วันอังคาร ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ จากที่พรรคร่วมฝ่ายค้านล็อคเป้า“มาดามแพทองโพย” แล้วลบชื่อ“ทักษิณ ชินวัตร”ออกจากญัตติ เปลี่ยนเป็น“บุคคลในครอบครัว” ซึ่งจะมีการสัประยุทธ์กันในวันจันทร์ที่ 24 มีนาคมต้นสัปดาห์หน้านั้น ถ้าพรรคประชาชนเอาจริง ไม่ได้เล่น“ปาหี่” คงซัดกันมันหยดถึงเลือดถึงเนื้อ
เพราะในความเป็นผู้นำของ“มาดามแพทองโพย” ที่พรรคฝ่ายค้านระบุว่า ไม่มีคุณสมบัติ และไม่มีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายบริหารด้วยประการทั้งปวง ทั้งขาดภาวะผู้นำ ขาดวุฒิภาวะ ขาดความรู้ความสามารถ และขาดเจตจำนงในการบริหารราชการแผ่นดินที่จะแก้ปัญหาให้แก่ประเทศชาติและประชาชนนั้น จิ้มไปตรงไหนก็มีแต่แผลเหวอะหวะ
แผลที่ว่านั้น ก็ล้วนมีเหตุมาจากบุคคลใน“ครอบครัวชินวัตร”ทั้งสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การยอมให้“ทักษิณ ชินวัตร”ผู้เป็นบิดาชี้นำและชักใย ดังที่พรรคฝ่ายค้านตั้งธงไว้ในญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ อีกทั้งไม่มีความรับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ เพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเอง ครอบครัว และพวกพ้อง เป็นตัวตั้งอยู่เหนือผลประโยชน์ของส่วนรวม
ตรงคำว่า“เพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเองและครอบครัว”นี่แหละ คือแผลใหญ่ของ“มาดามแพทองโพย” แค่ฝ่ายค้านจิ้มไปที่“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”นักโทษหนีคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ที่มีศักดิ์เป็น“อา”เพียงคนเดียว ก็สะเทือนเลื่อนลั่น ฐานที่“มาดามแพทองโพย”เห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเองและครอบครัวเป็นตัวตั้ง อยู่เหนือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน
ไม่เพียงแต่เท่านั้น กรณีของ“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ยังถือว่า“มาดามแพทองโพย”ในฐานะผู้นำรัฐบาล ได้“ทำลายหลักนิติรัฐและระบบยุติธรรม”ตามที่ฝ่ายค้านระบุไว้ในญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจอีกด้วย
ทั้งสองประเด็นอันเกี่ยวพันกับ“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ที่ว่ามานั้น ในประเด็นแรกเพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเองและครอบครัว จึงทำให้“มาดามแพทองโพย”ไม่ใช้อำนาจหน้าที่ สั่งให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องติดตามจับตัว“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ซึ่งศาลได้ออกหมายจับ เพื่อนำตัวกลับมารับโทษทัณฑ์ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
กรณีของ“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ถือเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องของ“โจรกระจอก” ประเภทลักเล็กขโมยน้อยฉกชิงวิ่งราว หรือเป็นคดีมโนสาเร่ หากแต่เป็นคดีทุจริตโกงบ้านกินเมืองขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อันทำให้รัฐหรือประเทศเสียหายมากกว่า 5 แสนล้านบาท จากการละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวที่เกี่ยวกับการระบายข้าว
ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2560 ซึ่งเป็นการอ่านคำพิพากษาลับหลัง ได้ตัดสินสั่งจำคุก“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” 5 ปี ไม่รอลงอาญา พร้อมออกหมายจับ เนื่องจากจำเลยหลบหนีออกจากประเทศโดยไม่ยอมมาฟังคำตัดสินของศาลฯไปก่อนหน้าแล้ว จากที่ศาลฯได้นัดตัดสินคดีในวันที่ 25 สิงหาคม 2560 นั้น ระบุว่า
“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ในฐานะนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้ารัฐบาล และประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) มีพฤติกรรมละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ส่อแสดงเจตนาโดยชัดแจ้ง อันเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับพวก แสวงหาผลประโยชน์จากโครงการรับจำนำข้าว ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบการเงินการคลังของประเทศ และเกิดผลกระทบต่องบประมาณแผ่นดินโดยตรง ถือได้ว่าเป็นการกระทำทุจริตต่อหน้าที่
ความเสียหายที่เกิดจากการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ของ“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ผู้เป็นอาของ“มาดามแพทองโพย” รัฐต้องตามล้างตามเช็ดชดใช้หนี้คืนให้แก่ ธกส. ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยประมาณ 9.5 แสนล้านบาท จนถึงวันนี้ก็ยังชดใช้ไม่หมด โดยยังค้างชำระอยู่อีกประมาณ 1 แสนล้านบาท ซึ่งก่อนหน้าที่พรรคเพื่อไทยจะเข้ามาเป็นรัฐบาลนั้น รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีของรัฐบาลทยอยชำระคืนไปแล้ว 7.8 แสนล้านบาท
ดังนั้น กรณีของ“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”จึงไม่ใช่เรื่องของโจรกระจอก หรือคดีมโนสาเร่ ที่“มาดามแพทองโพย”ในฐานะผู้นำรัฐบาล จะดูดายทำเพิกเฉยไม่หือไม่อือเหมือนทองไม่รู้ร้อนได้
และถ้าหากว่า“มาดามแพทองโพย” มีความรับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ โดยไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเองและครอบครัว และเห็นผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นตัวตั้ง ก็ควจะต้องนำตัว“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”นักโทษคดีทุจริตหนีอาญาแผ่นดินกลับมารับโทษทัณฑ์ให้ได้
ทั้งนี้ การติดตามหาตัว“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นเหมือนงมเข็มในมหาสมุทรแต่อย่างใด เพราะทุกวันนี้ไม่เพียงแต่คนไทยทั้งประเทศเท่านั้นที่รู้ว่ายิ่งลักษณ์ลั้ลลาอยู่ที่กรุงลอนดอน ในอังกฤษ แม้แต่“มาดามแพทองโพย”ก็เคยให้สัมภาษณ์สื่อว่า มีการโทรศัพท์คุยกับ“อาปู”ของเธอเป็นประจำ จะมีก็แต่ตำรวจไทยเท่านั้นที่ไม่รู้ว่ายิ่งลักษณ์หนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหน
สำคัญที่สุดก็คือ “มาดามแพทองโพย”เป็นผู้ทำลาย“หลักนิติรัฐและระบบยุติธรรม” เพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเองและครอบครัว อยู่เหนือผลประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมือง
จึงปล่อยให้นักโทษอาญาแผ่นดินที่ชื่อ“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ลอยนวลอยู่ได้อย่างสบาย ซึ่งก็ไม่ต่างจาก“ทักษิณ ชินวัตร”มีโทษจำคุกแต่ก็ไม่เคยติดคุกแม้แต่วันเดียว !
รุ่งเรือง ปรีชากุล

ทุ่นระเบิดเขมร ทำสันติภาพโลกสั่นคลอน ไม่มีบทลงโทษใดใดจากภาคีสมาชิก
'อนุทิน'บินด่วนอุดรฯ ส่งหัวใจดวงที่153 หลังจบครม.นัดสุดท้าย บอกปีใหม่ไม่หยุด ไปชายแดน
เจษฏ์ ปูด ทุนเทา ทุ่มแสนล้านซื้อประเทศ หัวละ 4000 ยึดอำนาจรัฐ
ทนายน้ำมนต์ เดือด นำทีมผู้สมัครหญิง สส กทม ของพรรค ประณาม โดม ปกรณ์ ลัม
ภูมิใจไทยส่ง'นรเสฏฐ์ เธียรประสิทธิ์' ลงสู้ศึกพญาไท ลุ้นเจาะไข่แดง กทม.

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี