วันพุธ ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ระเบียบ กฎเกณฑ์ ที่เป็นปัญหาอุปสรรคในการรับเงินเยียวยาของผู้ประสบมหาอุทกภัยครั้งนี้ จากที่ไม่น่าจะมีปัญหาก็กลายเป็นปัญหาขึ้นมาจนได้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ต้องโทษ“นายกแป้น” หรือนายณรงค์พร ณ พัทลุง นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ ที่มีปัญหามาตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุจนกระทั่งหลังเกิดเหตุ
ปัญหาเรื่องเอกสารเกี่ยวกับการรับเงินเยียวยา ต้องถือว่าเทศบาลนครหาดใหญ่ไม่ขยับอะไรเลย ซึ่งอันที่จริงแล้ว นอกจากเรื่องเอกสาร ทางเทศบาลนครหาดใหญ่ก็ควรที่จะลงไปตั้งโต๊ะที่หน้างานรับเรื่องจากชาวบ้านไม่ต้องแห่กันไปที่เทศบาล โดยใช้รูปแบบเหมือนคูหาเลือกตั้งไปตั้งเต็นท์ตามจุดต่างๆ ใกล้กับเคหสถานของผู้ประสบภัย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ยากเย็นอะไร ส่วนเรื่องเอกสารการขอรับเงินเยียวยาน้ำท่วมของผู้ประสบภัย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ก็ได้ให้แนวทางการปฏิบัติเพื่อลดขั้นตอนไว้แล้ว
โดยเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมนี้เอง นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผลอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ก็เพิ่งจะทำหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 9 จังหวัด คือ สุราษฎร์ธานีนครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เร่งรัดการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
ด้วยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เห็นว่าภัยพิบัติครั้งนี้ เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยยึดหลักความเดือดร้อนของประชาชนเป็นสำคัญ และให้การเบิกจ่ายเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยเป็นไปอย่างรวดเร็ว เหมาะสม ไม่สร้างภาระซ้ำซ้อนให้กับประชาชน
ทางกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจึงขอความร่วมมือให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 9 จังหวัดที่ประสบภัยพิบัติ แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ซึ่งก็คือเทศบาล และ อบจ. และอบต. ดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตามมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเน้นย้ำตามแนวทางของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ที่ให้เก็บเอกสารหลักฐาน ที่เชื่อได้ว่าเป็นการยืนยันตัวตน และมีการจ่ายเงินจริง เช่น ใช้เลขประจำตัวประชาชน (ID) และหมายเลขบัญชีธนาคารที่รับโอนเงิน หรือบันทึกภาพถ่ายขณะมอบความช่วยเหลือ ซึ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้บันทึกได้เอง และหรือให้ผู้รับ ลงนามยืนยันว่าได้รับเงินจริงก่อนดำเนินการโอนเงิน
ถ้าจะว่าไปเงิน 9 พันบาทก้อนแรกที่เยียวยาผู้ประสบภัยก็ถือว่าน้อยอยู่แล้ว ยังจะทำให้มีปัญหาเพราะระเบียบขั้นตอนอีก ทั้งที่สามารถทำได้ทันที ตามแนวทางของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และก็เพราะเหตุการณ์ไม่ปกติ จึงมีความจำเป็นต้องผ่อนผันผ่อนปรน เนื่องจากเอกสารต่างๆ ของผู้ประสบภัยส่วนใหญ่ ย่อมสูญหายฉีกขาดเปื่อยยุ่ยไปกับน้ำหมดแล้ว ทำไมเรื่องแค่นี้ยังคิดกันไม่ได้
นั่นก็แสดงว่า มหาอุทกภัยครั้งนี้ เฉพาะที่อำเภอหาดใหญ่นั้นองค์กรท้องถิ่นล้มเหลวจริงๆ จึงทำให้เกิดความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง ทั้งที่ถ้าจะว่าไปแล้วนายณรงค์พร ณ พัทลุง ในฐานะนายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ ก็เป็นผู้มีประสบการณ์ในฐานะนักปกครอง โดยที่ก่อนจะมาลงสมัครเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ และได้รับการเลือกเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 เคยเป็นข้าราชการส่วนภูมิภาคสังกัดกรมการปกครอง ทำงานอยู่ในพื้นที่ภาคใต้มาอย่างยาวนาน จนชาวบ้านเรียกติดปากว่า“ปลัดแป้น” และเคยเป็นนายอำเภอในจังหวัดสงขลามาแล้ว 3 อำเภอ คือ อำเภอรัตภูมิ อำเภอจะนะ และอำเภอหาดใหญ่
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลงสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ของนายณรงค์พร ณ พัทลุง ด้วยประสบการณ์ในตำแหน่งนายอำเภอหาดใหญ่ จึงเชื่อกันว่าเป็นผู้ที่เข้าใจปัญหาของเมืองหาดใหญ่ ซึ่งเป็น“ศูนย์กลางธุรกิจการค้า”ของภาคใต้ตอนล่าง อย่างทะลุปรุโปร่ง ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในเทศบาลนครหาดใหญ่อย่างท่วมท้น
ยิ่งในตอนหาเสียงเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ นายณรงค์พร ณ พัทลุง ยังได้โฆษณาหาเสียงเรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมหาดใหญ่ไว้อย่างเป็นคุ้งเป็นแคว จากที่ปรากฏในคลิปวีดีโอ ซึ่งถูกปล่อยออกมาหลังเกิดเหตุการณ์ โดยนายณรงค์พรทำไม่ได้อย่างที่ประกาศกับชาวบ้านในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ว่า “ปลัดแป้นพร้อมทำเพื่อคนหาดใหญ่”
ถอดคำปราศรัยที่“ปลัดแป้น” หาเสียงพร้อมกับการออกตัวว่าไม่ได้โม้มาให้ดู 2 ย่อหน้าถัดจากนี้ เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่-ดังนี้
“เราต้องมีแผนระหว่างทำงาน ไม่ใช่เอาแต่โม้ ปลัดแป้นพร้อมทำเพื่อคนหาดใหญ่ การบริหารน้ำท่วมเหมือนกัน มันต้องมีก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ หลังเกิดเหตุ คือฟื้นฟู ก่อนเกิดเหตุล้างคูล้างท่อให้ทั่ว คุยกับคนที่ทำงานได้รู้เรื่อง คุยกับชลประทาน ว่าจะทำไม่ให้น้ำมันท่วมยังไง ระหว่างเกิดเหตุต้องเตรียมรถเตรียมเรือ เตรียมอุปกรณ์ เตรียมของกินให้พี่น้องประชาชน ไม่งั้นอดทั้งคืน ระยะสามคือฟื้นฟู ช่วยขนของ รถขนของมีมั้ยพี่น้อง มันต้องเข้าไปดูแล”
“นี่คือการป้องกันน้ำท่วมที่ถูกหลักวิชาการการทำงานของนักปกครอง เริ่มก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ เริ่มฟื้นฟู และต้องวางแผนป้องกันระยะยาวสี่ปี ตอนนี้ชลประทานทำคลองแบบคลอง ร.1 จากบริษัทห้องเย็นโชติวัฒน์ถึงเมืองหาดใหญ่แล้วพี่น้อง เริ่มเฟสแรก นั่นคือการป้องกันน้ำท่วมระยะยาว และเราก็ต้องแก้ปัญหาคอหงส์ แก้ปัญหาหลายจุดที่เคยมี เราต้องมีแผนพี่น้อง ระหว่างทำงาน ไม่ใช่เอาแต่โม้ ปลัดแป้นพร้อมทำเพื่อคนหาดใหญ่พี่น้อง”
ปรากฏว่า มหาอุทกภัยครั้งนี้ เพราะคำว่า“เอาอยู่”ของนายณรงค์พร ณ พัทลุง จึงทำให้คนหาดใหญ่ที่ฟังข่าวสารเข้าใจผิด คิดว่าน้ำคงไม่ท่วม ประกอบกับวีดีโอที่ทางเทศบาลนครหาดใหญ่สื่อสารออกมายังแสดงให้เห็นถึงความพร้อมเกี่ยวกับเครื่องสูบน้ำที่มีการเตรียมการไว้แล้ว ชาวบ้านจึงหมดกังวล ไม่จำเป็นต้องอพยพหลบภัย และเลยเถิดไปถึงรัฐบาลส่วนกลาง จากการรายงานข่าวสารที่ผิดพลาดของท้องถิ่นว่า“เอาอยู่” จาก“ปลัดแป้น”ก็กระทบไปถึง“นายกฯหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” ที่ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้
คำถามก็คือ นี่หรือ“คือการป้องกันน้ำท่วมที่ถูกหลักวิชาการการทำงานของนักปกครอง” ดังที่นายณรงค์พรณ พัทลุง กล่าว เพราะผิดพลาดตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ จนกระทั่งระยะสามคือการฟื้นฟู ว่าด้วยเรื่องเงินเยียวยาเกี่ยวกับปัญหาเอกสาร ทั้งที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นให้แนวทางแก้ไขไว้แล้วอย่างชัดเจน
ดังนั้น ก็สมควรที่คนหาดใหญ่กำลังรวบรวมรายชื่อเพื่อขับไล่“ปลัดแป้น” หรือ“นายกแป้น”ผู้นี้ ขณะที่เจ้าตัวประกาศว่า “ได้ทำเต็มที่แล้ว และจะไม่ลงเล่นการเมืองอีก ส่วนประชาชนจะว่าอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับประชาชน” ซึ่งถ้าเป็นนักการเมืองญี่ปุ่นหรือเกาหลี หากผิดพลาดซ้ำซากถึงขนาดนี้ มีอยู่สองทางเลือกเท่านั้น
คือทำ“ฮาราคีรี” หรือไม่ก็กระโดดหน้าผาลงทะเล !
รุ่งเรือง ปรีชากุล


เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี