หนังสือพิมพ์แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...nn ปล่อยออกมาเป็นชุดๆ นั่นคือมาตรการตอบโต้กัมพูชา จากทางการไทย ที่เข้มข้นยกระดับมากขึ้น ล่าสุดรัฐบาลนำโดย นายกฯแพทองธาร หลังประชุมฝ่ายความมั่นคง แถลงเสียงดังฟังชัด
...nn โดยพุ่งเป้าไปที่การ ยกระดับการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยบูรณาการทุกภาคส่วน โดยอ้างอิงข้อมูลจาก UN ระบุว่า “กัมพูชา” เป็นศูนย์กลางอาชญากรรมข้ามชาติรายใหญ่ที่สุดของโลก มูลค่าความเสียหายกว่า 600,000 ล้านบาทต่อปี
...nn หลักๆ ก็คือการพุ่งเป้าไปที่การตัดเส้นทางการทำมาหากินของธุรกิจ บ่อน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ และขบวนการหลอกลวงทางออนไลน์ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่กัมพูชา
...nn ผ่าน 5 มาตรการหลัก และตั้งเป้าเห็นผลชัดเจนภายใน 3 เดือน เช่น การจำกัดคนเข้า-ออกบริเวณชายแดน การงดจำหน่ายสินค้าเสี่ยง เช่น น้ำมัน ไฟฟ้าซิมโทรศัพท์ เครื่องปั่นไฟ ตัดสัญญาณอินเตอร์เนต ตรวจสอบบัญชีม้า ปราบปรามการฟอกเงิน
...nn ขณะที่มาตรการจากทางกองทัพก็มีการยกระดับ ล่าสุด แม่ทัพภาค 1 พลโทอมฤต บุญสุยา มีคำสั่งปิดชายแดนทุกจุดในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ห้ามรถทุกชนิดคนผ่านเข้า-ออก ยกเว้นนักเรียน และกรณีที่มีความจำเป็นด้านมนุษยธรรมอย่างยิ่งยวด
...nn เท่ากับว่าด่านชายแดนไทย-กัมพูชา 6 จังหวัด คือ สระแก้ว บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ จันทบุรี ตราด ปิดหมดทุกจุด...nn เจอไม้แข็งแบบนี้ สองพ่อลูกตระกูลฮุนที่ปากดีใช้สื่อตอบโต้ กล่าวหาไทย ทั้งเช้าเย็น จะไปอย่างไงต่อเพราะนี้คือการตัดเส้นเลือดใหญ่ทางเศรษฐกิจของกัมพูชา หรือ พูดให้ชัดๆ ก็คือ ทุบหม้อข้าว “ตระกูลฮุน” นั่นแหละ
...nnเท่าที่ทราบมา มาตรการเหล่านี้ ฝ่ายความมั่นคงเขาคิดไว้ และเตรียมเสนอ แต่ติดตรงที่ ฝ่ายการเมืองที่ไม่กล้านำมาใช้ เพราะ “ความสัมพันธ์ส่วนตัว” และผลประโยชน์ร่วมบางอย่าง ที่ทำให้ยังต้องเกรงใจ พ่อลูกตระกูลฮุน
...nn จนกระทั่งโดนปล่อยคลิปเสียงออกมานั่นแหละ เลยเกิดการเอาคืนแบบสาสม จึงต้องพลิกบทเล่นเป็นนางเอง ทำขึงขังอย่างที่เห็น
...nn แต่สิ่งที่ทำไปแล้วก็คงต้องรับสภาพกันไป จะเอามาหักลบกลบหนี้กันไม่ได้ ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีการพิจารณาประเด็นคลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้รับตรวจสอบเบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
...nn และยังมีที่ต้องลุ้นสำหรับ นายกฯอุ๊งอิ๊งค์ นั่นก็คือกรณีที่ ที่นำโดย นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้ยื่นคำร้องของสมาชิกวุฒิสภา 36 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธารชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่จากกรณีคลิปเสียงสนทนา กับสมเด็จฮุนเซน
...nn ซึ่งในคำร้องดังกล่าว ยังขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ทำให้ต้องติดตามว่าที่ประชุมตุลาการศาล รธน.จะมีการลงมติรับหรือไม่รับคำร้องดังกล่าวหรือไม่
...nn แต่เละแบบไม่ต้องลุ้นไปแล้วคือ พรรครวมไทยสร้างชาติที่ยังคงอุ้มรัฐบาลนี้ต่อไป
...nn ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐมนตรี หรือจะมีใครมาอธิบายอย่างไร ว่าจำเป็นต้องร่วมรัฐบาลด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่ฟันธงได้เลยว่า อนาคตของพรรคการเมืองนี้ จบข่าวแน่นอน ข้อหา“พายเรือให้โจรนั่ง” นั้นยากจะสู้คดี มาด้วยศรัทธา ก็ปิดฉากด้วยศรัทธาของประชาชนนั่นแหละ
...nn แต่ที่ไม่แผ่วเหมือนเดิมคงไม่พ้น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ที่ออกมาพ่น วาทกรรมประชาธิปไตย ว่า...ผมเห็นว่า การที่รัฐบาลปล่อยให้กองทัพมีอำนาจตัดสินใจออกมาตรการควบคุมชายแดนไทย-กัมพูชาได้โดยลำพังนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะผิดหลักการประชาธิปไตยที่กองทัพต้องอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือน
...nn ถือว่าเป็นโชคดีของประเทศไทย ที่พรรคนี้ยังไม่ได้บริหารประเทศในสถานการณ์แบบนี้มิเช่นนั้นแล้ว ความไร้เดียงสา แบบพวกอ่อนต่อโลก เพิ่งออกจากห้องสมุดแต่จะมาบริหารประเทศ จะนำมาซึ่งความเสียหายขนาดไหน..เฮ้อ!...nn
นายพริบพรี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี