แล้ว “ศึกนารีพิฆาตพระ” ที่เป็นข่าว “สุดอื้อฉาว” ในนครสารขัณฑ์ โดยมี “สีกากอล์ฟ” คนดัง เป็นผู้พิฆาตพระที่เป็น “ระดับเทพ” ทั้งนั้นไม่ต่ำกว่า 10 ราย จนพระจัญไรเหล่านั้น กลายเป็น “เทพตกนรก” จนเป็นข่าวใหญ่กระหึ่มโลก

ที่สุด “สีกากอล์ฟ” ก็ต้อง “จ๊ะเอ๋บวกจ๊ะโอ๋” ถูกดำเนินคดีในสารพัดข้อหาจนต้องติดคุกติดตะรางไม่ได้รับการประกันตัว

ทุกครั้งที่สีกาคนดัง ถูกตำรวจนำตัวออกจากที่คุมขังเพื่อไปทำการ “สอบสวนเพิ่มเติม” มักจะถูกชาวบ้านที่ดักรอชี้หน้าด่าทอว่า “มารศาสนา”

แต่ดูเหมือน “สีกาคนดัง” ได้แต่ “น้ำตาคลอ” และ “กลืนเลือดแห่งความชอกช้ำลงคออย่างเดียวดาย” ไม่ตอบโต้ทั้งชาวบ้านและนักข่าว

การที่ชาวบ้านต่างชี้หน้าแล้วดุด่านางเป็น “มารศาสนา” นั้น ผู้ที่มีใจเป็นธรรมต่างออกมาแสดงความเห็นใจว่า “แท้จริง” ผู้ที่จะถูกระบุว่าเป็น “มารศาสนาตัวจริง” นั้น น่าจะเป็น “บรรดาพระทั้งหลายมากกว่า” เพราะเป็น “สารตั้งต้น” ในการสร้าง “ตำนานมารศาสนา” ตัวจริง

เพราะสัมพันธ์เชิงชู้สาวระหว่างสีกากับพระนั้น ร้อยทั้งร้อยฝ่ายชายมักเป็นผู้เริ่มต้น และไปจบบทสุดท้าย ด้วยการมีเพศสัมพันธ์

ส่วนสีกานั้น มีแรงดลใจเบื้องต้น ล้วนเกิดจาก “อยากได้เงิน” จากพระเสียทั้งสิ้น

ดังนั้น “ถ้ามองอย่างซับซ้อน” แล้ว “มารศาสนาตัวจริง” ก็คือ “เงินทองที่เป็นตัวจัญไรที่ทำให้ศาสนาเสื่อม”

“ด้วยประการฉะนี้ เกจิอาจารย์พระผู้ครองธรรมทั้งหลาย จึงได้ออกมาพูดความจริงว่า ต้นเหตุมารศาสนาตัวจริง เกิดขึ้นจากวัดใด เริ่มเปลี่ยนจากสำนักปฏิบัติธรรม กลายเป็นห้างสรรพสินค้าขายบุญอย่างสุดกระหน่ำ ความงก ทำให้เจ้ากูเปิดประตูให้จอมมารจากนรกเข้ามายึดครองวัดได้สำเร็จ”

“จากนั้น จอมมารจากนรกที่ครอบครองวัด ก็จะกวักมือให้ทุราจารทั้งหลายและสีกาผู้เดือดร้อนเงินทองเข้ามาร่วมมือกับอลัชชี ทำลายศาสนาที่สวยงามจนเลวทรามป่นปี้”

ด้วยประการฉะนี้ จึงมีชาวพุทธจำนวนไม่น้อยออกมาถามเจาะใจว่า “ณ วันนี้มีวัดใดบ้างที่ไม่ใช่ห้างสรรพสินค้าขายบุญ? และวันนี้มีวัดไหนบ้าง ที่มีพระไม่หิวเงิน?”

วัดยิ่งร่ำรวยเท่าใด? พระยิ่งเป็นเสี่ยรวยอู้ฟู่มากแค่ไหน? สีกามหาภัยย่อมรีบหาโอกาสเข้ามาปล้นวัด?

ดังนั้น วาทกรรมสุดเจ็บ “เงินคือมารศาสนา” จึงเป็นความจริงที่ “ยิ่งกว่าจริง”

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม