บ้านเมืองของเราขณะนี้ยังมีปัญหามากมาย ที่มีผลกระทบต่อความสงบสุข ความมั่นคงปลอดภัยในส่วนรวมของประเทศชาติ ทั้งปัญหาเก่าที่ยังตกค้างและปัญหาใหม่ที่ทยอยเข้ามาเพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆ แม้จะได้มีการรัฐประหารและใช้อำนาจอย่างเต็มที่ในช่วงเวลา 2 ปีเศษที่ผ่านมาก็ตาม ปัญหาทั้งเก่าและใหม่ก็ยังไปไม่ถึงไหนในการแก้ไข

แยกแยะให้เห็นทั้งปัญหาเก่าและใหม่ได้ 3 อย่างในภาพรวมคือ มี 3 วิกฤติ มี 4 โคม่า และมี 5 ปัญหา ที่ยังยืนอยู่หน้าประตูให้เห็นในขณะนี้

3 วิกฤติ คือ วิกฤติความมั่นคงจากการบ่อนทำลายสถาบันสูงสุดของชาติ ที่ยังคงมีกลุ่มคนหน้าเดิมๆที่เคยจาบจ้วงและกระทำในสิ่งไม่บังควรมาตลอดถึงขณะนี้ และวิกฤติทางเศรษฐกิจที่ยังโงหัวไม่ขึ้น มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในบ้านเมืองอย่างหนักในขณะนี้โดยเฉพาะผู้คนในระดับล่างที่ยังยากจนข้นแค้น รวมทั้งวิกฤติการทุจริตคดโกงในรูปแบบต่างๆ

4 โคม่า คือ โคม่าทางการเมืองที่หยุดนิ่งจากการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เนื่องมาจากการรัฐประหารครั้งล่าสุดขณะนี้ การเคลื่อนไหวทางการเมืองทุกอย่างถูกจำกัด ประชาชนยังแตกแยกขัดแย้งกันรุนแรง และ โคม่าที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งแก้ไขกันไม่ถูกจุด เกิดความรุนแรงต่อเนื่องในขณะนี้ รวมถึงโคม่าของประชาชนผู้ยากจนหาเช้ากินค่ำโดยเฉพาะพวกเกษตรกรทำนาทำไร่ ซึ่งมีปัญหายุ่งเหยิงพัลวันทั้งในเรื่องพื้นที่ทำกิน พืชผลที่เพาะปลูกและการขาย ตลอดจนหนี้สินที่เพิ่มสูงท่วมหัว แม้กระทั่งโคม่าด้านการจัดการกับปัญหาสิ่งแวดล้อม การจัดการทรัพยากรของประเทศ ตลอดจนภัยธรรมชาติ ทั้งในเรื่องน้ำท่วมและภัยแล้ง

5 ปัญหา คือ ปัญหาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะชาวนา ชาวไร่ กรรมการ และคนทำมาหากินในระดับล่างทั้งหลาย ปัญหาด้านคุณธรรม ศีลธรรมที่ตกต่ำลงในหมู่คนทุกระดับ แม้กระทั่งในระดับผู้บริหารที่ไร้ธรรมาภิบาล ปัญหาด้านการศึกษาที่ขาดการให้ความสำคัญในการอบรมความประพฤติดีๆ ในหลักสูตรการศึกษา ปัญหาการจัดการด้านพลังงานอันเป็นทรัพยากรของแผ่นดินที่มีมหาศาล ไม่ว่า น้ำมันหรือแก๊ส ที่ยังคงปล่อยปละละเลย ไม่ใส่ใจต่อการเรียกร้องของประชาชน ที่ต้องการให้มีการจัดการแก้ไขใหม่เพื่อประโยชน์กับประชาชนจริงๆ และ ปัญหาด้านสิ่งเสพติดทั้งหลายที่ยังคงมีอยู่และนับวันจะขยายตัวมากขึ้น

นี่คือ 3 วิกฤติ 4 โคม่า และ 5 ปัญหา

ยังยืนรออยู่หน้าประตูบ้านให้แก้ไขครบทุกเรื่อง

เวลาที่เหลืออยู่ตามโรดแมปที่สัญญาไว้กับประชาชนจึงควรตระหนักในเรื่องดังกล่าวนี้ให้มาก ว่าสมควรจะดำเนินการอย่างไรเพื่อบ้านเมืองและประชาชน

คิดอ่านจะทำอะไร และทำอย่างไร ต้องรีบหน่อย

หมดเวลาตามโรดแมปแล้วจะได้ไม่มีคนคอยยืนด่า

ทุกปัญหามีทางออกทั้งสิ้น ถ้าเป็นคนที่รู้จักห้ามเลือด รู้จักจับชีพจร รู้จักปั๊มหัวใจ และรู้จักลงมือทำให้ทันการณ์

ถ้าไม่รู้จักในเรื่องดังกล่าวเพราะไม่ได้ร่ำเรียนมาก็ต้องรู้จักหาคนที่มีความรู้ความชำนาญ เหมือนหาหมอเฉพาะทางที่มีความรู้มีประสบการณ์ในการทำงานอย่างที่ต้องการแก้ไขมาคอยช่วยเหลือหรือแนะนำ แต่ต้องไม่ส่งเดชในการใช้คนแม้จะเป็นคนพวกเดียวกัน

ทุกสิ่งทุกอย่างของปัญหามีทางออกทั้งนั้นถ้าใช้ปัญญา

ปัญญาที่มีสติกำกับภายใต้จิตใจที่มั่นคง

เหมือนที่ภาษิตจีนบอกว่า กระบี่อยู่ที่ใจ

กระบี่มีไว้ใช้ต่อสู้กับสิ่งที่กำลังต่อสู้ ไม่ว่าคนหรือปัญหา แต่จะนำออกใช้ในตอนไหนอยู่ที่ปัญญาของผู้ใช้ และอยู่ที่หัวใจของผู้ใช้ว่าเด็ดขาดกล้าหาญแค่ไหน

การที่ปัญหาทั้งหลายทั้งปวง โดยเฉพาะในเรื่อง“3 วิกฤติ 4 โคม่า และ 5 ปัญหา” ที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งยังคงอยู่และมีเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆนั้น เหตุเป็นเพราะไม่รู้จักใช้กระบี่ที่มีอยู่ในมือให้เป็นประโยชน์เต็มที่ตั้งแต่ต้น

เมื่อคนมีกระบี่ไม่ทำ คนถือปากกาก็ทำอะไรไม่ได้

โดยเฉพาะอำนาจที่มีในมือเป็นพิเศษ ซึ่งสามารถจะออกคำสั่ง ออกกฎข้อบังคับต่างๆ ขึ้นใช้เองได้โดยไม่ต้องผ่านช่องทางตามกระบวนการปกติ มีอำนาจเหมือนศาล ที่ใครก็ตามที่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวแล้ว ไม่ต้องรับผิดทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางวินัยใดๆ ทั้งสิ้น

เพราะฉะนั้นคนที่ได้อำนาจได้กระบี่มาถือจากการทำรัฐประหารครั้งนี้ โดยเฉพาะยิ่งได้เคยร่ำเรียนวิชาทางทหารมาด้วยแล้ว ยิ่งต้องมีความรู้ความเข้าใจดีกว่าคนอื่นๆ ที่ไม่ได้ร่ำเรียนมา นั่นก็คือ “สิ่งสำคัญในการทำสงครามต่อสู้ก็คือ ชัยชนะ ไม่ใช่การทำสงครามยืดเยื้อ”

จะชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดตามความมุ่งหมายของการอาสาตัวเข้ามาแก้ไขด้วยการยึดอำนาจจากคนไม่ดีที่ทำบ้านเมืองเสียหายนั้น จำเป็นต้องทบทวนการทำงานที่ผ่านมาจนเกือบจะหมดเวลาอยู่แล้วในขณะนี้ ว่าได้ดำเนินการในเรื่องอะไรมาบ้าง

เพราะจะก้าวเดินไปข้างหน้าต้องสำรวจก้าวย่างที่ผ่านมา และได้มีการดำเนินการตามภารกิจที่ตั้งใจไว้เมื่อตอนเข้ามาว่าได้ทำครบหรือยังไม่ครบอะไรบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตรงไหนทำได้แล้ว ตรงไหนยังไม่ได้ทำ

ลงจากเวทีจะมีความปลอดภัยไม่ถูกท่า

น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ