วันศุกร์ ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ประเมินจากสภาวะทางการเมืองภายในและปัจจัยภายนอก บอกได้ว่าการปะทะรอบใหม่ไทย-กัมพูชาจะหาข้อสรุปได้ก่อนสิ้นเดือน ธันวาคมนี้
ถึงแม้กองทัพไทยซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งแรงจากคนไทย ให้จัดการกัมพูชาจนสิ้นสภาพเป็นภัยคุกคามอธิปไตยและเป็นอันตรายต่อลูกหลานไทยในระยะยาว และเมื่อสงครามชายแดนย่างเข้าวันที่ 9 ปัจจัยภายนอกและภายในบ่งชี้ว่าการปะทะรอบใหม่จะหาข้อสรุปได้ ก่อนวันหมดวาระประธานหมุนเวียนอาเซียนของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย
ทำไม จึงให้ความสำคัญกับนายอันวาร์ ?ต้องยอมรับความจริงว่า ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ปี 2025 ที่บานปลายต้องดึงเอา ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ มาแทรกแซงความขัดแย้ง ล้วนเป็นแผนการชั่วร้ายของนายอันวาร์สมคบกับไส้ศึกในประเทศไทย ทำทุกอย่างเพื่อปกป้องผลประโยชน์มากมายมหาศาลของมาเลเซียในกัมพูชา
ข้อมูลจากสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชาระบุว่าเงินลงทุนจากมาเลเซียในกัมพูชา มีมูลค่าจดทะเบียนกว่า 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และการลงทุนโดยตรง หรือ FDI สะสมราว 2.9-3.0 พันล้านดอลลาร์ ติดอันดับนักลงทุนรายใหญ่ของอาเซียน เงินลงทุนเหล่านี้กระจุกตัวในภาคส่วนอ่อนไหวต่อเสถียรภาพ ทั้งการเงิน อสังหาริมทรัพย์พลังงาน และธุรกิจกาสิโน ซึ่งล้วนพึ่งพาการกำกับดูแลของรัฐและความมั่นคงทางการเมือง
หัวใจสำคัญของเครือข่ายทุนมาเลเซียในกัมพูชา คือ อุตสาหกรรมกาสิโน โดยมี NagaWorld ในกรุงพนมเปญ เป็นศูนย์กลาง โครงการนี้ได้รับสิทธิผูกขาดใบอนุญาตยาว 70 ปี มูลค่าลงทุนรวมกว่า 5 พันล้านดอลลาร์
ขณะที่ภาคการเงิน ธนาคารมาเลเซียหลายแห่ง มีบทบาทผ่านสินเชื่อและวาณิชธนกิจเชื่อมโยงกับความร่วมมือระดับธนาคารกลาง สะท้อนภาพการวางกัมพูชาเป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายเศรษฐกิจภูมิภาค
เมื่อรวมมิติการลงทุน การค้า และบริการ กัมพูชาจึงไม่ใช่เพียงเป็นประเทศเพื่อนบ้าน แต่เป็นฐานยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจของมาเลเซีย ความไม่มั่นคงบริเวณชายแดนย่อมกระทบต่อรายได้ ความเชื่อมั่น และความเสี่ยงเชิงกฎระเบียบของนักลงทุน
ไส้ศึกในประเทศไทย จึงแนะนำให้นายอันวาร์ ใช้ฐานะประธานอาเซียนเคลื่อนไหวให้ไทยหยุดยิงเพื่อปกป้องผลประโยชน์มาเลเซียในกัมพูชา ประกอบกับ ฮุน มาเนต ซึ่งกำลังเพลี่ยงพล้ำจึงต้องทำตามแผนการชั่วร้ายของประธานอาเซียน และไส้ศึกในประเทศไทย ที่แนะนำให้ ฮุน มาเนต บรรณาการอันวาร์ จนประธานอาเซียนตาลายมองหาเส้นทางเป็นกลางไม่เห็น
จึงพูดได้เต็มปากว่า ข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมนั้น นายอันวาร์ใช้ตำแหน่งประธานอาเซียนเป่าหูทรัมป์ว่า ให้ทั้งสองฝ่ายตกลงหยุดยิงเวลา 00.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม โดยที่ผู้แทนไทยไม่รู้ล่วงหน้าทะเล่อทะล่าไปลงนามหยุดยิงอย่างไม่มีเงื่อนไข
ฝ่าย ปธน.ทรัมป์หูเบาวู่วาม โพสต์บน Truth Social วันที่ลงนามหยุดยิงจอมปลอมว่า “ไทย-กัมพูชาปะทะกันชายแดนมีคนตายหลายพันคน ผมดีใจที่ทำให้พวกเขาหยุดยิงได้
จึงไม่แปลกใจที่ ทรัมป์ โพสต์ บน Truth Social หลังจากพูดกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีไทย เมื่อคืนวันที่ 12 ธันวาคม ว่า “ทั้งสองฝ่ายตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เย็นนี้” แต่ปรากฏว่าวันที่ 13 ถึงวันนี้ (19 ธันวาคม) ยังคงปะทะกันตลอดแนวชายแดนตั้งแต่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี จ.ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี ลงไปถึง จ.ตราด
ฝ่ายกัมพูชาที่ตั้งทางทหาร ฐานปืนใหญ่ สะพานส่งเสบียง และยุทธปัจจัย ในจังหวัดพระวิหาร อุดรมีชัย บันเตียเมียนเจยพระตะบอง และ จ.โพธิสัตว์ ถูกทำลายเสียหายอย่างหนัก ในขณะที่ทรัมป์คุยว่าจัดการหยุดยิงได้แล้ว
ที่เลวร้ายกว่านั้น Truth Social ของทรัมป์ยังโพสต์ว่า “ทหารไทยบาดเจ็บล้มตายหลายคนเกิดจากอุบัติเหตุข้างถนน แต่ประเทศไทยตอบโต้รุนแรงเกินเหตุ”(ทรัมป์ คงคิดว่าทุ่นระเบิดกัมพูชา ถูกวางข้างถนนลาดยาง ทรัมป์ ไม่รู้ว่าเป็นทางเดินในป่า)
ข้อความของทรัมป์ ทำให้นายอนุทินควันออกหูสวนกลับไปว่า “มันไม่ใช่อุบัติเหตุข้างถนนนะโว้ย! แต่มันเป็นการตั้งใจลอบกัดทหารไทย เรื่องปฏิญญาห่าเหวนะหยุดพูดกันได้แล้ว” การตอบโต้ของนายอนุทินถึงแม้ไม่ตรงกับที่เราแปลแต่บอกได้ว่า นายอนุทินกินดีหมี กินเหล็กไหลมาตั้งแต่ไปปักกิ่งแล้ว
เมื่อนายอนุทินกร้าวเบอร์นั้น แสดงว่า ทรัมป์ไม่มีค่าในสายตารัฐบาลไทยต่อไป แต่ตัวร้ายที่สุด คือ นายอันวาร์ ยังหน้าด้านโฟสต์เฟซบุ๊กว่า “ทั้งสองฝ่ายตกลงหยุดยิงตอนสี่ทุ่ม (วันที่ 15) ข้อความของนายอันวาร์จึงไม่ต่างอะไรกับถ่มน้ำลายขึ้นฟ้ามันเลยตกใส่หน้าตัวเอง เพราะนายอนุทินสวนกลับไปว่า “(มึง)ให้หยุดยิงก็บอกเขมรให้ยอมจำนนสิ”
ในวันเดียวกัน ที่นายอันวาร์บอกว่า หยุดยิงตอนสี่ทุ่ม กองทัพภาคที่สองแถลงข่าวยึดขีปนาวุธต่อต้านรถถัง GAM-102 LR สัญชาติจีน ได้หลายชุด จากเนิน 500 จุดสูงข่มช่องอานม้า ที่ทหารไทยยึดคืนได้
การยึดขีปนาวุธต่อต้านรถถัง อานุภาพทำลายสูง ที่ใช้ระบบเทคโนโลยีล้ำยุคนำวิถีของจีน ได้เกิดกระแสวิจารณ์ว่า จีนตีสองหน้าหรือไม่ ที่แอบส่งอาวุธร้ายแรงให้เขมร
แต่หากพิเคราะห์ด้วยสติปัญญาจะพบว่า มันเป็นสัญญาณยอมแพ้ของกัมพูชา ที่บอกเป็นนัยว่ามีอาวุธล้ำยุคของจีนอย่าง PHL-03และ GAM-102 LR ไว้ในครอบครองแต่ก็ใช้ทำสงครามกับประเทศไทยไม่ได้ เก็บไว้ไม่มีประโยชน์สู้ให้ไทยยึดไปดีกว่า เผื่อว่าเทคโนโลยีจีนอาจตกไปถึงสหรัฐอเมริกาเจ้านายใหม่นำไปวิเคราะห์ศึกษาตอบโต้จีนได้นอกจากเหตุผลที่กล่าวมา ยังนึกไม่ออกว่าทำไม ฮุนเซน จึงให้เขมรแดงที่รบตามแนวชายแดนลาก GAM-102 LR ไปทิ้งไว้บนเนิน 500
จีนคงตระหนักถึงแผนการชั่วร้ายของฮุนเซน จึงไม่ขอคืน GAM-102 LR จากไทย ส่วนสหรัฐอเมริกาต้องพยายามแย่งไปให้ได้ แต่ถึงจุดนี้สหรัฐ คงสำเหนียกแล้วว่า ไทยมีท่าทีอย่างไร นี้เป็นอีกหนึ่งสัญญาณบ่งชี้ว่าความขัดแย้งไทย-กัมพูชาหาข้อสรุปได้ก่อนปีใหม่
รัสเซียโดยปกติไม่พูดถึงความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ถึงกับปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่าทหารรับจ้างรัสเซียช่วยรบกัมพูชา และเป็นไปได้ว่า รัสเซียบางคนเป็นสายลับให้กัมพูชาว่า “กระแสข่าวทั้งหมดไม่มีมูลความจริงและเป็นไปได้ว่าข่าวนี้ถูกปั่นกระแสมาจากภายนอก” แน่นอนว่ารัสเซียต้องชี้เป้าไปที่อเมริกาเป็นผู้สร้างข่าว
ทางด้านกระทรวงต่างประเทศจีน ก็ออกแถลงการณ์ว่า จีนใช้บทบาทสร้างสรรค์ต่อไปเพื่อไม่ให้ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ทวีความรุนแรงขึ้นไป บทบาทสร้างสรรค์ของจีน คือ ห้ามไม่ให้นายอันวาร์ แทรกแซงความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ให้สองประเทศเพื่อนบ้านจัดการปัญหากันเอง
บทบาทสร้างสรรค์อีกอย่างของปักกิ่งคือทำให้กัมพูชาไม่สามารถใช้อาวุธไร้แรงจากจีน เช่น จรวด PHL-03 และ GAM-102 LR ทำสงครามกับไทยได้ จะโดยวิธีไหนเกินความสามารถของเราจะเข้าใจ แต่ที่แน่ๆ คือกัมพูชามีขีปนาวุธจากจีนไว้เหมือนแท่งเหล็กธรรมดา
ตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 14 ธันวาคม แม่ทัพภาคที่สองออกคำสั่งห้ามส่งน้ำและยุทธปัจจัยผ่านชายแดนไทยไปสปป.ลาว เนื่องจากมีข้อมูลว่าน้ำมันกว่าสี่ล้านลิตรอาจส่งผ่านด่านชายแดนลาวไป จ.สตึงแตรง กัมพูชา ในเวลาเดียวกันกองกำลังจันทบุรี-ตราด ประกาศปิดอ่าวไทยป้องกันไม่ให้เรือบรรทุกน้ำลักลอบเข้ากัมพูชา
การปิดกั้นเส้นทางน้ำมันและยุทธปัจจัย เป็นสัญญาณบอกว่า กัมพูชาต้องศิโรราบภายใน 10 วัน สัญญาณทั้งหลายที่กล่าวมาเมื่อประกอบกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กำหนดให้วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 เป็นวันเลือกตั้ง และวันรับสมัคร สส. วันที่ 27-31 ธันวาคม 2568
ทั้งหมดที่กล่าวมาล้วนเป็นสัญญาณบอกว่า ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา5 ข้อสรุปได้ก่อนปีใหม่ ถึงวันนั้นนายอันวาร์พ้นจากหน้าที่ประธานหมุนเวียนอาเซียนไปแล้ว ไม่สามารถเอาชื่อประเทศไทยไปขายเพื่อให้ได้หน้าอีกต่อไป
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี