ผลการเลือกตั้งซ่อมสส.เขต 7 จังหวัดเชียงราย นอกเหนือจากการชัยชนะของนายสง่า พรมเมือง จากพรรคเพื่อไทย แบบสวนกระแสขาลงของพรรคแล้ว ประเด็นหนึ่งที่พูดกันมากก็คือจำนวนบัตรที่กาช่องไม่ประสงค์เลือกผู้ใด 10,739 ใบ หรือ คิดเป็น 13.54% จากจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ 79,288 ใบ ซึ่งถือว่าสูงมากอย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้ โหวตโน เป็นการแสดงเจตนาจากหลายเหตุผล อาจเป็นไปได้ทั้งไม่ชอบพรรคไหนเลย ไม่ถูกใจใคร หรือเบื่อการเมืองน้ำเน่าก็เป็นไปได้หมด ในทางการเมืองนั้นมีความหมายไม่น้อย หากสส. เขตใดชนะเลือกตั้ง แต่ได้คะแนนน้อยกว่าโหวตโนเท่ากับว่าการเลือกตั้งในเขตนั้นเป็นโมฆะ ต้องเลือกใหม่ โดยผู้สมัครคนเดิมของทุกพรรคจะไม่สามารถกลับมาลงสมัครได้

จักรภพ เพ็ญแข คีย์แมนคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย ได้วิเคราะห์ถึงสัญญาณอันตรายจากโหวตโนกว่าหมื่นใบไว้อย่างน่าสนใจว่า นี่คือการประท้วงเงียบของประชาชนที่เบื่อหน่ายต่อระบบการเมือง ซึ่งอาจจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และพร้อมจะลงโทษทุกฝ่ายผ่านบัตรโหวตโน หากไม่ตอบสนองความคาดหวัง

ที่จริงสัญญาณดังกล่าว เคยถูกส่งผ่านทางผลโพลสำนักต่างๆ มาแล้ว 2-3 ครั้งในรอบปีนี้ซึ่งผลสำรวจโดยรวมสอดคล้องกันคือ คนไทยเบื่อหน่ายการเมืองมากถึงมากที่สุด ยุบสภาวันนี้ก็ไม่อยากจะเลือกพรรคไหนทั้งสิ้น เพราะรู้สึกว่าเลือกไปก็เท่านั้น ไม่มีพรรคไหนหรือผู้สมัครคนใดดีกว่ากันเท่าไหร่ ที่สำคัญคือผ่านมากี่รัฐบาลก็ยังมองไม่เห็นอนาคตทางการเมืองที่ดีกว่า

พูดกันแบบชาวบ้าน โลกยุคใหม่ ณ วันนี้คนไทยรู้ทันสันดานนักการเมืองมากขึ้นกว่าแต่ก่อน พวกเขามีช่องทางในการแสวงหาข้อมูลข่าวสารเยอะขึ้น มีประสบการณ์ในการคิด วิเคราะห์ แยกแยะสถานการณ์ และกล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้นด้วย ในขณะที่นักการเมืองส่วนหนึ่งกลับยังดักดานหลงยุค คิดแค่การใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือเพื่อเป้าหมายทางการเมืองเท่านั้น

จริงๆ แล้วประชาชน ไม่ได้ต้องการอะไรมากจากนักการเมือง อยากเห็นแค่เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถจริงๆ อย่าทำร้ายประเทศชาติ รับผิดชอบต่อประชาชนอย่างจริงใจ ไม่ทุจริตคดโกง มีคุณธรรม โปร่งใสตรวจสอบได้ แค่นี้คนก็พร้อมจะให้โอกาส แต่สันดานนักการเมือง พอมีอำนาจวาสนาแล้วกลับทำตัวเลอะเทอะ เข้ามาแก่งแย่งกันอย่างมูมมามโดยไม่ละอายใจ

ที่ผ่านมา ประชาชนกว่าครึ่งค่อนประเทศรู้สึกถึงความเบื่อหน่าย แต่สำหรับนักการเมืองนั้น กลับไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวอะไร ตรงกันข้ามยังแสดงพฤติกรรมตอกย้ำภาวะวิกฤตศรัทธาให้ดำดิ่งลงไปถึงขีดสุด เห็นได้ชัดเจนก็คือช่วงเกิดเหตุการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา นักการเมืองถูกมองเป็นตัวภาระสร้างปัญหาของชาติมากกว่าจะเป็นที่พึ่งที่ดีของประชาชนในยามมีภัย

จึงไม่แปลกที่ผลโพล ไม่ว่าจะสำรวจในช่วงสถานการณ์ใดๆ ผลจึงออกมาในลักษณะเดียวกันนั่นคือ คนเบื่อการเมือง ตัวเลขโหวตโนกว่าหมื่นใบในการเลือกตั้งซ่อมสส. เขต 7 เชียงราย น่าจะพออธิบายปรากฏการณ์ดังกล่าวได้ในระดับหนึ่ง และเชื่อว่าหากในอีก 4 เดือนข้างหน้ายุบสภาเลือกตั้งใหม่ ตัวเลขการโหวตโนคงจะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หากนักการเมืองเหล่านั้นยังไม่สำนึก