วันพฤหัสบดี ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันพุธ ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
อานุภาพรัฐธรรมนูญปราบโกง มาตรา 144

ดูทั้งหมด

  •  

รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน มีบทบัญญัติมาตรา 144

ระบุห้าม สส. คณะกรรมาธิการ หรือคณะรัฐมนตรี เปลี่ยนแปลงงบประมาณ เว้นแต่ในทางลดหรือตัดทอน และห้ามแตะต้องรายจ่ายที่เป็น (1) เงินส่งใช้ต้นเงินกู้ (2) ดอกเบี้ยเงินกู้ (3) เงินที่กฎหมายกำหนดให้จ่าย


หากมีการฝ่าฝืนข้อห้ามนี้ บทลงโทษสูงสุดถึงขั้นให้พ้นจากตำแหน่ง เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง และถูกเรียกเงินคืนภายใน 20 ปี

1. สมัยรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา และรัฐบาลนายกฯอุ๊งอิ๊งค์ ได้มีการปรับเปลี่ยนรายการงบประมาณ โยกย้ายงบประมาณ หรือปรับลดหรือตัดทอนงบประมาณรายจ่ายสำหรับส่งใช้ต้นเงินกู้ ดอกเบี้ยเงินกู้ และรายจ่ายตามข้อผูกพันที่กำหนดให้จ่ายตามกฎหมาย เพื่อนำเงินมาแจกในโครงการเติมเงินหมื่น

เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์, นายสมชาย แสวงการ,นายเจษฎ์ โทณะวณิก และ นายนิติธร ล้ำเหลือ ได้ร่วมกันยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป.ป.ช.

เพื่อขอให้สอบสวนกรณีที่อาจมีการกระทำฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ในเรื่องการจัดทำและแปรญัตติงบประมาณดังกล่าว

ซึ่งตามกฎหมายบอกว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.ต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 15 วัน เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเอาผิดตามคำฟ้องต่อไป (ซึ่งน่าจะครบกำหนด 15 วันหลังจากหักลบวันหยุดราชการต่างๆ นั้นแล้ว จึงคาดว่า ป.ป.ช.น่าจะก็ต้องส่งคำร้องนี้ไปยังศาลรัฐธรรมนูญภายในสัปดาห์นี้)

2. ล่าสุด สำนักข่าวอิศรารายงานว่า เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติรับเรื่อง กรณีกล่าวหา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพวกเป็นร้อยคน จัดทำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคหนึ่งและวรรคสอง

จำนวน 2 สำนวน

สำนวนแรก มีผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่

1. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

2. นายเศรษฐา ทวีสิน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

3. คณะรัฐมนตรี

4. คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568

5. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และสมาชิกวุฒิสภา (สว.)ที่ลงมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

6. เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณดังกล่าว

ข้อกล่าวหาระบุว่า มีพฤติการณ์ฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคหนึ่งและวรรคสอง กรณีปรับลดหรือตัดทอนงบประมาณรายจ่ายสำหรับส่งใช้ต้นเงินกู้ดอกเบี้ยเงินกู้ และรายจ่ายตามข้อผูกพันที่กำหนดให้จ่ายตามกฎหมาย และเข้าไปมีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ซึ่งมีการนำงบประมาณไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการเติมเงิน 10,000 บาท หรือ แจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต

ตามที่ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบก่อนหน้านี้

สำนวนที่สอง มีผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ 

1. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย

2. นายสาโรจน์ หงษ์ชูเวช

3. นายพิษณุ หัตถสงเคราะห์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย

4. นายจักรพงษ์ แสงมณี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี

5. ผู้บริหารระดับสูงสำนักงบประมาณ 

ข้อกล่าวหาระบุว่ามีพฤติการณ์ฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสอง กรณีมีพฤติการณ์ใช้สถานะหรือตำแหน่งกระทำการสั่งการ บังคับ ก้าวก่าย หรือเข้าแทรกแชง ในการจัดทำงบประมาณการอนุมัติงบประมาณ การบริหารงบประมาณ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2568 ผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพื่อประโยชน์ของตนเอง และผู้อื่น หรือพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

แหล่งข่าวจากสำนักงาน ป.ป.ช. ระบุว่า “คดีนี้ กำหนดกรอบการสอบสวนภายใน 60 วัน ถ้าผิดจริงในสำนวนแรก ป.ป.ช.จะต้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ถ้าศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่ามีความผิด เท่ากับ ครม. น.ส.แพทองธารต้องพ้นตำแหน่งทั้งคณะรวมถึง สส.และสว. เกือบทั้งสภาต้องพ้นจากตำแหน่งด้วย”

อย่างไรก็ดี คดีนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่มีการสรุปผลการตรวจสอบว่ามีความผิดเกิดขึ้น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ยังถือว่าเป็น
ผู้บริสุทธิ์อยู่ 

3. กรณีนี้ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ เคยแถลงรายละเอียดในสาระสำคัญ ระบุว่า

สส. จะแปรญัตติงบฯ รายจ่ายประจำปี โดยการเปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขเพิ่มเติมรายการ หรือจำนวนงบประมาณในรายการมิได้ แต่อาจแปรญัตติในทางลด หรือตัดทอนรายจ่ายซึ่งมิใช่รายจ่ายตามข้อผูกพันอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ (1) เงินส่งใช้ต้นเงินกู้ (2) ดอกเบี้ยเงินกู้ (3) เงินที่กำหนดให้จ่ายตามกฎหมาย

ในการพิจารณาของ สส., สว. หรือคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเสนอการแปรญัตติ หรือการกระทำด้วยประการใดๆ ที่มีผลให้ สส., สว. หรือ กมธ. มีส่วน ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย จะกระทำมิได้ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ที่บัญญัติในวรรคสามเพิ่มเติม

แต่ในกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้กระทำการหรืออนุมัติให้กระทำการ หรือรู้ว่ามีการกระทำดังกล่าวแล้ว แต่ไม่ได้สั่งยับยั้ง ให้ ครม. พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ นับแต่วันที่ศาลมีคำวินิจฉัย และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งนั้น เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนไม่ได้อยู่ในที่ประชุมในขณะที่มีมติ และให้ผู้กระทำการต้องรับผิดชอบชดใช้เงินนั้นคืนพร้อมด้วยดอกเบี้ยภายในเวลา 20 ปี นับแต่วันที่มีการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีนั้น

นายชาญชัย ยืนยันว่า การยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ครั้งนี้ เพื่อขอให้ดำเนินการตามกฎหมาย ป.ป.ช. และยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยพลัน

โดยมีรายชื่อผู้กระทำความผิดคือ ครม.ทั้งคณะ ยกเว้นคนที่พิสูจน์ได้ว่า ไม่อยู่ร่วมในการประชุมเพื่ออนุมัติปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 แปรญัตติผ่านวาระที่ 1 เรื่องการชำระเงินใช้ต้นเงินกู้ พร้อมชดเชยดอกเบี้ย และเป็นเงินกู้ ตามมาตรา 28 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ที่รัฐบาลสั่งให้ 5 ธนาคารของรัฐ ไปปรับลดงบประมาณที่จะใช้หนี้ ทั้งในส่วนของเงินส่งใช้ต้นเงินกู้, ดอกเบี้ยเงินกู้ และเงินที่กำหนดจ่ายตามกฎหมาย โดยนำเงินส่วนที่ปรับลดยอด 3.5 หมื่นล้านบาท เสนอเพิ่มเป็นรายจ่ายงบกลางเพื่อใช้ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ดิจิทัลวอลเล็ต ของรัฐบาล

รวมถึง สส. 309 คน, สว.175 คน ที่ร่วมโหวตผ่านงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ในวาระที่ 2-3

ขณะที่ กมธ.งบประมาณปี 2568 ทั้ง 72 คน ก็ร่วมทำผิดมาตรา 144 ของรัฐธรรมนูญที่ปรับเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 เพื่อประโยชน์ของตนเอง โดยมีการแปรญัตติในชั้น กมธ.งบประมาณปี 2568 โดยนำเงินจากเงินงบกลางยอด 1,256 ล้านบาท มาเพิ่มให้กองทุนเพื่อผู้ที่เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา

อีกทั้งมีหลักฐานเอกสารบันทึกการประชุม กมธ.งบประมาณปี 2568 ที่ สผ0003.05/5753 เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2567 ซึ่งขัดกับมาตรา 144 วรรคสอง ที่ระบุว่าการเสนอการแปรญัตติหรือการกระทำด้วยประการใดๆ ที่มีผลให้ สส., สว. หรือ กมธ. มีส่วนไม่ว่าโดยตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายจะกระทำมิได้ ยกเว้น กมธ.งบประมาณผู้ที่โหวตไม่เห็นชอบกับการแปรญัตติงบส่วนนี้

รวมถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯรัฐมนตรี ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งนายกฯ คนใหม่ในช่วงนั้น ได้รับทราบและนำรายชื่อ ครม. ของรัฐบาลขณะนั้นส่งให้สภาฯ รับทราบ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาปรับเปลี่ยนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 วาระ 2 และวาระ 3 ทั้งที่มีการอภิปรายไม่เห็นด้วย ในกรณีที่รัฐบาลสั่งปรับลดงบประมาณยอด 3.5 หมื่นล้านบาท มาใช้ในโครงการเพื่อประโยชน์ของรัฐบาลเอง อีกทั้งเป็นข้อผูกพันตามกฎหมายอื่นๆ แต่นายกฯ ทั้งที่ทราบและยังไม่สั่งระงับยับยั้ง

ขณะเดียวกัน ยังจัดสรรเงินงบประมาณดังกล่าวไปใช้ ถือเป็นฝ่าฝืนมาตรา 62 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ทั้งที่ในอดีตเคยมีการทำ พ.ร.บ. ขอเพิ่มงบประมาณเพื่อนำไปใช้จ่ายในโครงการของรัฐมาแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2567 ก็สามารถทำได้ เพราะทำถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งต่างจากกรณีนี้

4. รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ได้ชื่อว่า “รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง”

บทบัญญัติในมาตรา 144 มีไว้ป้องกันการซิกแซกงบประมาณแผ่นดินของนักการเมือง เพื่อนำไปใช้จ่ายเอาหน้าประชานิยม ทำให้ตัดทอนโอกาสของประเทศชาติในด้านอื่นๆ

น่าสนใจว่า เรื่องนี้ หากศาลรัฐธรรมนูญได้รับเรื่องจาก ป.ป.ช.แล้ว รัฐธรรมนูญก็กำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าศาลรัฐธรรมนูญจะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน “15 วัน”

หากเข้าข่ายฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ รัฐบาลก็ต้องพ้นไปทั้งคณะ เพราะนายกฯ จะต้องรับผิดชอบโดยตรง

นายกรัฐมนตรีพ้นตำแหน่ง คณะรัฐมนตรีก็ต้องพ้นไปทั้งคณะ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด

ส่วนรัฐมนตรีที่ไม่ได้ร่วมประชุมหรือร่วมลงมติ ก็อาจรอดไม่ต้องชดใช้เงินคืน

สส.ที่เกี่ยวข้อง ก็ต้องหลุดจากตำแหน่ง

ไหนจะ สว.อีก

อาจจะนำไปสู่การรีเซตประเทศไทย ยกเครื่องใหญ่จากการเมืองหน้าเดิมๆ เสียที ก็เป็นไปได้

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
23:40 น. ‘บาหลี’ได้โอกาส! ทางเลือกนักท่องเที่ยวในช่วง‘ไทย-กัมพูชา’สู้รบ
23:09 น. เริ่มแล้ว!!! งาน'ตรังยุทธจักรอาหารอร่อย' ส่งเสริมท่องเที่ยว-กระตุ้นเศรษฐกิจ
23:01 น. 'ศรีริต้า'บริจาค 9 แสนช่วยทหารบาดเจ็บ แถมวิดีโอคอลให้กำลังใจ
22:36 น. ทีม พม.รุดสุพรรณบุรี ช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวเหยื่อพลุระเบิด
22:25 น. พระลูกวัดชายแดนไทย-กัมพูชา จำวัดท่ามกลางเสียงระเบิด
ดูทั้งหมด
'ปั้นจั่น ปรมะ'โพสต์ระบาย ลั่นสันติที่ไม่มีศักดิ์ศรีนั้นไม่อาจยอมรับได้
เด็ดปีกขุนศึกคู่ใจฮุน เซน! ‘พล.อ.สรัย ดึ๊ก’เสียชีวิตแล้ว จากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา
โป๊ะแตกคาด่าน! พบรองเจ้าอาวาส ถอดจีวรเปลี่ยนชุดหล่อ นั่งรถเที่ยวสวีทสีกา
ทหารเขมรจับไส้ศึก! แอบติดGPS กระทืบหงายหลังน่วม
สลด! ดับ 6 ศพ รวมมือปืน เหตุกราดยิงภายใน‘ตลาด อตก.’
ดูทั้งหมด
โรคชังทหาร
ความรักชาติบ้านเมืองคือจุดเด่นของเวียดนาม
กอมบาวก์
ลางร้ายพ่อนายกฯ แล้วลูกจะอยู่ถ่วงประเทศไปถึงเมื่อไหร่?
บุคคลแนวหน้า : 31 กรกฎาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘บาหลี’ได้โอกาส! ทางเลือกนักท่องเที่ยวในช่วง‘ไทย-กัมพูชา’สู้รบ

'ศรีริต้า'บริจาค 9 แสนช่วยทหารบาดเจ็บ แถมวิดีโอคอลให้กำลังใจ

ซัด'กัมพูชา' รีบชิงพาทูตลงพื้นที่ เหตุรู้ดีช่วงเวลาใดปลอดภัย

น้ำท่วมแม่สายเริ่มคลี่คลาย นายอำเภอเตือนระวังระลอกใหม่ 4–6 ส.ค.

พปชร.ฟาด'รัฐ'ล่าช้า ไม่ทันเลห์'เขมร' จี้เร่งฟ้องโลก'กัมพูชา'ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

ด่วน!! เริ่มวันนี้!! ประกาศห้ามบินโดรนทั่วประเทศ ป้องกันความเสี่ยงด้านความมั่นคง-ปลอดภัย

  • Breaking News
  • ‘บาหลี’ได้โอกาส!  ทางเลือกนักท่องเที่ยวในช่วง‘ไทย-กัมพูชา’สู้รบ ‘บาหลี’ได้โอกาส! ทางเลือกนักท่องเที่ยวในช่วง‘ไทย-กัมพูชา’สู้รบ
  • เริ่มแล้ว!!! งาน\'ตรังยุทธจักรอาหารอร่อย\' ส่งเสริมท่องเที่ยว-กระตุ้นเศรษฐกิจ เริ่มแล้ว!!! งาน'ตรังยุทธจักรอาหารอร่อย' ส่งเสริมท่องเที่ยว-กระตุ้นเศรษฐกิจ
  • \'ศรีริต้า\'บริจาค 9 แสนช่วยทหารบาดเจ็บ แถมวิดีโอคอลให้กำลังใจ 'ศรีริต้า'บริจาค 9 แสนช่วยทหารบาดเจ็บ แถมวิดีโอคอลให้กำลังใจ
  • ทีม พม.รุดสุพรรณบุรี ช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวเหยื่อพลุระเบิด ทีม พม.รุดสุพรรณบุรี ช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวเหยื่อพลุระเบิด
  • พระลูกวัดชายแดนไทย-กัมพูชา จำวัดท่ามกลางเสียงระเบิด พระลูกวัดชายแดนไทย-กัมพูชา จำวัดท่ามกลางเสียงระเบิด
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ลางร้ายพ่อนายกฯ  แล้วลูกจะอยู่ถ่วงประเทศไปถึงเมื่อไหร่?

ลางร้ายพ่อนายกฯ แล้วลูกจะอยู่ถ่วงประเทศไปถึงเมื่อไหร่?

31 ก.ค. 2568

จุดอ่อนของไทย  คือ ผู้นำรัฐบาลที่ไร้ภาวะผู้นำ

จุดอ่อนของไทย คือ ผู้นำรัฐบาลที่ไร้ภาวะผู้นำ

30 ก.ค. 2568

ภัยเศรษฐกิจ หนักไม่แพ้ภัยสู้รบ

ภัยเศรษฐกิจ หนักไม่แพ้ภัยสู้รบ

29 ก.ค. 2568

ฮุนเซนปลูกอคติต่อไทย  ในแบบเรียนกัมพูชา

ฮุนเซนปลูกอคติต่อไทย ในแบบเรียนกัมพูชา

28 ก.ค. 2568

ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด

ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด

25 ก.ค. 2568

‘ชินวัตร’จะไร้ตำแหน่ง หรือไร้แผ่นดิน?

‘ชินวัตร’จะไร้ตำแหน่ง หรือไร้แผ่นดิน?

24 ก.ค. 2568

มาเที่ยวปราสาท ไม่ใช่มาป่วนประสาท

มาเที่ยวปราสาท ไม่ใช่มาป่วนประสาท

23 ก.ค. 2568

ชายชุดดำ กับคนชุดแดง (จบ)

ชายชุดดำ กับคนชุดแดง (จบ)

22 ก.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved