาจพิเศษ... มติ ครม.หรือตราพระราชกำหนดต่ออายุความคดีนี้ เพื่อนำตัวผู้ต้องหามาเข้ากระบวนการยุติธรรม ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากที่จะเรียกประชุมครม.นัดพิเศษออกพ.ร.ก.ให้แล้วเสร็จก่อนวันสิ้นอายุความคดีตากใบ

อย่างน้อยเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจความจริงใจกับนโยบายรัฐบาลกับสถานการณ์ไฟใต้ที่ “มาดามแพ /- แพทองธารชินวัตร” แถลงต่อรัฐสภาด้วย

อย่าบริหารสถานการณ์ด้วยพฤติกรรม “ถ่มน้ำลายรดฟ้า” ร่ำไป

หากคดีตากใบไม่คลี่คลาย บานปลายไปสู่ความรุนแรง ท่านและรัฐบาลของท่านก็ไม่ต่างจากคนขายชาติเพื่อตนเองและพวกพ้อง