เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม “สวนดุสิตโพล” ได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,229 คน เกี่ยวกับเรื่องที่ทุกคนกำลังเผชิญอยู่คือเรื่อง “คนไทยกับการรับมือปัญหาเศรษฐกิจ” พบสารน่าสนใจคือ ผู้คนส่วนใหญ่รู้สึกกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในขณะนี้ ทั้งกังวลเรื่องสินค้าที่ราคาแพงขึ้น ตามมาด้วยค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภาวะดังกล่าวไม่เพียงแต่ส่งผลต่อการดำรงชีวิตประจำวัน แต่ยังสะท้อนความเปราะบางทางการเงินของประชาชนในวงกว้าง
หัวข้อสำคัญ เมื่อถามถึงเงินสำรองฉุกเฉินหาก ไม่มีรายได้เลย พบว่าเกือบครึ่งหนึ่ง 48.32% มีเงินสำรองใช้ได้ไม่ถึง 1 เดือน และอีกร้อยละ 35.24 มีเงินสำรองเพียง 1–3 เดือนเท่านั้น ซึ่งรวมแล้วคิดเป็นกว่า 83% ที่อยู่ในภาวะเสี่ยง และไม่สามารถรองรับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจได้ในระยะยาว
ถ้ามีการสำรวจใหม่ในวันนี้คงคาดเดาได้ว่า ผลจะออกมาอย่างไร โดยเฉพาะปัญหาใหม่คือ สหรัฐฯ ประกาศอัตราภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) สำหรับ 22 ประเทศ มีผลบังคับใช้ 1 สิงหาคมนี้ โดยไทยถูกเก็บภาษีสูงถึง 36% สูงกว่าประเทศคู่แข่งในภูมิภาค เช่น เวียดนาม (20%) มาเลเซีย (25%) และอินโดนีเซีย (32%) แต่แนวทางการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลดูเหมือนยังไม่มีอะไรชัดเจน
ถึงขั้นสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ต้องรวบรวมข้อมูลจาก 47 กลุ่มอุตสาหกรรม เตรียมยื่นกระทรวงการคลัง เร่งเจรจาลดภาษีศุลกากรตอบโต้ ทั้งนี้ กลุ่มสินค้าที่ได้รับผลกระทบมาก ได้แก่ กลุ่มเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้า ซึ่งมีสัดส่วนการพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ สูงกว่า 28–35% ของมูลค่าส่งออก รวมถึงยาง เฟอร์นิเจอร์ ชิ้นส่วนรถยนต์ ของเล่น ผลิตภัณฑ์จากเหล็ก ผลิตภัณฑ์หนังและเซรามิก ซึ่งถูกจัดอยู่ในกลุ่มสินค้าที่ได้รับผลกระทบระดับสูงถึงสูงมาก ถ้ากลุ่มธุรกิจเหล่านี้พังพาบ ก็จะกระทบไปทั่วหน้าลามถึงชนชั้นกรรมาชีพ
นายวิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการเสนอญัตติตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน ที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมวุฒิสภาฯ วันที่ 15 ก.ค.นี้ ว่า เพราะนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ที่เป็นหัวหน้าทีมเจรจา ซึ่งช้าไป จนทำให้เราต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่
สำหรับสาระสำคัญของญัตติที่เสนอนั้น ส่วนหนึ่งเพื่อทวงถาม มาตรการทางเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ไม่สัมฤทธิผลเท่าที่ควร ไม่ว่าจะเป็นการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ที่ขณะนี้ได้ชะลอโครงการ เฟส 3 ออกไป หนี้ครัวเรือนไทยอยู่ในระดับสูงสุดในอาเซียน ภาระดอกเบี้ยสูงและเสี่ยงต่อการเกิดหนี้เสีย ความเหลื่อมล้ำทางรายได้ของประชากรยังคงกว้าง
หันไปดู ประธานาธิบดีอี แจ มยอง ของเกาหลีใต้ โชว์ภาพนั่งรับประทานอาหารที่ร้านอาหารปิ้งย่างแห่งหนึ่งย่านใจกลางกรุงโซล ทั้งชักชวนประชาชน รับประทานอาหารนอกบ้าน ส่งเสริมความต้องการบริโภคในประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเกาหลีใต้ ให้กำลังใจผู้ประกอบการ ซึ่งจะส่งผลกลับมาฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่น และกลายเป็นแรงส่งเสริมอนาคตที่สดใสของเกาหลีใต้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐ
ก็พอเข้าใจกันได้ สำหรับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เหลือเพียงแค่เป็น รมว.วัฒนธรรม เดาใจได้ว่า คงไม่มีอารมณ์ที่จะทำงานแล้ว ความนิยมและศรัทธาจากประชาชนตกต่ำ ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ก็ถูกพรรคภูมิใจไทยโวยวายว่าจ้องแต่จะล้างแค้นกันมากเกิน
ไม่มีใครคาดคิดว่าการเมืองไทยจะเดินมาถึงจุดที่ประชาชนไร้ความหวังอีกรอบ ทุกอย่างคงต้องรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า น.ส.แพทองธาร จะได้ไปต่อหรือพอแค่นี้ ถึงวันนั้น ความหวังของคนไทยอาจจะสดใสขึ้นมาบ้าง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี