หลังปรับครม. ตามที่ สทร.ต้องการ โดยดึงกระทรวงมหาดไทยมาอยู่ใต้อาณัติของพรรคเพื่อไทย
นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เตรียมตั้งคณะกรรมการสอบปมที่ดินเขากระโดงทันที
1. ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินมีคำสั่งไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิในที่ดินเขากระโดง โดยมีความเห็นชอบตามที่กรมที่ดินเห็นว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ไม่มีเอกสารหลักฐานยืนยันตามที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งปัจจุบัน ร.ฟ.ท.ทำหนังสือของให้ทางสำนักงานอัยการสูงสุด ดำเนินคดีแทน ร.ฟ.ท. ในการยื่นฟ้องคดีต่อศาลยุติธรรม เพื่อขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนเอกสารแสดงสิทธิในที่ดินที่ออกทับซ้อนที่ดินของ ร.ฟ.ท. ขับไล่ และเรียกค่าเสียหายจากผู้ถือเอกสารสิทธิและผู้ยึดถือครองครอบครองในที่ดินบริเวณดังกล่าวจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า จะเซ็นคำสั่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ขึ้นมาทบทวนมติคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินอย่างแน่นอน
“ตอนนี้ ผมให้ข้าราชการทำงานกระตุ้นให้ทำงาน ให้ซีเรียสจริงจังแค่นี้แหละ ผมดูทุกเรื่อง แต่ไม่ใช่ให้ทำทุกเรื่องทีเดียว มันต้องจัดลำดับความสำคัญ แล้วค่อยว่ากัน ตอนนี้ เราต้องปราบปรามยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ผู้มีอิทธิพล อาวุธปืน อาชญากรรมข้ามชาติ ตอนนี้เรื่องยาเสพติดเป็นเรือธงรัฐบาลก็บอกแล้ว” นายภูมิธรรมกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ปัญหาโฉนดที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ จ.ปทุมธานี ของครอบครัวชินวัตร ที่ก่อนหน้านี้กระทรวงมหาดไทยเพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์เดิมของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ
เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย กรณีที่ดินธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามวรวิหาร (ที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์) และให้กระทรวงมหาดไทยวินิจฉัยอุทธรณ์ใหม่ เพื่อให้คำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน ที่ 2308/2544 ที่ให้เพิกถอนรายการจดทะเบียนโอนที่ดิน 2 แปลง (ที่ดินตามโฉนดเลขที่ 20 ต.คลองซอยที่ 5 ฝั่งตะวันออก (บึงตะเคียน) อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เนื้อที่ 730-1- 51 ไร่ และที่ดินตามโฉนดเลขที่ 1446 ต.บึงอ้ายเสียบอ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เนื้อที่ 194-1-24 ไร่) ตลอดจนรายการจดทะเบียนลำดับต่อๆมาจากรายการข้างต้น กลับมามีเป็นที่ดินธรณีสงฆ์อีกครั้ง และให้กรมที่ดินดำเนินการ จะมีการทบทวนหรือไม่ ?
นายภูมิธรรมตอบว่า ก็ต้องดูก่อน อันไหนผิดทำให้มันถูก อันไหนถูกก็ถูกไป
2. นายสนอง เทพอักษรณรงค์ สส. จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวถึง มท.1 บิ๊กอ้วน เตือนว่า ในส่วนกรณี “เขากระโดง” นั้น หากจะตรวจสอบก็ขอให้ทำอย่างตรงไปตรงมา อย่าเลือกปฏิบัติ
พร้อมทวงถามถึงความคืบหน้าในคดีสนามกอล์ฟอัลไพน์ และสนามกอล์ฟเทมส์วัลเล่ย์ ที่เขาใหญ่ โดยระบุว่ามีข้อสงสัยในเรื่องกรรมสิทธิ์เช่นกัน
“..แทนที่จะใช้โอกาสในการบริหารงานเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข กลับใช้เวลาไปกับการโยกย้ายข้าราชการเพื่อหวังล้างแค้นทางการเมือง...
...ผลงานเก่าของนายภูมิธรรม ตอนเป็น รมว.พาณิชย์ ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ชาวบ้านเดือดร้อนทั้งประเทศ
พอไปเป็น รมว.กลาโหม ก็ถูกกัมพูชาเล่นงานสารพัด จนเกิดกรณีพิพาทชายแดนที่ไม่เคยมีมาก่อนในรอบหลายปี ยุคนายภูมิธรรมความขัดแย้งหนักมาก บ้านเมืองลุกเป็นไฟ เพราะไม่มีบารมีให้กัมพูชาเกรงใจ จนดินแดนที่เป็นของเรากำลังถูกท้าทาย โชคดีที่ยังมีทหารช่วยประคองสถานการณ์ไว้ได้” –นายสนองกล่าว
3. ความจริง ปมเขากระโดง
ที่ดินเขากระโดง มีปมปัญหาอยู่จริง
แต่ละประเด็นในขณะนี้จำเป็นต้องมีฝ่ายการเมืองเข้าไปใช้อำนาจกดดันแทรกแซง หรือไม่?
(1) ปมเจ้าหน้าที่รัฐละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือไม่?
ขณะนี้ ป.ป.ช. อยู่ระหว่างการตรวจสอบ กรณีร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน กับคณะกรรมการสอบสวนฯ มาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ตาม
คำสั่งอธิบดีกรมที่ดินที่ 1195-1196/2566 รวม 12 คน ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ กรณีไม่ดำเนินการพิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินรถไฟบริเวณเขากระโดง อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ จำนวน 772 แปลง
สัปดาห์ที่ผ่านมา สร.ร.ฟ.ท ก็เพิ่งไปยื่นหนังสือติดตามเร่งรัดคดีกับทาง ป.ป.ช.
โดยมีนายอดิศักดิ์ โยธา ผู้อำนวยการสำนักไต่สวนการทุจริต ภาครัฐ 3 สำนักงาน ป.ป.ช. เป็นคนมารับหนังสือจากตัวแทน สร.ร.ฟ.ท.
นายอดิศักดิ์ แจ้งกับตัวแทน สร.ร.ฟ.ท. ว่า ในการดำเนินการสอบสวนการร้องทุกข์กล่าวโทษกรณีที่ดินเขากระโดง นั้น ทาง ป.ป.ช. ได้ดำเนินการตามมาตรา 61 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการฯเพื่อทำหน้าที่สอบสวนในเรื่องนี้แล้ว
(2) ปมศาลปกครองกับการเพิกถอนโฉนด
ร.ฟ.ท.ได้ฟ้องศาลปกครอง ขอให้เพิกถอนโฉนดที่ดิน โดยอ้างออกโฉนดที่ดินคลาดเคลื่อน รุกที่การรถไฟ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 พ.ค.2568 ศาลปกครอง มีคำสั่งคุ้มครองที่ดิน 995 ฉบับ และที่ดินแปลงอื่นๆ ในพื้นที่เขากระโดง หลังยกฟ้องปม ร.ฟ.ท.สั่งให้เพิกถอนที่ดิน
คดีหมายเลขดำที่ 395/2568 ลงวันที่ 27 พ.ค.2568
การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) (ผู้ฟ้องคดี) ได้ยื่นฟ้อง กรมที่ดิน กับพวกรวม 3 ราย (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-3) ในคดีพิพาทเกี่ยวกับที่ดินบริเวณแยกเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เนื้อที่ 5,083 ไร่
สรุปได้เป็น 4 ข้อหา คือ
ข้อหาที่ 1 ร.ฟ.ท. มีคําขอให้ศาลมีคําพิพากษาหรือคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) ตามหนังสือกรมที่ดิน ที่ มท 0561.2(2)/22162 ลงวันที่ 21 ต.ค.2567
ที่มีคำสั่งให้ยุติเรื่องการสอบสวน การออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินโดยคลาดเคลื่อนในเขตที่ดินของ ร.ฟ.ท. บริเวณทางแยกเขากระโดง ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์
ข้อหาที่ 2 ร.ฟ.ท. มีคําขอให้ศาลมีคําพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอนคําวินิจฉัยอุทธรณ์ของอธิบดีกรมที่ดิน (อธิบดีกรมที่ดิน) และปลัดกระทรวงมหาดไทย (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3) ซึ่งได้มีคําวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์ กรณี ร.ฟ.ท.ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน ที่มีคำสั่งให้ยุติเรื่องการสอบสวนการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินโดยคลาดเคลื่อนในเขตที่ดินของ ร.ฟ.ท. บริเวณทางแยกเขากระโดง ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์
ข้อหาที่ 3 ร.ฟ.ท. มีคําขอให้ศาลมีคําพิพากษาหรือคำสั่งให้กรมที่ดินและอธิบดีกรมที่ดิน ร่วมกันเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ออกในที่ดินของผู้ฟ้องคดีทั้ง 995 ฉบับ ที่เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ออกโดยไม่ชอบ ซึ่งเป็นการคลาดเคลื่อนไม่ชอบด้วยกฎหมายทั้งหมดในพื้นที่ของ ร.ฟ.ท. ภายใน 60 วัน นับแต่คดีถึงที่สุด หรือภายในระยะเวลาที่ศาลเห็นสมควร
ข้อหาที่ 4 ร.ฟ.ท. ขอให้ศาลมีคําพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน ที่ออกทับที่ดินของ ร.ฟ.ท. ตามแผนที่แสดงเขต ที่ดินของกรมรถไฟ ตอนแยกไปยังที่ย่อยศิลา ต.เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ กิโลเมตร 375+650 ตามระวางที่ดิน 4638 IV 3452-00 ถึง 4638 IV 3454-00 บริเวณทางแยกเขากระโดง ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ นอกเหนือจากหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินทั้ง 995 ฉบับ ที่ออกทับที่ดินของ ร.ฟ.ท. ในบริเวณทางแยกเขากระโดง
ปรากฏว่า ศาลปกครอง มีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาบางข้อหา ได้แก่ ข้อหาที่ 3 และข้อหาที่ 4 เนื่องจากเห็นว่า มีข้อเท็จจริงอันเป็นเหตุแห่งการฟ้องคดี และคําขอบังคับในลักษณะเดียวกันกับประเด็นที่ศาลได้มีคําพิพากษาถึงที่สุดไปแล้ว หรือเป็นการฟ้องซ้ำ ในคดีศาลปกครองกลาง หมายเลขดำที่ 2494/2564 หมายเลขแดงที่ 582/2566 มาฟ้องเป็นคดีนี้อีก
เท่ากับว่า ประเด็นที่ ร.ฟ.ท. มีคําขอให้ศาลมีคำสั่งให้กรมที่ดินและอธิบดีกรมที่ดินร่วมกันเพิกถอนโฉนดเขากระโดง และหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินรวม 995 ฉบับนั้น ศาลไม่รับฟ้อง เพราะฟ้องซ้ำ ศาลเคยพิจารณาประเด็นนี้ไปแล้ว
เท่ากับว่า ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องคดีพิพาทเขากระโดงในคดีใหม่ ไว้พิจารณา จำนวน 2 ข้อหา จากทั้งหมด 4 ข้อหา
ส่วนกรณีการเพิกถอนคำสั่ง “กรมที่ดิน” ที่มีคำสั่งยุติการสอบสวนการเพิกถอนโฉนดโฉนดที่ดิน “เขากระโดง” จะมีบทสรุปอย่างไร ต้องติดตามต่อไป
ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นเรื่องที่เข้าไปสู่การพิจารณาของศาลปกครองแล้ว ฝ่ายการเมืองจำเป็นต้องเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงอะไรอีก หรือไม่?
4. ชูวิทย์รับสารภาพผิด ฐานหมิ่นประมาท กล่าวหาปมที่ดินเขากระโดง
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดบุรีรัมย์มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ1349, อ1350/2566 และแดงที่ อ1575, อ1580/2567
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ (โจทก์ที่ 1) และนายเนวิน ชิดชอบ (โจทก์ที่ 2) ฟ้องนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เป็นจำเลยในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328
คดีนี้เกิดจากการที่นายชูวิทย์จัดแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ต่อสื่อช่วงก่อนการเลือกตั้งปี 2566 กล่าวหาโจทก์ทั้งสองว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม กล่าวหานายเนวินว่าฮุบที่ดินการรถไฟฯ เขากระโดงกว่า 5,000 ไร่ และใช้เงินหลวงสร้างสนามกีฬา
ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ปมที่ดินเขากระโดง เป็นที่พิพาทที่ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิของราษฎรทั่วไป
ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า คำกล่าวหาของจำเลยไม่มีพยานหลักฐานสนับสนุน เป็นการใส่ความโจทก์ต่อสื่อมวลชน ใช้ถ้อยคำเหยียดหยาม เสียดสี และก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อชื่อเสียงของโจทก์ทั้งสอง
นายชูวิทย์ จำเลย ให้การรับสารภาพในชั้นพิจารณา
ศาลจึงพิพากษาลงโทษจำคุกกระทงละ 6 เดือน รวม 12 เดือน ลดโทษเหลือ 6 เดือนและเห็นว่าจำเลยอายุมาก มีโรคประจำตัว จึงเปลี่ยนโทษจำคุกเป็นปรับ 200,000 บาท พร้อมสั่งให้ลงโฆษณาขอขมาโจทก์ในสื่อสิ่งพิมพ์ 7 วันติดต่อกัน และจำเลยให้คำมั่นต่อศาลว่าจะไม่กล่าวหาหรือใส่ความโจทก์และครอบครัวอีก
เรื่องนี้ เป็นอุทาหรณ์สำหรับประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะในโลกโซเชียล อย่าเพิ่งปักใจเชื่อ มั่นใจในคำกล่าวหาของอินฟลูฯบางคนจนเกินไป
เราปักใจเชื่อไปแล้ว แต่เมื่อเป็นคดี เขารับสารภาพผิดในชั้นศาล
การติดตามตรวจสอบเพื่อรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ เป็นหน้าที่พลเมือง แต่ต้องระวังการก้าวล้ำเส้นข้อมูลความจริง ไปจนเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางเสียเอง
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี