ยุบสภาฯเลือกตั้งใหม่คราวหน้า..ตัวเลือกของประชาชนในการเลือกตั้ง..น่าจะมีอยู่ 3 พรรคการเมือง..คือ..พรรคประชาชน..พรรคภูมิใจไทย..และพรรคประชาธิปัตย์
พรรคประชาธิปัตย์ที่สวมเสื้อ“สีฟ้า”นั้น..แม้ว่าการเลือกตั้งในปี 2566 จะตกต่ำสุดขีด..แต่การที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ..จะ“คัมแบ็ก”กลับมาฟื้นพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง..พร้อมกับขุนพลเก่าๆ ของพรรคประชาธิปัตย์..ที่ลาออกไปหลังจากนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน..ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค..ได้ทยอยประกาศตัวว่าจะกลับมากอบกู้พรรคประชาธิปัตย์ขึ้นมาใหม่..จึงทำให้มวลชนที่เคยเป็นฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์เริ่มมีความหวัง..เชื่อว่าจากที่เคยได้รับเลือกตั้งในปี 2566..จำนวน 25 คน..คือ..สส.เขต 22 คน..และปาร์ตี้ลิสต์ 3 คน..ก็น่าจะได้เพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 50 คน
ส่วนพรรคประชาชน..จะเป็น“คู่ชน”กับพรรคภูมิใจไทย..ซึ่งจำนวนเสียง 14.4 ล้านเสียงที่ได้จากคะแนนปาร์ตี้ลิสต์..หรือระบบบัญชีรายชื่อ..ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2566 ..ขาดเกินคงไม่หนีไปจากนี้..รวมแล้วตัวเลข สส.ทั้งระบบเขตและปาร์ตี้ลิสต์คงจะได้ไม่ต่ำกว่า 100 คน..จากที่ได้ในปี 2566 จำนวน 151 คน
เพราะคนที่เลือกพรรคการเมือง“สีส้ม”พรรคนี้..ยังไม่เคยเห็นฝีมือในการบริหารราชการแผ่นดินของพรรคนี้..ตั้งแต่งเริ่มจากพรรคอนาคตใหม่..และพรรคก้าวไกล..ก่อนจะมาเป็นพรรคประชาชน..ว่ามีฝีมือหรือเก่งจริงตามคำโฆษณาชวนเชื่อหรือไม่..ดังนั้น..พรรคประชาชนจึงยังเป็น“ความหวัง”และ“ความฝัน”..เมื่อเทียบกับพรรคการเมืองเก่าๆ..ที่ประชาชนคนไทยต่างก็เห็นว่า..หา สส.น้ำดีได้น้อยกว่า สส.น้ำเน่า..จากพฤติกรรมทั้งในอดีตและปัจจุบัน
ขณะที่พรรคภูมิใจไทย“สายสีน้ำเงิน”..จากเดิมในปี 2566 ที่ได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์มาเพียงแค่ 1.13 ล้านเสียง..โดยทั้งสองระบบได้ สส.มาทั้งหมด 71 คนนั้น..ถึงวันนี้สถานการณ์เปลี่ยน..การขึ้นมาเป็นรัฐบาลคราวนี้จึงกลายเป็น“พรรคเนื้อหอม”..สส.และนักการเมืองที่เป็น“นักเลือกตั้ง”จึงตีจากพรรคการเมืองเดิมที่เคยสังกัด..แล้วแห่กันมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย..โดยเฉพาะ สส.จากพรรคเพื่อไทย..ที่จะตีจากมาไม่น้อย
เหตุผลที่แห่มาซบพรรคภูมิใจไทยกันก็เพราะ..สส.และนักการเมืองสายพันธุ์นี้..เล่นการเมืองเพียงเพื่อแสวงหาประโยชน์ให้แก่ตนเองเท่านั้น ..ไม่ได้คิดเรื่องอื่นใดที่พ้นไปจากเรื่องของตัวเอง..จึงเล่นการเมืองเพื่อ“ความมั่งคั่งร่ำรวย”..ด้วยเหตุนี้ “อำนาจ”อยู่ที่ไหน..สส.และนักการเมืองสายพันธุ์นี้ก็จะวิ่งเข้าไปหา..ซึ่งไม่ต่างจาก“เห็บสุนัข”..ที่พร้อมจะสลัดทิ้งสุนัขตัวเดิมที่ไม่มีเลือดให้มันดูดได้อีกต่อไปแล้ว
พรรคภูมิใจไทย..จึงน่าจะเป็นคู่ชิงกับพรรคประชาชนในการเลือกตั้งครั้งต่อไป..ส่วนพรรคเพื่อไทยนั้นปิดประตูตายไปได้เลย..และพรรคเพื่อไทยจากที่เคยได้ สส.มาเป็นลำดับสองในการเลือกตั้งเมื่อปี 2566..จำนวน 141 คน..จาก สส.เขต 112 คน..และระบบปาร์ตี้ลิสต์ 29 คน..คงไม่น่าจะได้เท่าเดิม..เต็มที่ก็ไม่เกิน 70-80 คน
เนื่องจากพรรคเพื่อไทยได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า..2 ปีที่ขึ้นมาบริหารประเทศ..เปลี่ยนนายกรัฐมนตรี 2 คน..นอกจากจะไม่มีผลงานเป็นที่ปรากฏแล้ว..ก็ยังทำให้ประเทศวิบัติฉิบหาย..ทั้งปัญหาด้านเศรษฐกิจ..และปัญหาด้านความมั่นคงของประเทศ
ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจนั้น..เพราะพรรคเพื่อไทยมีแต่ผลประโยชน์ทับซ้อน..คิดแต่เรื่องคะแนนเสียงจากนโยบายประชานิยมของตน..ทุกโครงการจึงมุ่นเน้นไปที่หาคะแนนนิยมเพื่อการเลือกตั้งสมัยหน้า..เป็นการโหยหาและฝันเพ้อถึงอดีตสมัยพรรคไทยรักไทยที่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้เพียงพรรคเดียว..จนกระทั่งผูกขาด..ทั้งอำนาจฝ่ายบริหารและอำนาจนิติบัญญัติ
ขณะที่ปัญหาด้านความมั่นคงที่ทำให้ไทยมีปัญหากับกัมพูชา..นั่นก็เป็นเพราะทั้งรัฐบาลและตัวนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ“แพทองธาร ชินวัตร”อ่อนปวกเปียก..กลายเป็น“ไก่รองบ่อน”ให้กัมพูชาก่อสงครามรุกรานไทย
ทั้งนี้ทั้งนั้น..ก็เนื่องจากผลประโยชน์ทับซ้อนที่ไม่“ลงตัว”..ระหว่าง“ตระกูลชิน” กับ“ตระกูลฮุน”..ซึ่งฝ่ายไทยมี“ทักษิณ ชินวัตร”เป็นผู้ชักใยรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีที่เป็นบุตรสาว..ส่วนกัมพูชามี“ฮุน เซน”เป็นตัวชักใยรัฐบาลและ“ฮุน มาเนต”บุตรชายที่เป็นนายกรัฐมนตรี
สำคัญที่สุด..พรรคเพื่อไทยไม่เคยสำรวจตนเองจากพื้นฐานของความเป็นจริง..แต่ยังเพ้อฝันใช้“อัตวิสัย”มองปัญหาโดยที่ไม่ได้ยึดโยงกับ“ภววิสัย”..ดังจะเห็นได้จาก“เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย” ได้โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา..โดยประกาศเป้าหมายว่า..“เพื่อไทยจะกลับมา : 2 ปีกับผลงานใหญ่เพื่อคนไทย”
เนื้อหาเพ้อเจ้อแบบโฆษณาชวนเชื่อของพรรคเพื่อไทย..ตามที่ได้ประกาศใน“เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย”ระบุว่า..“ในระยะเวลา 2 ปี..พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล..รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งซึ่งมีอายุเพียงครึ่งเทอมนั้น..พรรคเพื่อไทยขอยืนยันในการรักษาคำมั่นของพรรคเพื่อไทยที่มีต่อพี่น้องประชาชน..ในการเข้าผลักดันและดำเนินนโยบายภายใต้เวลาที่จำกัด..และท่ามกลางอุปสรรคและวิกฤตการณ์ทั้งในและนอกประเทศ..ซึ่งได้ดำเนินนโยบายและแก้ไขอย่างเต็มความสามารถ”
ผลงาน 2 ปีที่พรรคเพื่อไทยอ้างนั้น..ล้วนแล้วแต่เป็นนามธรรม..เหมือนละอองน้ำลายที่ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ..ไม่สามารถจับต้องได้..เช่นว่า..การลงมือทำเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต..เพื่อร่วมแก้ไขปัญหานานับประการจากปัญหาทางเศรษฐกิจระดับมหภาค..โดยการเจรจาทั้งเพื่อรับมือความเปลี่ยนแปลงในระดับโลก..และเพื่อเปิดพื้นที่ทางเศรษฐกิจใหม่ๆ..ทั้งในและต่างประเทศ..ไปจนถึงการร่วมแก้ปัญหาโครงสร้างในระดับปัจเจกชนและครัวเรือน..ตลอดจนการแก้ปัญหาหนี้สินของประชาชนพี่น้องประชาชนอันเป็นรากฐานสำคัญ..และรวมถึงการเปิดพรมแดนและพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ๆ
ผลงานเลื่อนลอยดังที่ยกมานั้น..พรรคเพื่อไทยพูดด้วยวาทะอันพริ้งเพริศว่า..“สร้างความฝันอันเป็นการมองไปข้างหน้าอยู่เสมอ..โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”..และนอกจากนั้นเมื่อวันที่ 5 ตุลาคมเมื่อวานนี้..นางสาวขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ..และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย..ก็ยังได้แถลงถึงความพร้อมของพรรคเพื่อไทยต่อการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นหลังการยุบสภาฯ..ด้วยการเปิดแคมเปญใหม่ชื่อว่า..“ยกเครื่องเพื่อไทย-ยกเครื่องประเทศไทย”
โดยในวันที่ 7 ตุลาคมพรุ่งนี้..“แพทองธาร ชินวัตร”ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย..ที่ไม่เหลือเครดิตทางการเมืองอีกแล้ว..หลังจากถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพราะ“คลิปอัปยศ”..จะแสดงวิสัยทัศน์ผ่านทางเฟซบุ๊กและยูทูปของพรรคเพื่อไทย..พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร สส.ของพรรคเพื่อไทย..ซึ่งนางสาวขัตติยา สวัสดิผล..รองโฆษกพรรคเพื่อไทยบอกว่า..“นี่คือจุดเริ่มต้นอีกครั้งในการเดินหน้าใหม่ของพรรคเพื่อไทย..ซึ่งจะเป็นการสะท้อนถึงความมุ่งมั่นพรรคเพื่อไทย..ที่จะยกเครื่องพรรคและยกเครื่องประเทศไทยไปพร้อมกัน”
สรุปตรงบรรทัดนี้..ตัวเลือกทางการเมืองของคนไทยในการเลือกตั้งครั้งใหม่ในปี 2569..ซึ่งต่อให้เอียนเลี่ยนอย่างไร..มันก็มีอยู่แค่นี้จริงๆ..เพียง 3 พรรคการเมือง..คือ..พรรคประชาชน..พรรคภูมิใจไทย..และพรรคประชาธิปัตย์
เลือกเอาตามอัธยาสัย“สีส้ม-สีน้ำเงิน-สีฟ้า”..ซึ่งจะหาดีแบบร้อยเปอร์เซ็นต์นั้นไม่มีแน่นอน..จะมีก็แค่“เลวน้อย”..หรือ“เลวโคตร”เท่านั้น !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี