ในห้วงเวลาที่ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยไปสู่รัฐบาลพรรคภูมิใจไทยที่ถูกตีกรอบโดยพรรคประชาชนให้บริหารประเทศเพียงสี่เดือน เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ มีภารกิจยุบสภาและแก้รัฐธรรมนูญปี 2560
ในขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ยังไม่ได้นำคณะรัฐมนตรีขึ้นถวายสัตย์ปฏิญาณฯและแถลงนโยบายต่อสภาว่ารัฐบาลเฉพาะกิจชุดนี้ มีนโยบายเร่งด่วนเฉพาะหน้าอย่างไร สังคมไทยกลับถกเถียงกันอย่างร้อนแรงเรื่องความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ที่บานปลายกลายสงคราม 5 วัน ทหารและประชาชนทั้งสองฝ่ายบาดเจ็บล้มตายหลายพันคน
หลังจากตกลงหยุดยิงอย่างไม่มีเงื่อนไข ความขัดแย้งที่มีมานานยังคงดำรงอยู่ต่อไป โดยเฉพาะเรื่องด่านผ่านแดน ตั้งแต่จังหวัดอุบลราชธานีในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลงไปถึงจังหวัดตราด ภาคตะวันออกของไทย ด่านผ่านแดนยังคงปิดตายและเข้มงวดในผ่านด่านไปมาทั้งคนและสินค้า
มีการแสดงความคิดเห็นร้อนแรงหลากหลายว่า ควรเปิดด่านหรือไม่ เปิดด่านแล้วฝ่ายใดได้ประโยชน์ ฝ่ายไหนเสียหาย ประมวลจากความเห็นหลากหลายพบว่า หน่วยงานความมั่นคงกองทัพไทยและคนไทยทั่วไปต้องการปิดด่าน จนกว่าระบอบฮุนเซนล่มสลาย
เนื่องจากเป็นที่รู้กันทั่วไปว่า พื้นที่ชายแดนของกัมพูชาติดกับประเทศไทย เป็น บ่อเงิน บ่อทองของฮุนเซน ที่มีรายได้หลักจากบ่อนการพนันและสแกมเมอร์หรือการหลอกลวงออนไลน์ ที่คนไทยเรียก “คอลเซ็นเตอร์” ซึ่งมีอยู่ดาษดื่นในชายแดนฝั่งกัมพูชา
พนักงานระดับบริหารกาสิโนของคนไทยในเมืองปอยเปต ของกัมพูชา บอกแนวหน้าว่า บนอาคาร 18 ชั้น ในเมืองปอยเปตนั้นแก๊งสแกมเมอร์กับบ่อนการพนันใช้อาคารร่วมกัน โดยใช้พื้นที่ในอาคารแต่ละชั้นแยกออกกันระหว่างบ่อนการพนันกับศูนย์ปฏิบัติการสแกมเมอร์
เฉพาะในเมืองปอยเปต มีอาคารที่เป็นบ่อนการพนัน 10 อาคาร ในจำนวนครึ่งหนึ่งในนั้นเป็นบ่อนการพนันบริหารจัดการโดยนายทุนคนไทย ส่วนอีกห้าอาคารมีทั้งบ่อนการพนันและศูนย์สแกมเมอร์ของคนหลายสัญชาติในอาคารเดียวกัน
ทั้งบ่อนการพนัน และ แก๊งสแกมเมอร์ ในกัมพูชาอยู่ภายใต้การคุ้มครองเครือข่ายสมเด็จฯฮุนเซน ที่จำเป็นต้องส่งส่วยและส่วนหนึ่งของรายได้ให้เครือข่ายระบบฮุนเซน แหล่งข่าวกล่าวว่าค่าใบอนุญาตเปิดบ่อนหนึ่งใบ ต้องจ่ายให้รัฐบาลพนมเปญ 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณหนึ่งล้านสามแสนบาท) ในเมืองปอยเปต มีบ่อนการพนัน 10 แห่ง หากนับรวมตลอดแนวชายแดนยาว 897 กม. มีบ่อนในเขตกัมพูชา กว่า 50 แห่ง
บ่อนทั้ง 50 แห่งที่อยู่ใกล้ชายแดนไทย จึงเป็นแหล่งรายได้มหาศาลของรัฐบาลพนมเปญ ซึ่งอยู่ภายใต้การครอบงำของตระกูลฮุนเซน หากนับรวมเงินบาปจากสแกมเมอร์ คาดว่าตระกูลฮุน มั่งคั่งจากกิจการสีเทา สีดำนับแสนล้านบาท
ดังนั้น เมื่อทหารและหน่วยงานมั่นคงไทยสั่งปิดด่าน ตัดอินเตอร์เนต ตัดไฟและห้ามไม่ให้คนไทยไปเล่นการพนันในกัมพูชา ตั้งแต่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา จึงเหมือนทุบหม้อข้าวเครือข่ายฮุนเซน ในเวลาเดียวกันเป็นการตัดกำลังไม่ให้ระบบฮุนเซน นำเงินบาปไปซื้ออาวุธ และเลี้ยงดูทหารไว้ก่อกวนระรานเพื่อนบ้านประเทศไทย
แน่นอนการปิดด่านอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจการค้าไทย-กัมพูชา ที่ประมาณการว่า เสียหายหลายหมื่นล้านบาท แต่จะนำความเสียหายของพ่อค้า มาแลกกับอธิปไตย ความมั่นคง ชีวิตเลือดเนื้อทหาร และพลเรือนไทยไม่ได้ ทหารจึงต้องปิดด่านต่อไปเพื่อปราบระบอบฮุนเซนให้ราบคาบลงไป ไม่อยู่ฐานะจะลอบกัดประเทศไทยได้ แล้วค่อยพูดกันเรื่องเปิดด่าน
เร็วๆ นี้ มีรายงานว่า บริษัทญี่ปุ่นซึ่งลงทุนผลิตรถยนต์และอะไหล่ในกัมพูชา กดดันให้ประเทศไทยเปิดด่าน เพื่อให้สินค้าที่ผลิตในกัมพูชาส่งออก นำเข้าผ่านประเทศไทยได้ ข่าวญี่ปุ่นกดดันให้เปิดด่านเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างร้อนแรง จนสถานทูตญี่ปุ่นออกมาแก้ข่าวว่า ไม่ได้กดดันประเทศไทยแต่นักธุรกิจญี่ปุ่นปรึกษากับฝ่ายกัมพูชาว่า หาวิธีไหนนำเข้าส่งออกสินค้าและแรงงานกัมพูชาได้
คนไทยเพิ่งถึงบางอ้อเมื่อรู้ว่า เป็นรักษาการรัฐมนตรีกลาโหมในรัฐบาลเพื่อไทย ไปตกลงในที่ประชุม จีบีซี กับกัมพูชาว่า 1.จะเปิดด่านคลองใหญ่ จ.ตราด เป็นการนำร่อง 2.กัมพูชาจะร่วมมือเก็บทุ่นระเบิด และ 3.ร่วมกันปราบปรามสแกมเมอร์
การตกลงกับกัมพูชา โดยรักษาการ รัฐมนตรีกลาโหมรัฐบาลเพื่อไทย ที่ล่มสลายไปแล้ว ทำให้ประชาชนก่นด่ารัฐบาลภูมิใจไทย ที่ยังไม่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณและแถลงนโยบายต่อสภาก่อนปฏิบัติหน้าที่เป็นทางการ แต่ถูกด่าล่วงหน้าว่าไม่ทันไรจะเปิดด่านให้เขมรแล้ว
หลักการทั่วไป ผู้อยู่ในตำแหน่ง รมว.กลาโหม นอกจากต้องมีอุดมการณ์เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์แล้ว ต้องสุขุมรอบคอบ มีความรู้รอบด้านการไปตกลงเปิดด่าน ปราบสแกมเมอร์ และร่วมกันเก็บกู้ระเบิดกับกัมพูชานั้น ต้องตระหนักว่า ปฏิบัติได้หรือไม่ ในเมื่อกัมพูชาเป็นผู้วางกับระเบิด เปิดบ่อนและเป็นเจ้าของแก๊งสแกมเมอร์
นายสม รังสี ผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชาที่ลี้ภัยอยู่ในฝรั่งเศส และตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น แฉรายได้แก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชาสูงถึง 19,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี วันที่ 13 สิงหาคม 2568 เฟซบุ๊กสมรังสี โพสต์ข้อความเป็นภาษาเขมร เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับมูลค่าทางเศรษฐกิจของอาชญากรรมไซเบอร์ในกัมพูชา โดยระบุว่า“รายได้จากสแกมเมอร์มากกว่า รายได้จากการท่องเที่ยวและโรงงานทอผ้ารวมกัน นับว่าเป็นรายได้มหาศาลที่แบ่งปันกันในเครือข่ายระบบฮุนเซน
พนักงานระดับบริหารบ่อนคนไทยในเมืองปอยเปต บอกแนวหน้าว่า ทุกครั้งที่มีปฏิบัติการปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ ตัวใหญ่ในกระบวนการได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้า เจ้าหน้าที่จึงจับได้แต่คนงาน ส่วนตัวการหนีไปก่อนทุกครั้ง เขากล่าวด้วยว่า ตั้งแต่กองกำลังบูรพาปิดด่านชายแดนเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน บ่อนจีนสีเทาและคอลเซ็นเตอร์ส่วนใหญ่ย้ายฐานปฏิบัติการจากใกล้ชายแดนไทยไปที่ตั้งใหม่ในเมืองบาเวต จังหวัดสะวายเรียง ของกัมพูชาใกล้ชายแดนเวียดนาม
ส่วนบ่อนคนไทยยังคงสแตนด์บายเผื่อเปิดใหม่ได้ และลูกค้าประจำบ่อนคนไทย ประมาณ 50% ย้ายไปเล่นการพนันในบ่อนสะหวันนะเขต ประเทศลาว ที่เป็นของคนจีนกับคนลาว “ลูกค้าคนไทยสะดวกมากเพราะที่นั่นใช้เงินบาทได้ ซึ่งลาวต้องการเงินบาทมาก” แหล่งข่าว เสริมว่า บ่อนออนไลน์จากปอยเปต แอบเข้ามาเปิดในประเทศไทยหลายแห่งแล้ว
ก่อนปิดด่าน แต่ละวันมีชาวไทยเดินทางไปเล่นการพนันในกาสิโนฝั่งประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะกัมพูชาไม่น้อยกว่า 5,000 คนต่อวันและมีเงินหมุนเวียนออกนอกประเทศไม่น้อยกว่า 40,000 ล้านบาทต่อปี
จึงใคร่เตือนรักษาการ รมต.กลาโหม ในรัฐบาลเพื่อไทย ที่มีรายงานว่า จะเป็นรัฐมนตรีกลาโหมตัวจริงในรัฐบาลภูมิใจไทย นำโดยอนุทิน ชาญวีรกูล ให้เร่งหาความรู้ และ มีความสุขุมรอบคอบ ก่อนเจรจาตกลงใดๆ กับกัมพูชา เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายเหมือนครั้งที่ไปตกลงหยุดยิงอย่างไม่มีเงื่อนไข และตกลงเปิดด่านคลองลึกนำร่อง ร่วมมือเก็บกู้ระเบิด และปราบปรามสแกมเมอร์ในกัมพูชา ที่ไม่สามารถทำได้
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี