nn วันก่อนมีดราม่าในโลกโซเชียล...ให้“เดอะตู่”... นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมสรรพสามิต...ต้องปวดขมองเล็กน้อย...เรื่องการเข้าไปจับเหล้าต่างประเทศ 7-8 ขวด...ที่ผู้ครอบครองแจงว่าเป็นเหล้าสะสม...ทำให้เกิดกระแสกระแหนะกระแหนกรมสรรพสามิตว่าใครสะสมเหล้าให้ระวังให้ดี...กรมสรรพสามิตจะเข้าไปจับปรับ....!! เรื่องของเรื่องเป็นอย่างนี้ครับ...เหล้าเจ้าปัญหา 7-8 ขวดที่ว่านั้น...เป็นผลจากที่จากหน้าที่กรมสรรพสามิตเข้าไปตรวจค้นตามหมายค้นบ้านหลังดังกล่าว หลังจากมีกรณีที่ขายไผ่ที่ไม่มีอากรแสตมป์...เมื่อเห็นว่าเหล้านั้นไม่มีการติดอากรแสตมป์ก็เลยดำเนินตามกฎหมายไปด้วย....ส่วนเรื่องเหล้าสะสม...หากว่าซื้อจากดิวตี้ฟีมาซึ่งไม่มีแสตมป์...และชี้แจงได้ว่าได้มาจากการเดินทางไปต่างประเทศและซื้อเข้ามาครั้งละขวดตามกฎหมายมาเก็บไว้...อันนี้ก็ไม่ผิดกฎหมาย....ส่วนเหล้าสะสมหากว่าเป็นว่าเหล้าที่มีอากรแสตมป์ถูกต้อง...ท่านจะสะสมเท่าไหร่ก็ได้ไม่ผิดกฎหมาย...!! เข้าใจตรงกันนะ....
nn กระทรวงการคลัง....ธนาคารแห่งประเทศไทย.... สมาคมธนาคารไทย....ล้วนให้ความสำคัญต่อความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน...เรื่องการชักชวนให้มีการลงทุนใน...ไอซีโอและคริปโตเคอเรนซี (cryptocurrency)...อย่างธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น...แสดงท่าทีที่ไม่เห็นด้วยชัดเจนถึงขนาดว่าออกหนังสือเวียนถึงธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งว่า ห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกรรมนี้...
แต่ที่สังคมสงสัย...คือในเมื่อ 3 ส่วนหลักด้านเศรษฐกิจประเทศแสดงท่าทีชัดเจนขนาดนี้แล้ว...ทำไมเมื่อสัปดาห์ก่อน ยังมีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งหนึ่งออกมาระดมทุนผ่าน ICO ได้อีก...ดังนั้นคนที่ต้องตอบคำถามให้กับสังคมก็ต้องเป็น...คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)....ซึ่ง....คุณรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)...ก็ได้บอกกับสังคมอย่างนี้ครับว่า... การลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้มีความเสี่ยงในหลายแง่มุม หากผู้ลงทุนไม่เข้าใจอย่างแท้จริงจะเสียหายได้โดยง่าย นอกจากนี้ อาจมีผู้ฉวยโอกาสในการสร้างกระแสโดยนำโครงการที่มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนมาเป็นจุดขาย หรือโครงการที่ไม่มีแผนธุรกิจที่ชัดเจนที่จะสามารถรองรับการใช้เทคโนโลยีดังกล่าว และ/หรือนำเรื่องเทคโนโลยีมาบังหน้า เพื่อหลอกลวงประชาชนให้ลงทุน.....ปัจจุบันยังไม่มีเกณฑ์กำกับดูแลการออกไอซีโอผู้ลงทุนจึงไม่ได้รับความคุ้มครองใดๆ ประกอบกับโครงการที่ระดมทุนอาจยังเป็นเพียงแนวคิด และการดำเนินการตามโครงการที่ระบุอาจไม่สำเร็จ หรือสำเร็จแต่ไม่เหมือนที่เปิดเผยไว้แต่แรก เนื่องจากข้อมูลในเอกสารประกอบการเสนอขายไอซีโอ (white paper) นั้นอาจเปรียบเสมือนเป็นสัญญาปากเปล่า....!! ฟังดูแล้วน่าขนลุกไหมครับพี่น้อง....แต่ว่าลองขีดเส้นใต้ตรงนี้...” แนวทางกำกับดูแลที่อยู่ระหว่างพิจารณาของทางการ จะเปิดให้การระดมทุนและทำธุรกรรมในช่องทางนี้ที่สุจริต สามารถดำเนินไป”..!! สรุปคือในอนาคตอาจทำได้หากถูก...ที่แวดวงการเงิน...กังวลคือ ก่อนที่แนวทางการควบคุมของทางการจะออกมา...แล้วมีการกระดมทุนในรายอื่นๆล่ะทำไง...ความเสียหายที่เกิดขึ้นนักลงทุนต้องรับผิดชอบเองใช้หรือไม่...!! อย่าลืมนะว่าคนมีเงินก็ไม่ได้แปลว่ามีความรู้ความเข้าใจเหมือนกันทุกคน...พวกเขาอาจจะถูกหลอกก็ได้...!! หนึ่งในหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐคือ...การให้ความคุ้มครองต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไม่ใช่หรือ...!! อย่าอ้างว่าเมื่อไม่มีกฎหมายกำกับก็ไม่มีอำนาจในการควบคุม...และปล่อยให้มีรายอื่นออกมาอีกในระหว่างนี้เลย...มันจะเสียหายหนักกว่าตอนที่ลุงคนหนึ่งไปยิงตัวตายในตลาดหลักทรัพย์ฯเพราะเจ๊งหุ้นนะจะบอกให้...nn
อนันตเดช พงษ์พันธุ์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี