งานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลผ่านไปอย่างชื่นมื่น
บรรดารัฐมนตรี หัวหน้าพรรค แกนนำและสส. ของพรรคร่วมรัฐบาลเข้าร่วมคึกคัก
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาบรรยายพิเศษด้วย
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวเปิดงานด้วยตนเอง
1. นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า “ดิฉันเองเป็นรัฐมนตรีวัฒนธรรมนะคะ เพราะฉะนั้นนี่แหละค่ะคือความแข็งแรงแล้วก็รัฐบาลเรา แล้วก็ดิฉันก็ยังมั่นใจในเจตนาอันบริสุทธิ์ที่จะรักษาไว้ซึ่งชีวิตของพี่น้องประชาชน รักษาไว้ซึ่งชีวิตของเจ้าหน้าที่ของทหาร แล้วก็การยึดหลักในเรื่องของสันติวิธีเป็นสิ่งที่สำคัญแล้วก็หวังว่าสิ่งพวกนี้จะสามารถ พิสูจน์ตามกระบวนการต่างๆ ได้ แล้วดิฉันจะได้มีโอกาสกลับมาทำเพื่อพี่น้องประชาชนรับใช้พี่น้องประชาชน รับใช้สถาบัน ได้มีโอกาสกลับมาทำงานร่วมกับท่านอีกครั้งค่ะ”
2. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พยายามกล่าวกระตุ้นความเชื่อมั่นสร้างความมั่นใจว่าเสียงปริ่มน้ำแต่ไปต่อได้
ระบุว่า พรรคร่วมรัฐบาลยังเป็นปึกแผ่น จากการที่ได้พบกับทุกๆ คน หัวหน้าพรรคทุกๆ คน ทุกคนก็ยังยืนยันว่าจะไปด้วยกัน และส่วนตัวได้บอกกับหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่า ทีมนี้แหละที่เมื่อเลือกตั้งแล้ว ก็จะเป็นพันธมิตรกันอีกครั้ง
“เมื่อไม่ทิ้งกันขนาดนี้ ก็ต้องไม่ทิ้งกันตลอดไป จริงไหม...แต่วันนี้เราต้องการพวกท่านทั้งหลาย เราจะต้องอดทนช่วยกัน และรัฐมนตรีทั้งหลายก็ทำงานไปด้วยและแบ่งเวลาให้ดีแบ่งเวลาให้กับความอบอุ่นกับสส.ด้วย เพราะสส.อยู่ใกล้ชิดที่ประชาชน บางทีมีทุกข์มา ก็ไม่รู้จะเอาไปบ่นกับใคร ก็ต้องเอาไปบ่นกับลูกพรรคและรัฐมนตรี” - นายทักษิณกล่าว
3. ถึงวันนี้ ยังไม่มีท่าทีที่แพทองธารจะลาออกจากตำแหน่งนายกฯ เพื่อตัดตอนคดีในศาลรัฐธรรมนูญ
ส่วนนายทักษิณก็ทำเหมือนไม่กังวลคดีของตนเองที่อาจจะต้องกลับเข้าคุก หรือหนีไปต่างประเทศอีกรอบ
4. “สถานการณ์แนวโน้มด้านตุลาการภิวัฒน์”
คุณหมอพลเดช ปิ่นประทีป ได้ประมวลภาพรวมคดีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง และอาจมีผลกระทบทางการเมือง ระบุว่า
“...มีความคืบหน้าของคดีการเมืองที่สำคัญ และจะส่งผลต่อการเปลี่ยนผ่านอำนาจในโครงสร้างส่วนบน ในระยะใกล้ ดังนี้
4.1 คดีทักษิณป่วยทิพย์ชั้น 14
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง 1) 30 ก.ค. ปิดการไต่สวนคดี 2) คาดว่าตัดสินคดีราวกลาง ส.ค. 3) คดีมีผลโดยตรงต่อทักษิณ อาจถูกบังคับกลับเข้าคุก 8 ปี หรือ 1 ปี 4) มีผลกระทบต่อกลุ่มผู้ที่ให้คำพยานเท็จ ซึ่ง ป.ป.ช. ต้องขยายผลโดยอัตโนมัติ 5)พรรคการเมืองที่ยอมรับการครอบงำ (ไปร่วมตั้ง ครม. ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า) เสี่ยงที่จะถูก กกต. ขยายผลสู่การยุบพรรค
4.2 คดีนายกฯ แพทองธารกับคลิปลับฮุนเซน
ศาลรัฐธรรมนูญ 1) ศาลรับพิจารณาคดี และสั่งให้นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ 2) ศาลไต่สวนจบกระบวนการแล้ว นายกฯขอขยายเวลาอีก 15 วัน เมื่อรวมการไต่สวนเพิ่มเติมอื่นๆ คาดว่าคดีจะจบภายใน 31 ส.ค. 3) หากพบว่ามีความผิดจริงจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อตัวนายกฯ และรัฐบาลทั้งคณะ 4) กกต. จะต้องดำเนินการขยายผลไปสู่การยุบพรรคเพื่อไทย ซึ่งคาดว่าจะเกิดผลจริง ราวปลายปี 2568
4.3 คดี 112 ทักษิณ
ศาลอาญา 1) ศาลชั้นต้น นัดตัดสิน 22 ส.ค. 2) หากพบว่ามีความผิดจริง จะส่งผลกระทบต่อเนื่องในหลายทาง 3) คาดว่าทักษิณจะต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์และฎีกา ซึ่งอาจใช้ระยะเวลา 2-3 ปี กว่าจะสิ้นสุดกระบวนการทั้งหมด
4.4 คดีรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 (พิเชษฐ์)
ศาลรัฐธรรมนูญ 1) ข้อกล่าวหาว่าแทรกแซงกระบวนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 2569 และดึงงบประมาณเข้าตัวเองรวม 3 โครงการ 2) ศาลรับพิจารณา 17 ก.ค. 3) ศาลนัดตัดสิน 1 ส.ค. 4) คดีนี้มีผลกระทบเฉพาะตัว แต่เป็นสัญญาณที่สะท้อนแนวโน้มต่อคดีที่เกี่ยวข้องอื่นๆ
4.5 คดีแจกเงินหมื่น ม.144
ป.ป.ช./ศาลรัฐธรรมนูญ 1) คาบเกี่ยวกับ 2 รัฐบาล เศรษฐา-แพทองธาร รวมทั้ง สส.-สว.ที่เกี่ยวข้อง 2) คาดว่าต้นเดือน ส.ค. ศาลจะพิจารณาคดี 3) ถ้าผิดจริงจะส่งผลต่อ ครม.ทั้ง 2 ชุดให้พ้นสภาพ 4) มี สส. สว.ที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ถึงค่อนรัฐสภา 5) มีการกระทำผิดเกิดขึ้นแล้ว แต่กระบวนการไต่สวนพยานจำนวน 300–500 ปาก คาดว่าจะใช้ระยะเวลานานมาก (เปรียบเทียบกับคดี สส.พรรคส้ม 44 คน ซึ่ง ป.ป.ช. ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ)
4.6 คดีฮั้ว สว.
กกต./DSI/ศาลรัฐธรรมนูญ 1) อนุ กกต.สรุปผลเมื่อ 17 ก.ค. เสนอให้ดำเนินคดี 229 คน (สว.138 ราย กับ เครือข่าย 91 ราย) 2) อยู่ระหว่างรอความเห็นจากเลขาธิการและมติของ กกต. ชุดใหญ่ ก่อนเสนอศาลรัฐธรรมนูญ 3) ศาลรัฐธรรมนูญ มีระยะเวลาพิจารณาคดีที่แน่นอน คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือน ส.ค. 4) ถ้าผิดจริง จะส่งผลกระทบต่อสถานะ สว.จำนวนมาก 5) อาจถึงขั้นสั่งให้การเลือก สว. 2567 เป็นโมฆะ และให้ สว. ชุด 2562 มารักษาการแทน ทั้งวุฒิสภา 6) อาจลามไปถึงกระบวนการยุบพรรคสีน้ำเงินที่มีส่วนพัวพัน 7) ฝ่าย DSI ก็มีการดำเนินคดีในประเด็นฟอกเงินและอั้งยี่ แบบคู่ขนานกันไป”
5. บรรดาคดีข้างต้นนั้น น่าจะมีผลต่อนายกฯตระกูลชินวัตรโดยตรง ได้แก่
5.1 คดีนายกฯ แพทองธารกับคลิปลับฮุนเซน
เห็นว่า คดีนี้ มีโอกาสรอดไม่ถึง 5%
เพราะเป็นคดีฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม เป็นเรื่องการกระทำ การพูดที่ไม่สมควรแก่ตำแหน่งหน้าที่
คดีนี้ไม่ใช่คดีอาญาที่จะต้องไปพิสูจน์เจตนาเล็งเห็นผล หรือเกิดความเสียหายมากมายแล้วแค่ไหนหรือไม่
แค่พิสูจน์ว่าการกระทำของนายกฯตามคำร้องนั้น ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมหรือไม่
พูดภาษาชาวบ้าน คือ ที่พูดไปนั้นเหมาะสมหรือไม่ สมควรหรือไม่ ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมผู้ดำรงตำแหน่งหรือไม่
ถ้าคนเป็นนายกฯ ไม่ควรพูดและทำแบบนี้ ก็ต้องให้พ้นไป
ศาลรัฐธรรมนูญน่าจะอ่านคำวินิจฉัยได้ภายในเดือนสิงหาคม
5.2 คดี 112 ทักษิณ
คดีนี้ เห็นว่า 50-50
เพราะถ้าไม่มีมูลเลย ตามที่ทักษิณและทนายพยายามสื่อให้สังคมคิดเช่นนั้น อัยการสูงสุดคงจะไม่สั่งฟ้อง และศาลก็คงจะไม่รับฟ้อง
ถ้าคิดว่าไม่มีอะไรจริงๆ ก็ขอเรียกร้องให้ทนายนำคลิปเสียงสัมภาษณ์ฉบับเต็มมาเปิดเผยแพร่ให้กว้างขวางเสียเลย
อย่างไรก็ตาม รอฟังคำพิพากษาศาลอาญา 22 ส.ค.นี้
คดีนี้ จะมีผลต่อข้อจำกัดการเดินทางออกนอกประเทศของนายทักษิณ ชินวัตร ด้วย
5.3 คดีทักษิณป่วยทิพย์ชั้น 14 เห็นว่า ทักษิณอาการวิกฤต
จากข้อมูลที่เปิดเผยจากการไต่สวนพยานหลักฐานต่างๆ มีข้อพิรุธ ขัดแย้งกับแนวทางปฏิบัติที่ถูกที่ควรมากมาย
ไม่น่าเชื่อว่าทักษิณจะป่วยวิกฤตถึงขนาดต้องอยู่โรงพยาบาลตำรวจยาวนาน ไม่กลับเข้าเรือนจำอีกเลย
คดีนี้ ศาลฎีกาฯ น่าจะอ่านคำสั่งได้ภายในเดือนสิงหาคม
โอกาสต้องติดคุกจริงๆ เกิน 60%
6. หากนายกฯแพทองธารถูกพิพากษาให้พ้นตำแหน่งไป ก็จะต้องมีการเลือกนายกฯใหม่
หากทักษิณต้องกลับเข้าคุก ก็อาจจะหลบหนีอีกรอบ หรือไม่งั้นก็ต้องยอมเข้าคุก
สภาวะพรรคเพื่อไทยที่ไร้ทักษิณ อำนาจบารมีก็จะเสื่อมลงไปอีกหลายช่วงตัว
อำนาจต่อรองกับพรรคร่วมก็ลดลงมาก
มีโอกาสสูงมากว่า หากประเมินผลของคดีเมื่อใกล้ถึงวันตัดสิน นายกฯอุ๊งอิ๊งค์อาจตัดสินใจชิงลาออก
พ้นจากตำแหน่งด้วยการลาออก ย่อมดีกว่าถูกศาลรัฐธรรมนูญประหารชีวิตทางการเมือง และเสี่ยงถูกนำคำวินิจฉัยไปขยายผลคดีอื่นๆต่อไป
แล้วที่ทักษิณบอกว่า “เมื่อไม่ทิ้งกันขนาดนี้ ก็ต้องไม่ทิ้งกันตลอดไป จริงไหม..”
จะหมายถึงการจับมือพรรคร่วมกลุ่มเดิมสรรหานายกฯ ตั้งรัฐบาลกัน แล้วจะใจดำ ใจแคบ ว่านายกฯจะต้องเป็นคนของพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ได้หรือไม่?
อีกไม่สัปดาห์ก็ชัดเจนแล้ว
นายกฯชินวัตร จะไร้ตำแหน่ง หรือจะไร้แผ่นดิน?
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี