วันจันทร์ ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / คิด เขียน คุย
คิด เขียน คุย

คิด เขียน คุย

รุ่งเรือง ปรีชากุล
วันจันทร์ ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
ต้องยกเลิก‘MOU 43-MOU 44’

ดูทั้งหมด

  •  

รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาวันที่ 29กันยายนวันนี้เป็นวันแรก โดยจะเสร็จสิ้นในวันที่ 30 กันยายนพรุ่งนี้ และมะรืนนี้วันที่1 ตุลาคม ถือว่าเป็นการเริ่มต้นของ“รัฐบาลหนูชั่วคราว”ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูลเป็นนายกรัฐมนตรี และเป็นวันแรกของปีงบประมาณ 2569

อีกทั้งยังเท่ากับเป็นวันแรกในการเริ่มทำงานของข้าราชการการเมือง คือ คณะรัฐมนตรีชุดนี้ พร้อมกับข้าราชการประจำที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นสู่ตำแหน่งใหม่ แทนคนเก่าที่ครบวาระเกษียณราชการ และรวมทั้งยังเป็นวันแรกของการเริ่มใช้งบประมาณรายจ่ายปี 2569 อีกด้วย จากวงเงินทั้งสิ้น 3.78 ล้านล้านบาท


4 เดือนของ“รัฐบาลหนูชั่วคราว”นี้ถือว่าเวลาสั้นมาก และด้วยเวลาเพียงเท่านี้ เมื่อดูนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภาแล้ว เวลา 4เดือนนั้นน้อยไป และนอกจากเวลาจะน้อยแล้ว เงื่อนไขภายนอกก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญด้วย

โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงตามร่างนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาว่า นอกจากการเข้ามาเป็นรัฐบาลด้วยเวลาอันจำกัด ยังจะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนรอบด้าน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และภูมิรัฐศาสตร์ของโลก ซึ่งปัจจัยทั้งหลายเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมทั้งโอกาสในการสร้างรายได้ของประชาชน และการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ

ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ขยายความให้เห็นภาพว่า“ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่จำกัด และงบประมาณที่รัฐบาลนี้ไม่ได้เป็นผู้จัดทำ ทั้งยังเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย รัฐบาลจึงจำเป็นต้องเร่งดำเนินการแก้ปัญหาที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ ได้แก่ ภัยด้านเศรษฐกิจ ภัยด้านความมั่นคง ภัยด้านสังคม และภัยด้านสิ่งแวดล้อม ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ควบคู่กับการต้องวางรากฐานของประเทศ การขับเคลื่อนการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนการสร้างระบบเศรษฐกิจที่โปร่งใส เป็นธรรม และยั่งยืน การสร้างความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยและสันติสุขให้เกิดขึ้นกับประเทศชาติบ้านเมือง และการเสริมสร้างความไว้วางใจจากประชาชน การดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อลดปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ”

หากดูรายละเอียดในคำแถลงนโยบายของรัฐบาล จากนโยบายสำคัญที่จะแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของประเทศทั้งหมด 5ด้าน ประกอบด้วย ด้านเศรษฐกิจ, ด้านความมั่นคง, ด้านสังคม,ด้านภัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสุดท้ายด้านการบริหารภาครัฐ รวมทั้งการปฏิรูปกฎหมาย นั้น จะทำได้ก็เพียงแค่สองสามเรื่องเท่านั้นกับเวลา 4 เดือนที่มีอยู่

เช่นด้านเศรษฐกิจ ที่จะ“สร้างรายได้-ลดรายจ่าย”ให้กับประชาชนในการใช้ชีวิตประจำวัน เกี่ยวกับค่าพลังงาน ค่าน้ำดื่มสะอาด ค่าโดยสาร ค่าผ่านทาง เพื่อจะทำให้ประชาชนมีกำลังในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น โดยได้จัดทำโครงการคนละครึ่งนั้น ข้อนี้สามารถทำได้ทันที และก็ตรงปกตรงประเด็นกับปัญหาเดือดร้อนของประชาชนในเวลานี้ ที่มีผลมาจาก 2ปีที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเข้ามาบริหารประเทศ

อีกเรื่องหนึ่ง ด้านความมั่นคง ตามนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภา เมื่อพิจารณาดูแล้วกว้างไป จากที่บอกว่า“จะเร่งแก้ไขปัญหากรณีพิพาทระหว่างไทยและกัมพูชาด้วยแนวทางสันติภาพ เพื่อนำความมั่นคงปลอดภัยให้แก่ประชาชนตามบริเวณชายแดนโดยเร็ว และรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยและเขตแดนที่เป็นของไทยโดยชอบธรรมตามเส้นเขตแดนที่เป็นสากล รวมถึงดำเนินการยุติความขัดแย้งผ่านกลไกการเจรจาทางการทูตที่เหมาะสมควบคู่กับการป้องกันประเทศที่เข้มแข็ง ตลอดจนทำประชามติเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพิจารณาตัดสินใจ ให้ความเห็นต่อการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างไทย-กัมพูชา”

สำคัญที่สุดก็คือ เรื่อง“MOU”ที่ว่าจะให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการทำประชามติ ประเด็นนี้ถือว่า“เงื้อง่าราคาแพง”,,ทำไมต้องทำประชามติ เพราะ“MOU”ทั้ง 2 ฉบับ คือ “MOU43”กับ“MOU 44”นั้น รัฐบาล“ชวน หลีกภัย”และรัฐบาล“ทักษิณชินวัตร” จัดทำร่างบันทึกความเข้าใจขึ้นมาก็ไม่เคยถามประชาชน ก่อนที่จะลงนามกับกัมพูชา

จึงมีคำถามว่า ทำไมจะต้องจัดทำประชามติเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพิจารณาตัดสินใจ ฟังผิวเผินก็อาจจะดูดี แต่เมื่อมองอย่างละเอียดแล้ว การที่รัฐบาลไม่ประกาศยกเลิกทันทีทันใดโดยรัฐบาลเอง ก็เท่ากับว่ารัฐบาลกำลังซื้อเวลา เพราะไม่กล้าตัดสินใจ และที่ไม่กล้าตัดสินใจนั้น เป็นเพราะมีผลประโยชน์อื่นใดทับซ้อนหรือไม่

ด้วยเหตุที่“MOU”ทั้งสองฉบับดังกล่าว มีผลเสียต่อประเทศไทยในด้านเขตแดน เนื่องจาก MOUทั้งสองฉบับนี้มีเงื่อนไขสำคัญที่เอื้อประโยชน์ต่อกัมพูชา และอาจทำให้ไทยเสียเปรียบในการเจรจาปักปันเขตแดนทางทะเล

กล่าวคือ “MOU 43” หรือ“บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก” ซึ่งมีการลงนามเมื่อปี 2543 ในสมัยรัฐบาล“ชวนหลีกภัย”นั้น มีปัญหามาโดยตลอด เนื่องจากนับตั้งแต่มี“MOU43”จนกระทั่งถึงปัจจุบัน กัมพูชาละเมิดเงื่อนไขมากกว่า 600 ครั้ง จากการรุกล้ำเขตแดนไทย ทั้งการปลูกสร้างสิ่งปลูกสร้างถาวร การเคลื่อนกำลังทหาร และการลักลอบเข้ามาวางทุ่นระเบิด เป็นต้น ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะบันทึกความเข้าใจนี้ยึดแผนที่มาตราส่วน 1 : 2แสน แทนที่จะยึดตามแนวทางปฏิบัติของกองทัพไทย และในทางสากลที่ใช้แผนที่มาตราส่วน 1 : 5 หมื่น

ส่วน “MOU 44” ที่ลงนามในปี 2544 สมัย“ทักษิณ ชินวัตร”เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น มีผลประโยชน์ทับซ้อนเกี่ยวกับแหล่งปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติตรงบริเวณเกาะกูด จังหวัดตราด ซึ่งประเมินกันว่ามีมูลค่ามหาศาลมากกว่า 20ล้านล้านบาท

สรุปแล้ว ทางที่ดีที่สุด เพื่อลดกระแสต่อต้านจากประชาชน “รัฐบาลหนูชั่วคราว”ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล จะต้องยกเลิก“MOU”ทั้ง 2ฉบับนี้ทันที โดยไม่ต้องโยนลูกไปให้ประชาชนตัดสินใจ

หาไม่เช่นนั้นแล้ว ประชาชนคนไทยจะเข้าใจผิดได้ว่า-รัฐบาลชุดนี้มีผลประโยชน์อื่นใดทับซ้อนหรือไม่ ?!

รุ่งเรือง ปรีชากุล

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:07 น. 'นเรศ'เปิดประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ อปท. ย้ำ 4 แนวทางบริหารสู่ความยั่งยืน
21:49 น. กลาโหมประณามกัมพูชา เปิดฉากยิงพื้นที่ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน
21:41 น. ‘ปธ.รัฐสภา’ลงพื้นที่หาดใหญ่ มอบเงิน 1.1 แสนบาทช่วยน้ำท่วม
21:17 น. บุรีรัมย์เคลื่อนทัพ ระดมกำลังเปิดศูนย์พักพิง รับผู้อพยพ3.5หมื่นคน รับมือสถานการณ์ปะทะ
20:48 น. ต๊ะ นารากร ติงสื่อ! เปิดเผยชีวิตส่วนตัว นัทปง ไม่เกรงใจญาติ
ดูทั้งหมด
เปิดประวัติ นานา ไรบีนา พี่ใหญ่แห่งแก๊งนางฟ้า ตัวแม่ตัวมัมของเมืองไทย
ทรงเป็นแบบอย่าง! สมเด็จพระราชินี เก็บขยะเกาะราชาใหญ่ หลังแข่งคิงส์คัพรีกัตต้า (คลิป)
เปิดประวัติ เวย์ ไทยเทเนี่ยม แร็ปเปอร์ดังคู่ชีวิตดาราสาว นานา ไรบีนา
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 5-11 ธ.ค.68
จับตา พายุลูกใหม่ กำลังก่อตัวช่วง 8-10 ธ.ค. บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง
ดูทั้งหมด
การสร้างสังคมไทยให้เป็นประชาธิปไตย โดยผ่านการปฏิรูประบบและกระบวนการกฎหมาย (4)
ไทยรบเขมรอีกครั้งแน่?
รัฐอันธพาลวางทุ่นระเบิดใหม่ ดื้อด้าน ปากแข็ง รัฐผู้เสียหายมีความชอบธรรมที่จะใช้อาวุธโต้ตอบ
บุคคลแนวหน้า : 8 ธันวาคม 2568
ทำอย่างไรให้คนทำงานดี ได้ทำงานต่อ?
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

กลาโหมประณามกัมพูชา เปิดฉากยิงพื้นที่ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน

ต๊ะ นารากร ติงสื่อ! เปิดเผยชีวิตส่วนตัว นัทปง ไม่เกรงใจญาติ

อรรถกร แจงดราม่าป้ายซีเกมส์ เป็นของท้องถิ่น-เอกชนไม่ได้ใช้งบกกท.

หลักฐานชัด!!! กัมพูชายิงทหารไทย บาดเจ็บ 2 นาย

ชาวบ้านกรวด บุรีรัมย์ ขนของขึ้นรถ หลังปะทะชายแดนเดือด แห่เติมน้ำมันแน่นปั๊มอพยพทันที

'นายกฯ-บิ๊กเล็ก'บินด่วน ลงพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา 8 ธ.ค.นี้

  • Breaking News
  • \'นเรศ\'เปิดประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ อปท. ย้ำ 4 แนวทางบริหารสู่ความยั่งยืน 'นเรศ'เปิดประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ อปท. ย้ำ 4 แนวทางบริหารสู่ความยั่งยืน
  • กลาโหมประณามกัมพูชา เปิดฉากยิงพื้นที่ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน กลาโหมประณามกัมพูชา เปิดฉากยิงพื้นที่ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน
  • ‘ปธ.รัฐสภา’ลงพื้นที่หาดใหญ่ มอบเงิน 1.1 แสนบาทช่วยน้ำท่วม ‘ปธ.รัฐสภา’ลงพื้นที่หาดใหญ่ มอบเงิน 1.1 แสนบาทช่วยน้ำท่วม
  • บุรีรัมย์เคลื่อนทัพ ระดมกำลังเปิดศูนย์พักพิง รับผู้อพยพ3.5หมื่นคน รับมือสถานการณ์ปะทะ บุรีรัมย์เคลื่อนทัพ ระดมกำลังเปิดศูนย์พักพิง รับผู้อพยพ3.5หมื่นคน รับมือสถานการณ์ปะทะ
  • ต๊ะ นารากร ติงสื่อ! เปิดเผยชีวิตส่วนตัว นัทปง ไม่เกรงใจญาติ ต๊ะ นารากร ติงสื่อ! เปิดเผยชีวิตส่วนตัว นัทปง ไม่เกรงใจญาติ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

‘รธน.’ยาพิษนักการเมือง

‘รธน.’ยาพิษนักการเมือง

8 ธ.ค. 2568

ภาพถ่าย‘เบน สมิธ’ทุ่นระเบิดสังหาร‘อนุทิน-บิ๊กแดง’

ภาพถ่าย‘เบน สมิธ’ทุ่นระเบิดสังหาร‘อนุทิน-บิ๊กแดง’

5 ธ.ค. 2568

ดูเขาดูเราเรื่องภัยน้ำท่วม

ดูเขาดูเราเรื่องภัยน้ำท่วม

4 ธ.ค. 2568

‘นายกแป้น’กับน้ำท่วมหาดใหญ่

‘นายกแป้น’กับน้ำท่วมหาดใหญ่

3 ธ.ค. 2568

มหาอุทกภัยครั้งนี้หนักกว่า‘สึนามิ’

มหาอุทกภัยครั้งนี้หนักกว่า‘สึนามิ’

2 ธ.ค. 2568

‘มาร์ค-หนู-เท้ง’ตัวเลือกคนไทย

‘มาร์ค-หนู-เท้ง’ตัวเลือกคนไทย

1 ธ.ค. 2568

ทุกข์ใหญ่หลวงหลังน้ำลด

ทุกข์ใหญ่หลวงหลังน้ำลด

28 พ.ย. 2568

แก้น้ำท่วมภาคใต้ด้วย‘ทฤษฎีรัชกาลที่ 9’

แก้น้ำท่วมภาคใต้ด้วย‘ทฤษฎีรัชกาลที่ 9’

27 พ.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved