วันอังคาร ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / บทบรรณาธิการ
บทบรรณาธิการ

บทบรรณาธิการ

วันอังคาร ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
วิกฤตฝุ่นควัน PM2.5 ที่ไม่มีวันจบ

ดูทั้งหมด

  •  

ช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลสูงเกินค่ามาตรฐาน ดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) เฉลี่ยพุ่งสูงถึงระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชนทั่วไป นำไปสู่กระแสเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ทำให้รัฐบาลต้องประกาศมาตรการระยะสั้น เช่น เปิดให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสายและรถเมล์ ขสมก. ฟรี รวมถึงขอความร่วมมือให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนอนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน (WFH) เพื่อช่วยลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว รณรงค์ให้ประชาชนสวมหน้ากากกันฝุ่น เพื่อแก้ไขสถานการณ์วิกฤตแต่มาตรการเหล่านี้แม้ช่วยบรรเทาสถานการณ์ในระยะสั้น แต่ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุแต่อย่างใด

ทั้งที่ในความเป็นจริง ปัญหาฝุ่นควันนี้ยังคงอยู่และส่งผลกระทบต่อพื้นที่อื่น เช่น ภาคเหนือ ที่ต้องเผชิญกับหมอกควันจากไฟป่าและการเผาพื้นที่เกษตรกรรม และที่สำคัญไปกว่านั้น ฝุ่น PM2.5 นี้เป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมและสาธารณสุขที่เกิดซ้ำซากในทุกปีโดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงที่บรรยากาศลมสงบนิ่ง ฝุ่นละอองไม่สามารถลอยตัวขึ้นสู่อากาศหรือเคลื่อนที่ไปไหนได้ฝุ่นละอองเหล่านั้นจึงลอยค้างอยู่ในชั้นบรรยากาศนานขึ้น ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ ต้องเผชิญกับฝุ่นควันพิษ ได้รับผลกระทบต่อสุขภาพซ้ำแล้วซ้ำแล้วโดยไม่มีวันจบสิ้น วนเวียนเช่นนี้ทุกปี


ทว่า เมื่อเวลาผ่านไป ค่าฝุ่นค่อยๆ ลดลงตามธรรมชาติ ความสนใจของสังคม สื่อ และภาครัฐก็ค่อยๆ จางหายไม่เข้มข้นเท่าตอนที่ฝุ่นปกคลุมพื้นที่จนเกิดวิกฤต เสมือนว่าการแก้ปัญหาเรื่องนี้เป็นเพียงกระแสที่กระตุ้นให้สังคมและภาครัฐตื่นตัวให้หาทางแก้ไข มากกว่าการดำเนินนโยบายที่จริงจังและต่อเนื่อง ทำให้ทุกวันนี้ประเทศไทยยังไม่มีทางออกที่เหมาะสมที่จะป้องกันและแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน

หลายประเทศที่เคยเผชิญปัญหามลพิษทางอากาศอย่างรุนแรงสามารถพลิกสถานการณ์ได้ด้วยมาตรการที่เป็นระบบและต่อเนื่อง เช่น ปักกิ่ง ประเทศจีนที่เคยมีปัญหาหมอกพิษรุนแรง รัฐบาลได้ใช้มาตรการระยะยาว โดยการควบคุมการเผาถ่านหิน และลดการใช้ยานพาหนะที่ปล่อยมลพิษ และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ทำให้ค่าฝุ่น PM2.5 ในปักกิ่งลดลงกว่า 50% ภายใน 10 ปี

ในขณะที่ประเทศไทย แม้รัฐบาลจะมีแนวทางในการควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษ เช่น การห้ามการเผาในที่โล่งทั้งในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม สร้างจิตสำนึก รณรงค์การใช้รถสาธารณะ แต่หากดำเนินการเพียงเพื่อรองรับกระแสสังคมโดยไม่มีความต่อเนื่อง ก็ไม่อาจสร้างความเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงได้

นอกจากนี้ อีกประเด็นที่ต้องยอมรับคือพฤติกรรมของประชาชนเองก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ปัญหาฝุ่นในประเทศยังคงเรื้อรังและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
โดยเฉพาะเรื่องการใช้รถส่วนตัว เพราะสะดวกกว่า ขณะที่ระบบขนส่งสาธารณะยังไม่ทั่วถึงและมีค่าใช้จ่ายสูง และการเผาตอซังข้าวและพืชไร่ ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกและประหยัดที่สุด การบังคับใช้กฎหมายจึงยังไม่ได้ผลเต็มที่เพราะเกษตรกรมองว่าไม่มีทางเลือกอื่นที่คุ้มค่ากว่า

การแก้ปัญหาฝุ่นควันพิษอย่างยั่งยืนจึงไม่ใช่แค่การบังคับใช้กฎหมายหรือออกมาตรการระยะสั้นเพื่อบรรเทาสถานการณ์ แต่ต้องมาพร้อมกับการสร้างระบบที่จะกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนพฤติกรรมของประชาชนร่วมกับการรณรงค์ให้ประชาชนเห็นถึงผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ที่จะเกิดกับตัวเองในระยะยาว ถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายของรัฐบาลว่าจะทำอย่างไรให้สามารถผสาน “การบังคับใช้กฎหมาย” เข้ากับ “การสร้างทางเลือกที่คุ้มค่า” สำหรับประชาชน การแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ก็จะไม่ใช่การออกมาตรการตามกระแสอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนสำหรับประเทศ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
15:46 น. แฉแหล่ง‘เขมร’ซื้อน้ำมันมารบกับไทย ชี้มีทั้ง‘ถูกกม.-เถื่อน-ทรานซิส’
15:35 น. เปิดวีรกรรม ส.อ.กัมปนาท ยอมขึ้นรถคนสุดท้าย ท่ามกลางกระสุน BM21 จนตัวตายเพื่อให้น้องๆรอด
15:09 น. นรข.สกัดจับ'กระเทียมเถื่อน' ขนข้ามโขงบ้านนาโปน้อย
15:07 น. ‘โค้ชวัง’คุมต่อ!ทำช้างศึกล่าแชมป์เอเชียยู-23
15:05 น. เทพีแห่งวงการหนังผู้ใหญ่ แปลงโฉมเป็น ผู้พิทักษ์มือ เพื่อ คนพิการ
ดูทั้งหมด
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 20-26 ธ.ค.68
เอาคะแนนผมไปเลย! 'น็อต วรฤทธิ์'โพสต์ตัดสินใจแล้ว จนคนแห่คอมเมนต์สนั่น
ขอกำลังใจด้วยนะคะ ธิษะณา โพสต์พร้อมสมัครงานใหม่ หลังพรรคไม่ส่งสมัครสส.กทม.
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 21-27 ธ.ค.68
ขอโอกาส! ‘ศิริภา’อาสาลงชิงสส.พญาไท-ดินแดง ลั่นจะแก้ทุกปัญหา-สู้เพื่อชาติไปด้วยกัน
ดูทั้งหมด
ล้างแค้นแสนสยอง
ว่าด้วยสื่อ
หักปีกอีแร้ง
ยังไม่หยุดยิง ไทยเร่งยึดกุมความได้เปรียบทุกมิติ
สดุดี 22 ทหารกล้าที่พลีชีพเพื่อชาติ
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แฉแหล่ง‘เขมร’ซื้อน้ำมันมารบกับไทย ชี้มีทั้ง‘ถูกกม.-เถื่อน-ทรานซิส’

‘โค้ชวัง’คุมต่อ!ทำช้างศึกล่าแชมป์เอเชียยู-23

เทพีแห่งวงการหนังผู้ใหญ่ แปลงโฉมเป็น ผู้พิทักษ์มือ เพื่อ คนพิการ

'โฆษกรัฐบาล'เผยครม. เห็นชอบหลักการ งบฯ เลือกตั้ง กกต. ขอมา 8,978 ล้าน

วังญี่ปุ่นเผยแพร่ภาพ สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ ทรงเจริญพระชนมายุ92พรรษา

ครม. จัดเต็ม ไฟเขียว งบฯกว่า 5 พันล้าน เสริมเขี้ยวเล็บ กองทัพ ป้องอธิปไตย

  • Breaking News
  • แฉแหล่ง‘เขมร’ซื้อน้ำมันมารบกับไทย ชี้มีทั้ง‘ถูกกม.-เถื่อน-ทรานซิส’ แฉแหล่ง‘เขมร’ซื้อน้ำมันมารบกับไทย ชี้มีทั้ง‘ถูกกม.-เถื่อน-ทรานซิส’
  • เปิดวีรกรรม ส.อ.กัมปนาท ยอมขึ้นรถคนสุดท้าย ท่ามกลางกระสุน BM21 จนตัวตายเพื่อให้น้องๆรอด เปิดวีรกรรม ส.อ.กัมปนาท ยอมขึ้นรถคนสุดท้าย ท่ามกลางกระสุน BM21 จนตัวตายเพื่อให้น้องๆรอด
  • นรข.สกัดจับ\'กระเทียมเถื่อน\' ขนข้ามโขงบ้านนาโปน้อย นรข.สกัดจับ'กระเทียมเถื่อน' ขนข้ามโขงบ้านนาโปน้อย
  • ‘โค้ชวัง’คุมต่อ!ทำช้างศึกล่าแชมป์เอเชียยู-23 ‘โค้ชวัง’คุมต่อ!ทำช้างศึกล่าแชมป์เอเชียยู-23
  • เทพีแห่งวงการหนังผู้ใหญ่ แปลงโฉมเป็น ผู้พิทักษ์มือ เพื่อ คนพิการ เทพีแห่งวงการหนังผู้ใหญ่ แปลงโฉมเป็น ผู้พิทักษ์มือ เพื่อ คนพิการ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

นักการเมืองต้องระวังตัว

นักการเมืองต้องระวังตัว

23 ธ.ค. 2568

จับโจรฮุนเซนกลางเวทีอาเซียน

จับโจรฮุนเซนกลางเวทีอาเซียน

22 ธ.ค. 2568

บทบรรณาธิการ :ถ้าไม่มีทหาร  นักการเมืองจะรบแทนไหม

บทบรรณาธิการ :ถ้าไม่มีทหาร นักการเมืองจะรบแทนไหม

21 ธ.ค. 2568

ประเทศไทยผู้โดดเดี่ยว

ประเทศไทยผู้โดดเดี่ยว

20 ธ.ค. 2568

มิตร-ศัตรูยามศึกสงคราม

มิตร-ศัตรูยามศึกสงคราม

19 ธ.ค. 2568

บทเรียนราคาแพงจาก  ‘สนามทดลอง’ ทางการเมือง

บทเรียนราคาแพงจาก ‘สนามทดลอง’ ทางการเมือง

18 ธ.ค. 2568

เมืองไทยยังมีคนดัดจริตอีกมาก

เมืองไทยยังมีคนดัดจริตอีกมาก

17 ธ.ค. 2568

เปิดมติครม.เร่งรัดภาษียาสูบอัตราเดียว

เปิดมติครม.เร่งรัดภาษียาสูบอัตราเดียว

16 ธ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved