ปัญหา tariffs 36 บวก 10 เปอร์เซ็นต์ที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าจะเก็บจากสินค้าส่งออกของไทยที่ส่งไปขายในสหรัฐฯ ทำให้เกิดคำถามว่าแล้วไทยจะแก้ปัญหานี้อย่างไร
ตอบในขณะนี้ว่า ยังไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร เพราะนายกรัฐมนตรีหุ่นกระบอกของไทย คือแพทองธารชินวัตร ยังไม่เคยตอบเรื่องนี้ชัดๆ หลังจากที่เธอเคยปล่อยไก่ตัวใหญ่ไปแล้วว่า เมื่อทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่สอง จะทำให้การค้าขายระหว่างไทยกับสหรัฐฯ จะดีขึ้น ทำมาค้าคล่อง
จวบจนบัดนี้ ยังไม่มีคำตอบชัดๆ ว่าทางการสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดีทรัมป์จะหารือกับไทยหรือไม่ หากจะหารือ จะพบกันในวันไหน ทั้งนี้ต้องบอกว่าคนไทยที่ติดตามเรื่องนี้ยังไม่มีคำตอบชัดเจนในประเด็นดังกล่าว เพราะรัฐบาลไทยไม่เคยพูดเรื่องนี้ให้ชัดเจน เมื่อนายกรัฐมนตรีหุ่นกระบอกตอบก็จะไปทางหนึ่ง ครั้นเมื่อรองนายกรัฐมนตรี ที่ควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พิชัย ชุณหวชิร ตอบ ก็จะพูดไปอีกทางหนึ่ง ครั้น พิชัย นริพทะพันธ์ุ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์พูดเรื่องนี้ ก็จะไปอีกทาง สรุปคือทั้งสามรายพูดเรื่องเดียวกัน แต่ไปกันคนละทิศละทาง
เอาเพียงเรื่องง่ายๆ ว่า ตกลงแล้วทางการสหรัฐฯ ตอบตกลงรับนัดฝ่ายไทยที่จะไปเจรจาเรื่อง tariffs ป่วนโลกแล้วหรือยัง เพียงคำถามนี้ยังไม่สามารถหาคำตอบชัดๆ ได้ เพราะ แพทองธาร บอกว่าสหรัฐฯ เขาส่งเรื่องให้เรากลับมาแก้ไข ถามว่าแก้อะไร ก็ตอบไม่ได้ ถามว่าเขานัดเมื่อไร ก็ตอบไม่ได้
แต่เมื่อฟัง พิชัย ชุณหวชิร พูดเรื่องนี้ ก็กลับกลายเป็นเหมือนว่าทางสหรัฐฯ ยังไม่ตกลงรับนัด ยังไม่ได้กำหนดวันเจรจา เมื่อถามต่อไปว่าแล้วจะไปเจรจาในประเด็นใด ก็ไม่มีคำตอบชัดๆ
มีการพูดในทำนองเสียดสีประชดประชันผสมเย้ยหยันว่า ต้องส่ง แพทองธาร ไปเจรจากับทรัมป์ เพราะจะทำให้ทรัมป์เสียสติ สติแตก แล้วอาจจะเป็นบ้า จนสุดท้ายทรัมป์ต้องเลิกคิดเรื่อง tariffs ป่วนโลก
มันเป็นเรื่องน่าคิดมากกับข้อเสนอดังกล่าว เพราะแม้จะเป็นเรื่องไร้สาระ แต่หากคิดดีๆ มันก็น่าจะเป็นผลดีกับไทยก็ได้ เพราะหากทรัมป์ยอมรับนัดแพทองธาร ในการเจรจาประเด็น tariffs ป่วนโลก ไทยอาจจะแก้เผ็ดทรัมป์ได้อย่างสาแก่ใจ เพราะเมื่อแพทองธารคุยกับทรัมป์ในเรื่องใหญ่ที่ทรัมป์ต้องการป่วนโลก แล้วทรัมป์อาจจะเกิดสำนึกขึ้นมาโดยพลันว่า ตนเองไม่น่ารับนัดแพทองธารเลย เพราะเป็นการรับนัดที่ถือได้ว่าสร้างความผิดพลาดอย่างมหันต์ให้กับตัวของทรัมป์
ลองคิดดูก็แล้วกันว่า หากแพทองธารคุยกับทรัมป์แล้วมีคำว่า less for more, more for less ทรัมป์จะต้องงงจนสติแตก หรือหากทรัมป์ได้ยินแพทองธาร บอกว่า การที่ทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้วทำให้การค้าการขายระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ดีขึ้น ทรัมป์คงต้องคิดจนสมองระเบิด เพื่อจะหาเหตุผลให้ได้ว่าการค้าขายของไทยกับสหรัฐฯ จะดีงามขึ้นมาได้อย่างไร รับรองว่าทรัมป์ไม่มีวันหาคำตอบเรื่องนี้ได้ จนสุดท้ายทรัมป์อาจจะต้องประกาศยกเลิกการเก็บ reciprocal tariffs เป็นการเฉพาะให้ไทย หรือไม่ก็ประกาศตัดความสัมพันธ์ด้านการค้าขายกับไทยไปเลย
ถามจริงๆ คุณคิดว่าหากทรัมป์ได้เจรจากับแพทองธารจริงๆ ทรัมป์จะเกิดอาการอะไรหลังจากพูดคุยกันได้ประมาณ 3 นาที หรือว่าทรัมป์อาจจะต้องเรียกคนอื่นในคณะรัฐมนตรีของทรัมป์มาคุยกับแพทองธารแทนตนเอง เพราะไม่เข้าใจว่าแพทองธารพูดอะไร หรือไม่ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า ทรัมป์ขอยุติการเจรจากลางคัน แล้วบอกว่าขอเป็นฝ่ายเดินทางไปเจรจาด้วยตนเองที่ประเทศไทย เพราะจะได้ถามบรรดารัฐมนตรีหลายคนที่แวดล้อมแพทองธารว่า ตกลงแล้วแพทองธารพูดอะไร
ดังนั้น เราน่าจะช่วยกันส่งแพทองธารไปเจรจากับทรัมป์โดยเร็ว ซึ่งน่าจะให้ผลดีกับไทยได้อย่างสุดจะพรรณนา เพราะอย่างน้อยๆ แพทองธารคงทำให้ทรัมป์ปวดหัวจนทำอะไรไม่ถูก แล้วทรัมป์คงไม่กล้าพูดอีกต่อไปว่า kiss my ass. เพราะจะเจอการโต้กลับด้วย less for more, more for less
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี